Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 พฤศจิกายน 2548
จับตาสื่อวิทยุป่วนรับ "กสช." ล้ม ทราฟฟิกฯ ปรับทิศเพิ่มฐานคอนเทนต์             
 


   
www resources

โฮมเพจ ทราฟฟิก คอร์เนอร์

   
search resources

ทราฟฟิกคอร์เนอร์ โฮลดิ้งส์, บมจ.
Radio




ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ประเมินสถานการณ์ หลัง กสช. ล้ม ชี้ธุรกิจสื่อวิทยุปั่นป่วนหนักกว่าทีวี คาดรายใหม่เกิดยาก พร้อมปรับทิศทางใหม่ มุ่งเน้นรายได้จากคอนเทนต์มากขึ้น ลดสัดส่วนรายได้จากโฆษณาลง หวังลดความเสี่ยงธุรกิจ

จากกรณีศาลปกครองกลางได้มีการเพิกถอนคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ หรือ กสช. ทั้งหมด 7 คน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 48 ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่าการสรรหาคณะกรรมการฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครรายอื่น

นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ทราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว ธุรกิจที่น่าจะได้รับผลกระทบและวุ่นวายที่สุด คือ ธุรกิจวิทยุ ในเรื่องการต่อสัมปทานคลื่นที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปีนี้เหมือนเดิมและคาดว่าจะมีการแข่งขันแย่งคลื่นมากขึ้น โดยแต่เดิมหากกสช.ยังไม่ล้ม กสช.มีแผนที่จะต่อสัญญาให้รายเดิมต่อไปและจะให้สัญญาระยะยาว 5 ปี แก่เจ้าของคลื่น ซึ่งตรงนี้ทำให้เจ้าของคลื่นนิ่งนอนใจ แต่เมื่อกสช.ล้มเลิกไปบรรดาผู้ประกอบการหลายรายจะต้องมีการวิ่งเต้นเพื่อแย่งชิงประมูลคลื่นวิทยุ ซึ่งตรงนี้จะส่งผลให้ราคาค่าสัมปทานคลื่นวิทยุมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น 10%

ส่วนอัตราค่าสัมปทานที่สูงคงมีเพียงไม่กี่คลื่นเท่านั้น เพราะหากราคาสูงมากอาจ ไม่คุ้มกับการลงทุน และเม็ดเงินโฆษณาในปีหน้าค่อนข้างทรงตัว ซึ่งผู้ประกอบการที่เป็นผู้เล่นหลักในตลาดมีเพียง 7-8 ราย ที่มีคลื่นเกิน 1 คลื่น ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่คาดว่าคงไม่มีหากเรื่อง กสช.ยังไม่จบ ในส่วนผู้ประกอบการรายเดิมมีการรองรับไว้แล้วหาก กสช.เกิด แต่หากไม่เกิดก็ดำเนินธุรกิจต่อไป อาจมีการปรับกลยุทธ์บ้างบางเรื่อง ส่วนธุรกิจอื่นอย่างทีวีและเคเบิลทีวีคงไม่ได้รับผลกระทบและยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงมากนัก ส่วนการจัดตั้งกสช.ครั้งใหม่คาดว่าคงต้องใช้ระยะกว่า 2 ปี ในการคัดสรรตัว การแต่งตั้ง และเสนอเรื่องเข้าวุฒิสภา ซึ่งวุฒิสภาเองก็จะหมดวาระในช่วงต้นปีหน้าด้วย ในส่วนของบริษัทฯ ไม่ค่อยได้รับผลกระทบ เนื่องจากคลื่นวิทยุที่มีอยู่ 5 คลื่น คือ คลื่นลูกทุ่ง 103 ที่ทำกับเวอร์จิ้น และ 4 คลื่นของบีเอ็นที ได้แก่ เลิฟเอฟเอ็ม 94.5, ลูกทุ่งรักไทย 98.0, บางกอกทูเดย์ 99.5 และแชนเนลวี 107.5 เพิ่งหมดสัญญาไปเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา และได้มีการเซ็นสัญญาใหม่ไปแล้ว ขณะที่อีกค่ายที่คาดว่าจะไม่กระทบคือ สกายไฮของอาร์.เอส.ฯ ที่มีการต่อสัญญาระยะยาวกับทางสทร.

' ทราฟฟิกฯ ปรับทิศเน้นคอนเทนต์

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ในฐานะผู้ประกอบการ บริษัทฯ เตรียมบริหารสื่อและคอนเทนต์ที่มีอยู่ให้ดีที่สุดและพยายามหาสิ่งใหม่เข้ามาเสริมในธุรกิจ เพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการปรับรูปแบบใหม่ไปสู่คอนเทนต์กีฬามากขึ้น ซึ่งแต่เดิมรายได้ส่วนใหญ่กว่า 90% จะมาจากการโฆษณา ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น 60% เป็นรายได้จากโฆษณา และที่เหลือ 40% มาจากคอนเทนต์ผ่านเคเบิล คอนเทนต์ผ่านมัลติมีเดีย และการจัดกิจกรรมอีเวนต์กีฬา

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2549 บริษัทฯ จะเน้นทางด้านสปอร์ตคอนเทนต์ โพรไวเดอร์ ซึ่งบริษัทฯ ได้ลิขสิทธิ์การแข่งขันกีฬาหลายประเภท โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลของต่างประเทศ อาทิ พรีเมียร์ ชิป ของอังกฤษ, บุนเดสลีกาของเยอรมนี, กัลโชเซเรีย อา ของอิตาลี และ 2 รายการที่เกี่ยวกับฟุตบอลโลกในปีหน้า เป็นต้น โดยมีให้ชมกว่า 200 คู่ เริ่มตั้งแต่ ธ.ค.48 จนถึงฟุตบอลปิดฤดูกาล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองกีฬาอื่น เช่น เทนนิส, กอล์ฟ, อินดอร์ซอกเกอร์ และมวยไทย ซึ่งต้องเป็นกีฬาที่คนไทยให้ความสนใจ

ขณะที่ช่องทางการนำเสนอคอนเทนต์กีฬามีหลายช่องทาง อาทิ ถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีอย่างช่อง 3 และช่อง 7 หรือออกอากาศเป็นเทป รวมถึงยังมีสื่อผ่านทางเคเบิลทีวี รายงานผลผ่านเอสเอ็มเอส และเว็บไซต์ ฯลฯ ซึ่งหากคิดเป็นยอดรายได้ทั้งฟรีทีวีและเคเบิลทีวีจะมีสัดส่วนรายได้พอๆ กัน

ประกอบกับปีหน้าบริษัทฯ ยังตั้งเป้ายอดขายพื้นที่โฆษณาในทุกสื่อเพิ่มขึ้น 20-30% หรือมีรายได้ 1,000 ล้านบาท โดยจะเน้นทางด้านคอนเทนต์กีฬาเป็นหลัก ซึ่งจากเดิมบริษัทฯ จะมีรายได้จากการขายโฆษณาผ่านฟรีทีวีเพียงอย่างเดียวและจากกิจกรรมบ้างเล็กน้อย แต่จากการที่กระแสกีฬาของคนมีมากขึ้น

สำหรับยอดรายได้ของบริษัทฯ ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 700 ล้านบาท หรือโต 20% แบ่งเป็นรายได้คอนเทนต์กีฬา 200 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการโตขึ้น 161% จากปีที่แล้ว โดยหากคิดเป็นสัดส่วนรายได้กีฬาจะมี 30% ข่าว 30% และอื่นๆ เช่น สิ่งพิมพ์ 40% ส่วนปี 2549 คาดว่ายอดรายได้จะเป็น 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดจากกีฬา 400 ล้านบาท หรือคิดสัดส่วนเป็น 40% และที่เหลือเป็นคอนเทนต์อื่นๆ เช่น ข่าวและนิตยสาร   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us