อสังหาฯตามแหล่งท่องเที่ยวยังโตต่อเนื่อง สวนกระแสเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะพัทยา บรรดานักลงทุนฟุ้ง หลังสนามบินสุวรรณภูมิเปิดพัทยาจะกลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมนานาชาติ-ศูนย์กลางทางการเงิน และอสังหาฯ ด้าน "วรรณา ตัณฑเกษม" สวดยับระยองไร้การเหลียวแลจากรัฐบาล ระบบสาธารณูปโภคล้าหลัง
วานนี้ (23 พ.ย.) มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ได้จัดเสวนาประจำเดือนใน หัวข้อ "ทิศทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อนในประเทศไทย" โดยมีวิทยากรที่เป็นนักธุรกิจจากเมืองท่าตากอากาศในที่ต่างๆ ร่วมเสวนา
นายสมควร นกหงส์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดชลบุรีมีการเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าจะเติบโตในภาพรวมถึง 20% จากภาพรวมของเศรษฐกิจจังหวัดที่มีการเติบโตถึง 16% ต่อปี โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวราคาตั้งแต่ 1-3 ล้านบาท สามารถพัฒนาขึ้นมาเพื่อขายให้กับแรงงานระดับกลางถึงระดับผู้บริหารได้ ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดขาดแคลนแรงงานระดับกลางถึงผู้บริหารอีกประมาณ 40,000 คน ซึ่งคาดว่าจำนวนนี้ประมาณไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งต้องการมีที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน โดยในปัจจุบันชลบุรีมีประชากรจำนวน 1.1 ล้านคน และมีประชากรแฝงอีกกว่า 1 ล้านคน
นอกจากนี้ ในส่วนของชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานที่ชลบุรี ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการที่พักอาศัยที่ดีเช่นกัน กลุ่มนี้นิยมใช้บริการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ระดับ 5 ดาว ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว 90% เป็นการเข้าใช้บริการของชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยมีราคาค่าบริการเดือนละ 40,000-50,000 บาทต่อเดือน ในขณะที่อพาร์ตเมนต์ทั่วไปก็มีการก่อสร้างจำนวนมากเช่นกัน ราคาค่าบริการเดือนละ 2,000-5,000 บาทต่อเดือน และขณะนี้ที่อำเภอศรีราชามีการลงมือก่อสร้างโครงการ อพาร์ตเมนต์ถึงประมาณ 30 โครงการ
ด้านนายไพศาล บัณฑิตยานนท์ กรรมการ ผู้จัดการ Rabbit Resort กล่าวถึงตลาดพัทยาว่า ตลาดพัทยาในอนาคตจะเป็นจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมนานาชาติ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้พัทยามีการเติบโตนั้นมาจากสนามบินสุวรรณภูมิทำให้ การเดินทางสะดวก จากอดีตจนถึงปัจจุบันพัทยามีอัตราการเติบโตอยู่ตลาดเวลาไม่เคยหยุด แม้ว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศหรือแหล่งอื่นจะไม่ดีก็ตาม
ทั้งนี้ แนวโน้มการเติบโตของพัทยาจะเป็นศูนย์กลางของชาวต่างชาติที่เกษียณอายุเข้ามาอยู่อาศัย รวมถึงผู้ที่มาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมย่านใกล้เคียง อีกทั้งจะเป็นศูนย์กลางของสำนักงานของบริษัทข้ามชาติ โดยไม่ผ่านกรุงเทพฯ เนื่องจากการเดินทางสะดวกกว่า ศูนย์กลางการแพทย์ ศูนย์กลางการประชุม และศูนย์กลางอาหารนานาชาติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้าน ทำให้เกิดการลงทุนด้านอสังหาฯ ซึ่งการซื้ออสังหาฯในพัทยานั้นกว่า 70% เป็นชาวต่างชาติ
"ตอนนี้มีกลุ่มธุรกิจโรงแรม เตรียมเข้าไปสร้างโรงแรมในพัทยาจำนวนมาก เพราะกว่า 10 ปีแล้ว ที่ไม่มีโรงแรมเกิดใหม่ ขณะนี้มีกลุ่ม เมอร์เคียว เตรียมสร้างโรงแรมขนาด 100 ห้อง เชอราตัน 100 ห้อง และโซฟิเทลอีกประมาณ 200-300 ห้อง ส่วนกลุ่มอินเตอร์คอนติเนนตันอยู่ระหว่างหาที่ดิน" นายไพศาลกล่าว
อย่างไรก็ตาม การลงทุนไม่ว่าจะเป็นที่ใดจะต้องมีความระมัดระวังสูง ต้องมีการศึกษาตลาดอย่างรอบครอบแม้ว่า ทำเลนั้นจะมีอัตราการเติบโตที่ดีก็ตาม นอกจากนี้แม้ว่าพัทยาจะเป็น ประตูสู่อิสเทิร์นซีบอร์ด แต่การขายห้องพักให้กับชาวต่างชาติจะต้องขายเป็นแพกเกจ พ่วงกับการท่องเที่ยวในที่อื่นๆ
วอนรัฐบาล-ททท.เหลียวแลระยอง
ด้านนางวรรณา ตัณฑเกษม นายกสภาอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงอสังหาฯ ในจังหวัดระยองว่า เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ มีการเติบโต ที่ดี แต่สำหรับจังหวัดระยองแล้วถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ขาดการเหลียวแลจากรัฐบาลและการท่องเที่ยจวแห่งประเทศไทย ทั้งๆ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มีพื้นที่ติดทะเลความยาวกว่า 100 กิโลเมตร แต่การคมนาคมยังถือว่าไม่มีการ พัฒนา อีกทั้งระบบสาธารณูปโภคต่างๆ โดยเฉพาะน้ำที่มักจะหยุดไหลในวันหยุดยาวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังไม่มีการโปรโมตการท่องเที่ยว ในระยองให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ทำให้คนทั่วไปรู้แต่เพียงว่าระยองเป็นเมืองอุตสาหกรรมเท่านั้น นอกจากนี้การป้ายบอกทิศทางหรือสถาน ที่ยังไม่มีเท่าที่ควร ส่วนที่มีก็จะมีขนาดเล็ก หรือ ติดไว้ในที่ที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากการปักหรือติดป้ายจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับกรมทางหลวงแพงมากเกินกว่า 10,000 บาทต่อเดือนทำให้ผู้ประกอบการ เจ้าของโครงการหรือเจ้าของสถานที่ไม่ยากเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม ในอดีตระยองเคยมีการโปรโมตในเรื่องของนิคมอุสาหกรรม และคาดว่าจะมีคนอยู่อาศัยจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเข้าไปพัฒนาโครงการต่างๆ แต่เมื่อ สร้างเสร็จกลับไม่บูมอย่างที่คิดทำให้ประสบความ ล้มเหลว โครงการคอนโดมิเนียมหลายแห่งต้องปรับมาเป็นปล่อยเช่า หรือปรับปรุงเป็นโรงแรมแทน ซึ่งในปัจจุบันมีโครงการรีสอร์ตและโรงแรม อยู่ประมาณ 5,000 ห้อง ส่วนตลาดคอนโดฯ นั้นหากเป็นคอนโดฯโลไลท์ 7-8 ชั้นจะสามารถขายได้
สำหรับเกาะเสม็ดนั้นมีการเติบโตด้านการก่อสร้างจำนวนมาก ซึ่งก็มีต้นทุนจากค่าขนส่งสูงมาก ส่วนระบบสาธารณูปโภคนั้นยังไม่มีการพัฒนาเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีความวิตกใน เรื่องของขยะและระบบการจัดการของเสียอย่างไม่เป็นระบบซี่งจะทำให้เกาะไม่น่าอยู่ เนื่องจากผู้ประกอบการที่พัฒนาหรือที่เข้าไปลงทุนส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน ซึ่งไม่มีระบบการจัดการที่ดี นอกจากนี้ปัญหาเรื่องน้ำยังเป็นเรื่องสำคัญ
นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ ในภูเก็ตยังมีอัตราการเติบโตที่ดี เพราะมีการคมนาคมที่สะดวกมีสนามบินนานาชาติ ทำให้ชาวต่างชาติเดินทางมาง่าย ประกอบกับการให้บริการของคนไทยยังถือเป็นจุดขายที่สำคัญ นอกจากนี้คูแข่งที่สำคัญ อย่างบาหลี ยังประสบปัญหาทั้งเรื่องการปรับปรุงหลังสึนามิ และความไม่สงบทำให้นักท้องเที่ยวหันมาที่ภูเก็ตเพิ่มขึ้น
นายอีลิค เฮลลิน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมศิลาเอวาซอน ไฮด์อะเวย์แอนด์สปา กล่าวว่า การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีราคาแพงไม่ได้ขึ้นอยู่กับทำเล อยู่ที่การวางคอนเซ็ปต์ของทำเลว่าจะให้เป็นไปในทิศทางใด ซึ่งดูได้จากเกาะ
สมุยที่เมื่อ 30 ปีก่อนค่าที่พักเพียง 300 บาท ต่อคืนเท่านั้น ในขณะที่ปัจจุบันประมาณ 30,000-40,000 บาทต่อคืน แม้ว่าจะเป็นทำเลเดียวกันก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมาสมุยพัฒนาให้รองรับนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง ดังนั้น นักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพกจึงค่อยๆหายไป คงเหลือแต่นักท่องเที่ยวเกรดบีขึ้นไป ทำให้สมุยมีเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวมีระดับเท่านั้น ปัจจุบันอัตราเข้าพักโรงแรมสูงถึง 80%
|