Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 พฤศจิกายน 2548
ธุรกิจอสังหาฯพัทยาบูม รับสนามบินสุวรรณภูมิ             
 


   
search resources

Real Estate




อสังหาฯตามแหล่งท่องเที่ยวยังโตต่อเนื่อง สวนกระแสเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะพัทยา บรรดานักลงทุนฟุ้ง หลังสนามบินสุวรรณภูมิเปิดพัทยาจะกลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมนานาชาติ-ศูนย์กลางทางการเงิน และอสังหาฯ ด้าน "วรรณา ตัณฑเกษม" สวดยับระยองไร้การเหลียวแลจากรัฐบาล ระบบสาธารณูปโภคล้าหลัง

วานนี้ (23 พ.ย.) มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ได้จัดเสวนาประจำเดือนใน หัวข้อ "ทิศทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อนในประเทศไทย" โดยมีวิทยากรที่เป็นนักธุรกิจจากเมืองท่าตากอากาศในที่ต่างๆ ร่วมเสวนา

นายสมควร นกหงส์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดชลบุรีมีการเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าจะเติบโตในภาพรวมถึง 20% จากภาพรวมของเศรษฐกิจจังหวัดที่มีการเติบโตถึง 16% ต่อปี โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวราคาตั้งแต่ 1-3 ล้านบาท สามารถพัฒนาขึ้นมาเพื่อขายให้กับแรงงานระดับกลางถึงระดับผู้บริหารได้ ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดขาดแคลนแรงงานระดับกลางถึงผู้บริหารอีกประมาณ 40,000 คน ซึ่งคาดว่าจำนวนนี้ประมาณไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งต้องการมีที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน โดยในปัจจุบันชลบุรีมีประชากรจำนวน 1.1 ล้านคน และมีประชากรแฝงอีกกว่า 1 ล้านคน

นอกจากนี้ ในส่วนของชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานที่ชลบุรี ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการที่พักอาศัยที่ดีเช่นกัน กลุ่มนี้นิยมใช้บริการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ระดับ 5 ดาว ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว 90% เป็นการเข้าใช้บริการของชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยมีราคาค่าบริการเดือนละ 40,000-50,000 บาทต่อเดือน ในขณะที่อพาร์ตเมนต์ทั่วไปก็มีการก่อสร้างจำนวนมากเช่นกัน ราคาค่าบริการเดือนละ 2,000-5,000 บาทต่อเดือน และขณะนี้ที่อำเภอศรีราชามีการลงมือก่อสร้างโครงการ อพาร์ตเมนต์ถึงประมาณ 30 โครงการ

ด้านนายไพศาล บัณฑิตยานนท์ กรรมการ ผู้จัดการ Rabbit Resort กล่าวถึงตลาดพัทยาว่า ตลาดพัทยาในอนาคตจะเป็นจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมนานาชาติ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้พัทยามีการเติบโตนั้นมาจากสนามบินสุวรรณภูมิทำให้ การเดินทางสะดวก จากอดีตจนถึงปัจจุบันพัทยามีอัตราการเติบโตอยู่ตลาดเวลาไม่เคยหยุด แม้ว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศหรือแหล่งอื่นจะไม่ดีก็ตาม


ทั้งนี้ แนวโน้มการเติบโตของพัทยาจะเป็นศูนย์กลางของชาวต่างชาติที่เกษียณอายุเข้ามาอยู่อาศัย รวมถึงผู้ที่มาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมย่านใกล้เคียง อีกทั้งจะเป็นศูนย์กลางของสำนักงานของบริษัทข้ามชาติ โดยไม่ผ่านกรุงเทพฯ เนื่องจากการเดินทางสะดวกกว่า ศูนย์กลางการแพทย์ ศูนย์กลางการประชุม และศูนย์กลางอาหารนานาชาติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้าน ทำให้เกิดการลงทุนด้านอสังหาฯ ซึ่งการซื้ออสังหาฯในพัทยานั้นกว่า 70% เป็นชาวต่างชาติ

"ตอนนี้มีกลุ่มธุรกิจโรงแรม เตรียมเข้าไปสร้างโรงแรมในพัทยาจำนวนมาก เพราะกว่า 10 ปีแล้ว ที่ไม่มีโรงแรมเกิดใหม่ ขณะนี้มีกลุ่ม เมอร์เคียว เตรียมสร้างโรงแรมขนาด 100 ห้อง เชอราตัน 100 ห้อง และโซฟิเทลอีกประมาณ 200-300 ห้อง ส่วนกลุ่มอินเตอร์คอนติเนนตันอยู่ระหว่างหาที่ดิน" นายไพศาลกล่าว

อย่างไรก็ตาม การลงทุนไม่ว่าจะเป็นที่ใดจะต้องมีความระมัดระวังสูง ต้องมีการศึกษาตลาดอย่างรอบครอบแม้ว่า ทำเลนั้นจะมีอัตราการเติบโตที่ดีก็ตาม นอกจากนี้แม้ว่าพัทยาจะเป็น ประตูสู่อิสเทิร์นซีบอร์ด แต่การขายห้องพักให้กับชาวต่างชาติจะต้องขายเป็นแพกเกจ พ่วงกับการท่องเที่ยวในที่อื่นๆ

วอนรัฐบาล-ททท.เหลียวแลระยอง

ด้านนางวรรณา ตัณฑเกษม นายกสภาอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงอสังหาฯ ในจังหวัดระยองว่า เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ มีการเติบโต ที่ดี แต่สำหรับจังหวัดระยองแล้วถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ขาดการเหลียวแลจากรัฐบาลและการท่องเที่ยจวแห่งประเทศไทย ทั้งๆ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มีพื้นที่ติดทะเลความยาวกว่า 100 กิโลเมตร แต่การคมนาคมยังถือว่าไม่มีการ พัฒนา อีกทั้งระบบสาธารณูปโภคต่างๆ โดยเฉพาะน้ำที่มักจะหยุดไหลในวันหยุดยาวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังไม่มีการโปรโมตการท่องเที่ยว ในระยองให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ทำให้คนทั่วไปรู้แต่เพียงว่าระยองเป็นเมืองอุตสาหกรรมเท่านั้น นอกจากนี้การป้ายบอกทิศทางหรือสถาน ที่ยังไม่มีเท่าที่ควร ส่วนที่มีก็จะมีขนาดเล็ก หรือ ติดไว้ในที่ที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากการปักหรือติดป้ายจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับกรมทางหลวงแพงมากเกินกว่า 10,000 บาทต่อเดือนทำให้ผู้ประกอบการ เจ้าของโครงการหรือเจ้าของสถานที่ไม่ยากเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

อย่างไรก็ตาม ในอดีตระยองเคยมีการโปรโมตในเรื่องของนิคมอุสาหกรรม และคาดว่าจะมีคนอยู่อาศัยจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเข้าไปพัฒนาโครงการต่างๆ แต่เมื่อ สร้างเสร็จกลับไม่บูมอย่างที่คิดทำให้ประสบความ ล้มเหลว โครงการคอนโดมิเนียมหลายแห่งต้องปรับมาเป็นปล่อยเช่า หรือปรับปรุงเป็นโรงแรมแทน ซึ่งในปัจจุบันมีโครงการรีสอร์ตและโรงแรม อยู่ประมาณ 5,000 ห้อง ส่วนตลาดคอนโดฯ นั้นหากเป็นคอนโดฯโลไลท์ 7-8 ชั้นจะสามารถขายได้

สำหรับเกาะเสม็ดนั้นมีการเติบโตด้านการก่อสร้างจำนวนมาก ซึ่งก็มีต้นทุนจากค่าขนส่งสูงมาก ส่วนระบบสาธารณูปโภคนั้นยังไม่มีการพัฒนาเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีความวิตกใน เรื่องของขยะและระบบการจัดการของเสียอย่างไม่เป็นระบบซี่งจะทำให้เกาะไม่น่าอยู่ เนื่องจากผู้ประกอบการที่พัฒนาหรือที่เข้าไปลงทุนส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน ซึ่งไม่มีระบบการจัดการที่ดี นอกจากนี้ปัญหาเรื่องน้ำยังเป็นเรื่องสำคัญ

นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ ในภูเก็ตยังมีอัตราการเติบโตที่ดี เพราะมีการคมนาคมที่สะดวกมีสนามบินนานาชาติ ทำให้ชาวต่างชาติเดินทางมาง่าย ประกอบกับการให้บริการของคนไทยยังถือเป็นจุดขายที่สำคัญ นอกจากนี้คูแข่งที่สำคัญ อย่างบาหลี ยังประสบปัญหาทั้งเรื่องการปรับปรุงหลังสึนามิ และความไม่สงบทำให้นักท้องเที่ยวหันมาที่ภูเก็ตเพิ่มขึ้น

นายอีลิค เฮลลิน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมศิลาเอวาซอน ไฮด์อะเวย์แอนด์สปา กล่าวว่า การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีราคาแพงไม่ได้ขึ้นอยู่กับทำเล อยู่ที่การวางคอนเซ็ปต์ของทำเลว่าจะให้เป็นไปในทิศทางใด ซึ่งดูได้จากเกาะ

สมุยที่เมื่อ 30 ปีก่อนค่าที่พักเพียง 300 บาท ต่อคืนเท่านั้น ในขณะที่ปัจจุบันประมาณ 30,000-40,000 บาทต่อคืน แม้ว่าจะเป็นทำเลเดียวกันก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมาสมุยพัฒนาให้รองรับนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง ดังนั้น นักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพกจึงค่อยๆหายไป คงเหลือแต่นักท่องเที่ยวเกรดบีขึ้นไป ทำให้สมุยมีเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวมีระดับเท่านั้น ปัจจุบันอัตราเข้าพักโรงแรมสูงถึง 80%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us