Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์24 พฤศจิกายน 2548
“คิว-เฮ้าส์”ตกที่นั่งเสือลำบาก จำใจทำบ้านหรูคุมภาพลักษณ์             
 


   
www resources

โฮมเพจ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ - แลนด์แอนด์เฮ้าส์
โฮมเพจ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด

   
search resources

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, บมจ.
ควอลิตี้เฮาส์, บมจ.
Real Estate




“อนันต์ อัศวโภคิน”บอสใหญ่วงการอสังหาริมทรัพย์วางหมากธุรกิจบ้านจัดสรร โดยการแบ่งแยกตลาดออกจากกันอย่างชัดเจนระหว่าง 3 บริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาที่ดิน “แลนด์ฯ-คิว เฮ้าส์-เอเชี่ยนฯ” กำหนดจุดยืน “แลนด์ฯ” ทำโครงการเจาะลูกค้าระดับกลาง “คิว-เฮ้าส์”เน้นตลาดบ้านหรู ด้าน “เอเชี่ยนฯ” เจาะตลาดบ้านกลางกรุง

จุดยืนที่ชัดเจนของ แลนด์ฯ ในช่วงที่ผ่านมาเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับกลาง-บน และเริ่มเบนเข็มลงมาจับตลาดบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาทต่อยูนิต เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงกำลังซื้อระดับบนชะลอตัว ในขณะที่ บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมี อนุพงศ์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการ และผู้กุมบังเหียนอยู่ ชูกลยุทธ์การทำตลาดแตกต่างจาก แลนด์ฯอย่างชัดเจน โดยหลีกไปพัฒนาโครงการประเภททาวน์เฮาส์หรูในพื้นที่ใจกลางเมือง หรือที่รู้จักกันภายใต้คอนเซ็ปน์บ้านกลางกรุง แทนการพัฒนาบ้านเดี่ยว เพื่อเลี่ยงการแย่งลูกค้ากันระหว่าง 3 บริษัทในเครือแลนด์ฯ

ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของตลาดบ้านระดับบน คิว-เฮ้าส์ จึงตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เพราะ คิว-เฮ้าส์ ถูกกำหนดให้เป็นแบรนด์ที่ทำตลาดบ้านระดับบนที่มีราคาขายตั้งแต่ 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป ดังนั้น ปัญหากำลังซื้อระดับบนที่ชะลอตัวลงจึงส่งผลกระทบต่อการทำตลาดของ คิว-เฮ้าส์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้วยข้อจำกัดด้านภาพลักษณ์ของ คิว-เฮ้าส์ ซึ่งพัฒนาโครงการจัดสรรระดับบนมาโดยตลอด และดำเนินงานภายใต้แบรนด์พฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์,พฤกษ์ภิรมย์,ลัดดาวัลย์ และวรารมย์ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคว่าเป็นแบรนด์ระดับบนที่ทำตลาดบ้านจัดสรรตั้งแต่ราคา 5-10 ล้านบาท ไปจนถึง 15-20 ล้านบาท และราคาสูงกว่า 20 ล้านบาท ทำให้ คิว-เฮ้าส์ ไม่สามารถปรับตัวลงไปลุยตลาดบ้านระดับกลางได้หากใช้แบรนด์เดิมที่มีอยู่

ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดของ คิว-เฮ้าส์ ภายใต้แม่ทัพใหญ่ คือ รัตน์ พานิชภักดิ์ คือ การปั้นแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดบ้านระดับกลาง เพื่อไม่ให้แบรนด์เดิมเสียภาพลักษณ์บ้านหรู

ที่ผ่านมา คิว-เฮ้าส์ จะพยายามปรับตัวให้สอดคล้องกับกำลังซื้อในตลาดด้วยการจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบในการพัฒนาแบรนด์ คาซ่า วิลล์ ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ที่ คิว-เฮ้าส์ ตั้งใจให้เข้ามาทำตลาดบ้านระดับกลางโดยเฉพาะ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการแข่งขันของตลาดบ้านระดับกลาง-ล่างได้ทั้งหมด เพราะไม่สามารถนำสินค้าภายใต้แบรนด์ คาซ่า วิลล์ มาขายในราคาที่ต่ำกว่า 3-6 ล้านบาทต่อยูนิตได้ เพราะเท่ากับว่าเป็นการแย่งฐานลูกค้ากันเองระหว่าง คิว-เฮ้าส์ และ แลนด์ฯ

ปัญหาตลาดระดับบนที่ชะลอตัวลงทำให้ คิว-เฮ้าส์ เปิดการขายในโครงการใหม่แค่เพียง 2 แห่งในปีนี้ และทิ้งทวนในช่วงไตรมาสสุดท้ายด้วยการเปิดตัวคฤหาสน์ 100 ล้านบาท จำนวน 4 ยูนิตในโครงการพฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์ ปิ่นเกล้า ซึ่งมียอดขายแล้ว 1 ยูนิต และจะเปิดเพิ่มอีก 3 ยูนิตในพื้นที่ที่สวยที่สุดของโครงการ โดยอยู่ระหว่างก่อสร้างคฤหาสน์ 80-100 ล้านบาทอีก 3-4 ยูนิตในโครงการ พฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์ สุขุมวิท เอกมัย ซึ่งเป็นเพียง 2 ทำเลที่สามารถเปิดขายบ้านพร้อมอยู่ราคา 100 ล้านบาทได้

ประวิทย์ โชติวัฒทพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ กล่าวว่า คฤหาสน์ 100 ล้านของ คิว-เฮ้าส์ ผุดขึ้นท่ามกลางความต้องการซื้อของผู้บริโภคที่สวนทางกับการพัฒนาสินค้า แม้ว่าตลาดบ้านระดับบนต้องใช้เวลาในการตัดสินใจนานถึง 2 เดือน แต่จากการสำรวจกลุ่มลูกค้าที่เยี่ยมโครงการ พบว่า ตลาดบ้านหรูยังมีดีมานด์ เพราะลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงต้องการบ้านขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยมาก และมีความเป็นส่วนตัวสูง โดยภายในบริเวณบ้านจะมีทั้งสวนที่กว้างกว่าบ้านระดับราคาปกติ และมีคลับเฮ้าส์ส่วนตัวให้ลูกค้าสามารถทำกิจกรรมทุกๆ อย่างได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน

อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดของตลาดบ้านหรูที่ทำตลาดยากอยู่แล้ว คิว-เฮ้าส์ จึงเพิ่มความพิถีพิถันในการวางแผนการดำเนินงานเป็นพิเศษ โดยคัดเลือกแบรนด์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผุดคฤหาสน์หรู 100 ล้าน จนมาลงตัวที่แบรนด์ พฤกษ์ภิรมย์ รีเจนท์ ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวที่จะมีคฤหาสน์ราคา 100 ล้านบาททำตลาดอยู่ภายในโครงการ

“ดีมานด์บ้านหรูยังมีอยู่ เพราะลูกค้าเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สูง ซึ่งพฤติกรรมในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่นิยมสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้าน หันมาซื้อบ้านกับโครงการจัดสรรมากขึ้น แม้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงกว่าเดิม แต่ลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวยอมลงทุนเพิ่ม เพราะต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีและมีความปลอดภัยในการพักอาศัย”

ประวิทย์ กล่าวว่า ในไตรมาส3 บริษัทมียอดขายรวม 4,600 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีอัตราการเติบโต 15% จาก 6,000 ล้านบาทในปี 47 โดยตั้งเป้าโต 20% ในปี 49 ซึ่งมาจากโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดการขาย 13 แห่ง มูลค่า 13,000 ล้านบาท และโครงการใหม่ที่จะเปิดการขายในปี 49 อีก 9 แห่ง มูลค่ารวม 18,000 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us