|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอ.อาร์. คาดตัวเลขเม็ดเงินสะพัดในงาน "คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2005" จะสามารถแตะระดับพันล้านบาทได้ในฐานะงานสุดท้ายที่ทุกค่ายจะกระหน่ำส่งท้ายปี เชื่อภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองไม่ส่งผลเนื่องจากเป็นงานที่ปลดปล่อยความอัดอั้นที่ตลาดไอทีนิ่งมาตลอดไตรมาส ระบุชัดกระแสโน้ตบุ๊กแรงจัดจนยอดขายอาจพุ่งถึง 1 หมื่นเครื่อง
นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไปบริษัท เอ.อาร์.อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า การจัดงานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ เทียบได้กับเวทีสุดท้ายของปีที่ผู้ผลิตทุกค่ายจะทุ่มเททำตลาดอย่างเต็มที่ พร้อมประกาศจุดยืนว่า เอ.อาร์.จะเป็น "ไอทีมหาชน" ตัวกลางที่ดีที่สุดในการเชื่อมผู้ผลิตและผู้บริโภคทุกระดับชั้นเข้าด้วยกัน
"เราจัดงานมา 11 ครั้ง เราเชื่อว่าเราเป็นตัวกลางที่ดี เราสนิทกับเวนเดอร์ รู้ข้อมูลเวนเดอร์ว่ามีผลิตภัณฑ์อะไร ขณะที่เราก็สนิทกับผู้อ่าน รู้ว่าผู้อ่านซึ่งเป็นผู้บริโภคอยากได้อะไร เราเชื่อว่าเราพร้อมที่สุด เราตั้งใจจะเป็นไอทีมหาชนเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกระดับชั้น เป็นไอทีสำหรับทุกชนชั้น โดยงานนี้ผู้ผลิตหลายรายยกเอาผลิตภัณฑ์ใหม่มาเปิดตัวเต็มที่ โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ก ที่สำคัญงานนี้น่าจะเป็นงานสุดท้ายที่ดอกเบี้ยจะถูก เพราะปีหน้าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น จุดนี้น่าจะทำให้สัดส่วนการซื้อด้วยเงินผ่อนเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนๆ จากเดิม 30 เปอร์เซ็นต์มาเป็น 40 เปอร์เซ็นต์"
นายปฐมเปิดเผยว่า เอ.อาร์. ตั้งเป้ายอดขายในงานไว้ที่หนึ่งพันล้านบาท เท่ากับยอดขายในงานคอมมาร์ตครั้งที่แล้ว คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 800,000 คน "
ตัวเลขยอดขายที่เราตั้งไว้ครั้งนี้เท่ากับยอดขายงานคอมมาร์ตครั้งก่อน แรกๆ เราคิดว่าสภาพเศรษฐกิจจะทำให้ยอดขายในงานครั้งนี้ลดลง แต่เราเชื่อว่าด้วยความอัดอั้นของตลาดไอทีที่นิ่งมาตลอดไตรมาสจะทำให้ยอดขายสามารถพลิกกลับมาเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมได้ สัดส่วนคนเข้าชมงานระหว่างคนเข้าชมงานกับคนที่ต้องการซื้อสินค้าครั้งก่อนๆ จะอยู่ที่สัดส่วน 50/50 คาดว่าครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ซื้อ"
สำหรับแนวโน้มการใช้จ่ายในงาน เอ.อาร์.คาดว่าโน้ตบุ๊กจะเป็นสินค้าที่มีการซื้อขายมากที่สุด โดยตั้งเป้าไว้ที่ 7 - 8 พันเครื่อง ซึ่งคาดว่าอาจจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นเครื่องได้
"ที่เคยตั้งไว้ 7 - 8 พันเครื่อง อาจจะทะลุหมื่นเครื่องก็ได้ สถิติของปีที่ผ่านมาสินค้าอันดับหนึ่งคือโน้ตบุ๊ก สองคือกล้องดิจิตอล สามจะสลับกันระหว่างหน้าจอแอลซีดีกับพรินเตอร์ อันดับสี่ถึงจะเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป"
งานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2005 ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 ภายใต้แนวคิด "จินตนาการไร้ขีดจำกัดด้วยไอที" ผสมผสานความร่วมมือ ในเรื่องของ Smart IT for Smart SMEs ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2548 เวลา 10.00 -20.00 น. การจัดงานในครั้งนี้จะแบ่งส่วนแสดงเทคโนโลยีหลักๆ เป็น 2 ส่วนสำคัญ หนึ่งคือ งานคอมมาร์ต ซึ่งเป็นการนำเสนอสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ เช่น โน้ตบุ๊ก กล้องดิจิตอล เครื่องเล่น เอ็มพี 3 พร้อมการอบรมเวิร์กชอปและเทรนนิ่งทางด้านไอที สองคือส่วนงานคอมเทคเป็นส่วนแสดงเทคโนโลยีในเชิงประยุกต์สำหรับการ นำไปใช้ในภาคธุรกิจ SMEs ภายในแนวคิด Smart IT for Smart SMEs
นายปฐมอธิบายทิ้งทายว่ากล้องดิจิตอลจะขยายตัวในตลาด Replacement มาก ซึ่งแนวโน้มตลาดในอนาคตที่น่าจับตามอง คือ พีดีเอโฟน
"ปีหน้าน่าจะมา โดยเฉพาะผู้ที่ถือพีดีเอโฟนรุ่นแรกอยู่ จะถึงเวลาที่ต้องมองหารุ่นใหม่มาแทนรุ่นเดิม"
|
|
|
|
|