Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 พฤศจิกายน 2548
คอนโดฯหัวหินบูมราคาอัป15%             
 

 
Charts & Figures

แนวโน้มตลาดคอนโดที่หัวหิน
โครงการคอนโดมิเนียมที่หัวหิน


   
search resources

Real Estate




อสังหาฯ "หัวหิน" บูม คอนโดฯใหม่เข้า ตลาด 1,464 ยูนิต เน้นกลุ่มลูกค้ากลาง-บน ราคาขายปรับขึ้นปีละ 10-15% ด้านบริษัท ไนท์ แฟรงค์ ระบุประสบความสำเร็จ เกือบทุกโครงการ อัตราขายเฉลี่ย 66% ความต้องการ มีต่อเนื่อง แต่ที่ดินมีจำกัด คาดแนวโน้มการพัฒนาขยายตัวไป อ.ปราณบุรีแทน ด้านโบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน เตรียมออกโรดโชว์ที่ฮ่องกงหวังดูดเงินจากชาวต่างชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "หัวหิน" เมืองชายทะเลที่มีเสน่ห์มาอย่างยาวนาน ในอดีตเจ้านายและขุนนางใน สมัยรัชกาลที่ 5 นิยมใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ไปพักตากอากาศตามอย่างชาวตะวันตก เพราะเชื่อว่า ชายทะลจะทำให้สุขภาพแข็งแรง หายเหนื่อยล้า และพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวยังคงมีต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ ที่พักตากอากาศ อาทิ โรงแรม, บ้านพัก และคอนโดมิเนียม จึงเติบโตขึ้น เป็นอย่างมาก แม้บางช่วงเวลาอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ทำให้ธุรกิจดังกล่าวหดตัวลงไปบ้างก็ตาม

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมริมชายหาดหัวหินมีการเติบโตขึ้นอีกครั้ง มีการเปิดขายคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการจากค่ายแสนสิริ ชื่อโครงการบ้านแสนเพลินในช่วงนั้น สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงความต้องการในตลาดที่พักอาศัยในหัวหินยังคงมีอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้มีผู้ประกอบการหลายรายมุ่งความสนใจพัฒนาโครงการ ต่างๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยข้อจำกัดในด้านพื้นที่โครงการใหม่ๆ จึงเริ่มขยายตัวออกไปยังพื้นที่ชายทะเลใกล้เคียง เช่น ชะอำ และเขาเต่า

จากการสำรวจโครงการคอนโดมิเนียมในย่าน หัวหิน ชะอำ ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่มีพื้นที่ติดชายหาดซึ่งเป็นจุดขายของที่พักอาศัยในเมืองชายทะเลทั่วไป ภายในโครงการมักทำอาคารเตี้ยในลักษณะโลว์ไรส์ (Low Rise) และพัฒนาในรูปแบบ ผสมผสาน ( Mix use development ) กับบ้านเดี่ยวหรือโรงแรม เป็นต้น สำหรับพื้นที่ใช้สอยภายใน ยูนิตพักอาศัยมีตั้งแต่ 50-330 ตารางเมตร (ห้องสตูดิโอ-5 ห้องนอน) โดยประเภท 2 ห้องนอน มีสัดส่วนกว่า 60% ของตลาด พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 75-173 ตารางเมตร รองลงมาเป็นขนาด 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 139-260 ตารางเมตร

สำหรับราคาขายของคอนโดมิเนียมตากอากาศ ในย่านชายหาดหัวหิน เริ่มต้นตั้งแต่ 40,000-75,000 บาท/ตารางเมตร แตกต่างไปตามที่ตั้งโครงการและมุมมองวิวทะเลของยูนิตขายนั้นๆ สำหรับราคาขายห้องชุดในพื้นที่หัวหินปัจจุบันอยู่ระหว่าง 65,000-75,000 บาท/ตารางเมตร ส่วนพื้นที่ชะอำอยู่ระหว่าง 45,000-55,000 บาท/ตารางเมตร ในขณะที่พื้นที่ เขาเต่า ซึ่งเป็นพื้นที่ชายหาดค่อนข้างใหม่ที่เริ่มมีการบุกเบิกพัฒนาโครงการฯบ้างแล้ว ราคาขายอยู่ระหว่าง 58,000-80,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งราคาขายส่วนในพื้นที่หัวหินและชะอำได้ปรับขึ้นกว่า 10-15% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับยอดขายมีอัตราส่วนยอดขาย 66% แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงการสำรวจมีโครงการใหม่เริ่ม เปิดขาย ส่งผลให้อัตราส่วนยอดขายรวมอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบการขายในตลาดทั่วไป แต่คาดว่าช่วงไตรมาส 1-2 ของปี 2549 ปริมาณยอดขายจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มตลาดคอนโด-มิเนียมในหัวหิน ชะอำและเขาเต่า ยังคงเติบโตอย่าง ต่อเนื่องทั้งในด้านของอุปทานและความต้องการซื้อ พิจารณาได้จากศักยภาพพื้นที่เป็นหลัก ในขณะที่ราคา เสนอขายของโครงการใหม่ๆ สมเหตุสมผลและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ซื้อ

ด้านนายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในย่าน อ.หัวหิน อ.ชะอำ และอ.ปราณบุรี ว่า มี แนวโน้มอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2547 เป็นต้นมามีผู้ประกอบการ รายใหญ่เข้ามาพัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านพักตากอากาศ และคอนโดมิเนียมจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จ จนถึงปัจจุบันมีจำนวนคอนโดมิเนียมออกมาสู่ตลาดจำนวน 1,464 ยูนิต มียอดขายเฉลี่ยประมาณ 66% ราคาขายขยับขึ้นปีละ 10-15%

ทั้งนี้ จำนวนคอนโดมิเนียมดังกล่าว ถือว่ายังไม่มากนัก ซึ่งจากการสำรวจยังมีความต้องการที่มาก กว่าจำนวนสินค้าที่มีอยู่ในตลาด โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมามีการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะยังมีความต้องการเข้ามาอย่าง ต่อเนื่อง แต่หัวหินมีข้อจำกัดในเรื่องของที่ดินที่จะนำมาพัฒนานั้น มีน้อยมาก ส่วนที่ดินที่เหลือส่วนใหญ่ เป็นของสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทำให้เชื่อว่าแนวโน้มการพัฒนาจะขยายตัวไปทาง อ.ปราณบุรี ส่วนในย่านปึกเตียน บางซ่อนนั้น ริมหาดไม่สวยทำให้ไม่เป็นที่นิยม
"อสังหาฯที่หัวหิน เป็นได้ทั้งบ้านพักตากอากาศ และกึ่งลงทุน เนื่องจากราคาขยับขึ้นทุกปี ซึ่งในอดีต การเปิดขายคอนโดฯ จะมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายระบบบน กลุ่มไฮโซ หัวหินเป็นเมืองมีตำนานเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ การพัฒนาหรือการเกิดขึ้นของธุรกิจต่างๆ รวมถึงธุรกิจบันเทิง แม้ว่าทางกฎหมายจะสามารถทำได้ แต่หลักปฏิบัติแล้วไม่สามารถทำได้ ทำให้หัวหินยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรมสวยงาม ต่างไปจากแหล่งท่องเที่ยวอื่น เช่น พัทยา" นายพนมกล่าว

ล่าสุด บริษัทได้เข้ารับบริหารงานขายให้กับโครงการ โบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน ของบริษัท โบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน จำกัด บนเนื้อที่กว่า 73 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 114 ยูนิต ราคา 10-30 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น Beach Front Villa จำนวน 2 ยูนิต, Type A 4 ยูนิต, Type B 6 ยูนิต, บ้านเดี่ยว 3 ชั้น Central Lagoon Villa จำนวน 19 ยูนิต, บ้านแฝด 3 ชั้น Semi-Detached House จำนวน 92 ยูนิต

นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมีคอนโดมิเนียม 4 อาคาร จำนวน 385 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.5-17 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30% คาดว่าจะใช้เวลาพัฒนา 2 ปี สำหรับจุดเด่นของโครงการ คือบริษัทได้จัดสรรพื้นที่ 50% เป็นพื้นที่ส่วนกลางและสันทนาการจากพื้นที่ทั้งหมด 73 ไร่ นอกจากนี้ยังพัฒนาสวนขนาดใหญ่ทอดยาวต่อเนื่องกับสระว่ายน้ำขนาด 15,000 ตร.ม. มูลค่า 200 ล้านบาท พร้อม Infinity Pool โดยสะระว่ายน้ำเชื่อมติดหน้าบ้านทุกหลังยาวจนถึงหน้าทะเล

นายพนม กล่าวว่า บริษัทเตรียมนำโครงการโบ๊ทเฮ้าส์ ไปโรดโชว์ที่ฮ่องกง ในสัปดาห์นี้ เนื่องจาก พบว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวฮ่องกง และชาวต่างชาติที่ทำงานในฮ่องกง ดังนั้น การนำโครงการไป โรดโชว์ดังกล่าวจึงเชื่อว่าจะสร้างยอดขายให้บริษัทได้เป็นอย่างดี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us