|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เฟดเอ็กซ์ สบช่อง ไทยเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และการสนับสนุนธุรกิจ เอสเอ็มอี และสินค้าโอทอป ปีหน้าวางนโยบายเดินหน้าเปิดศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เล็งเปิดสาขาเพิ่มในเมืองหลักๆของประเทศอินเดียและออสเตรเลีย รับอานิสงส์เปิดเสรีเอฟทีเอ ส่งการค้าระหว่างประเทศเติบโต
นายคลิฟตัน ฉั่ว กรรมการผู้จัดการ เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (FedEx Express) ประจำประเทศไทย อินโดจีน และฟิลิปปินส์ ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า และพัสดุภัณฑ์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังมีแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการเติบโตจากสินค้าชุมชนมาสู่ธุรกิจเอสเอ็มอี และสินค้าโอทอปที่มีการส่งออกและส่งสินค้าไปจำหน่ายยังที่ต่างๆในประเทศ จึงต้องใช้บริการขนส่งสินค้า
ดังนั้น เพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว แผนธุรกิจในปี 2549 บริษัทฯ ก็ยังคงขยายงานด้วยการเดินหน้าเปิดศูนย์ บริการ เวิลด์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเปิดได้ไม่น้อยกว่าปีนี้ที่เปิดไปแล้วรวม 7 แห่ง เพราะต้องการให้บริการได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
นอกจากนั้น ยังเตรียมที่จะลงทุนสร้างคาร์โกที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเปิดให้บริการไปพร้อมกับการเปิดใช้สนามบินในกลางปีหน้า ทั้งนี้สนามบินสุวรรณภูมิ จะช่วยให้ธุรกิจคาร์โกของประเทศไทยเติบโตมากขึ้น เพราะสามารถรับและส่งสินค้าได้จำนวนมากขึ้น ซึ่งในส่วนของเฟดเอ็กซ์ ได้มองโอกาสทางการตลาดนี้ไว้แล้ว จึงได้เปิดศูนย์บริการ เวิลด์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ ไปแล้วที่บางนา โดยเตรียมพนักงานและพื้นที่จอดรถไว้จำนวนมาก พร้อมขยายตัวรับมือได้เต็มที่
ล่าสุด ได้เปิดตัวศูนย์บริการ เวิลด์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ ที่ จังหวัดสระบุรี ซึ่งจังหวัดนี้เดิมเฟดเอ็กซ์ให้บริการโดยผ่านเอเยนต์ 2 ราย แต่ผู้ใช้บริการได้เรียกร้องให้เฟดเอ็กซ์ ไปเปิดเป็นศูนย์บริการของตัวเอง ซึ่งบริษัทฯ ก็มองเห็นศักยภาพของตลาดในย่านนี้ เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรม และมีสินค้าชุมชนในกลุ่มเอสเอ็มอีจำนวนมาก จึงตัดสินใจเปิดเป็นศูนย์บริการ และข้อดีของการเปิดศูนย์ดังกล่าว ได้ช่วยให้ลูกค้าส่งสินค้าไปถึงปลายทางได้เร็วขึ้นโดยใช้เวลาภายในวันเดียว
"ในกรุงเทพฯ ในต้นปีหน้าจะเปิดศูนย์บริการที่ประตูน้ำเซ็นเตอร์ เพื่อเปิดให้บริการลูกค้าที่ต้องการส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ตั้งแต่ 10.00-22.00 น.ทุกวัน ขณะที่ต่างประเทศก็เตรียมที่จะเปิดศูนย์บริการ และคลังคาร์โกที่เมืองสำคัญๆ ใน 2 ประเทศ คือ อินเดีย และออสเตรเลีย เช่น นิวเดลี บอมเบย์ และซิดนีย์ เป็นต้น"
ทั้งนี้เพราะจากการเปิดเสรีทางการค้า หรือ เอฟทีเอ กับทั้ง 2 ประเทศดังกล่าว จะส่งผลให้ประเทศไทยจะมีการค้าขายระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น โดยตัวเลขจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.48 ประเทศไทยส่งออกสินค้าไปประเทศออสเตรเลียเป็นมูลค่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอินเดียเป็นมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นอกจากการขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว บริษัทฯ ยังมีนโยบายปรับปรุงบริการอย่างต่อเนื่อง โดยนำระบบไอที และลงทุนด้านระบบขนส่ง เพื่อให้บริการขนส่งในเวลาที่รวดเร็วขึ้น และสามารถเช็กสินค้าและเอกสารระหว่างการเดินทางได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ
|
|
|
|
|