|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คลัง บี้หน่วยงานรัฐให้ความร่วมมือคืนที่ราชพัสดุให้กรมธนารักษ์สร้างบ้านข้าราชการ ชี้สร้างปีละแสนยูนิต ยังต้องใช้เวลาถึง 10 ปีจึงจะครอบคลุมความต้องการ พร้อมส่งสัญญาณแบงก์ คิดนวัตกรรมทางการเงินเอื้อข้าราชการมีความสามารถผ่อนชำระ "ขรรค์" เอ็มดี ธอส. แย้มแผนลดภาระค่างวดในช่วง 5 ปีแรก
วานนี้ (23 พ.ย.) นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดตัวโครงการ "บ้านธนารักษ์" ว่าข้าราชการของประเทศไทยมีอยู่หลายล้านคน ซึ่งแต่ละคนมีความฝันที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยเฉพาะ ข้าราชการที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี ซึ่งมีความฝันที่จะสร้างครอบครัว ดังนั้น รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเข้ามา ให้ความช่วยเหลือให้มากที่สุด
ทั้งนี้ ในส่วนของกรมธนารักษ์ มีโครงการ "บ้านธนารักษ์" คือโครงการที่นำที่ดินราชพัสดุของหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือใช้ประโยชน์ไม่เต็มศักยภาพ มาสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ข้าราชการ และลูกจ้างประจำของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าที่ดิน อันจะทำให้ราคาบ้านถูกลง เพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระแก่ข้าราชการมากขึ้น ขณะที่ข้าราชการจะได้สิทธิการเช่าระยะยาวถึง 30 ปี และขายเปลี่ยนมือได้หลัง 5 ปีไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกรมธนารักษ์ สามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้เพียงปีละ 10,000-20,000 ยูนิต ซึ่งยังน้อยเกินไป สำหรับความต้องการที่ยังมีอยู่สูง แม้ว่าจะสร้างถึง 100,000 ยูนิต ก็ยังต้องใช้เวลาถึง 10 ปี จึงจะสนองความต้องการได้อย่างทั่วถึง ดังนั้นหากส่วนราชการต่างๆ ให้ความสำคัญต่อความกินดีอยู่ดีของข้าราชการในสังกัดของตนเอง ควรให้ความร่วมมือกับกรมธนารักษ์ด้วยการคืนที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้กรมนำมาดำเนินการในส่วนนี้
นอกจากนี้ สถาบันการเงิน ควรคิดนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เพื่อรองรับโครงการนี้ เพราะระบบราชการมีความมั่นคงมาก แม้ว่าเงินเดือนเริ่มต้นของข้าราชการจะต่ำ แต่เพิ่มขึ้นทุกปีและมีความมั่นคงสูง ดังนั้นสถาบันการเงินสามารถสร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ โดย อาศัยจุดเด่นดังกล่าว เช่น ให้ผ่อนชำระเพียง 25% ของเงินเดือน ในช่วงแรกๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระ ระหว่าง ที่ข้าราชการยังมีภาระด้านอื่นๆ และรายได้ยังน้อยอยู่ แล้วจึงเพิ่ม ในภายหลังเมื่อมีรายได้สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เริ่มลดลงแล้ว
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ได้รับนโยบายจาก รมว.คลัง ให้ช่วยดูแลเรื่องการสร้างนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อช่วยเหลือข้าราชการ ซึ่งมองว่าการที่จะช่วยให้ข้าราชการมีความสามารถในการผ่อนชำระได้ คือ จะต้องลดภาระค่างวดในช่วง 5 ปีแรก ให้น้อยลง เพราะเป็นช่วงที่มีค่าใช้จ่าย อื่นๆ โดยเฉพาะ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ทั้งนี้ หากสามารถประยุกต์ใช้ในโครงการอื่นก็จะดำเนินการต่อไป
ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า หลังจากกรมธนารักษ์ และบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ ร่วมโรดโชว์โครงการบ้านธนารักษ์ใน 6 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ภูเก็ต สุพรรณบุรี นนทบุรี อุบลราชธานี และชลบุรี ปรากฏว่า ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา มียอดจองรวมแล้วกว่า 1.28 เท่า แต่ยังมีบางโครงการที่ยอดจองยังไม่เต็มจำนวน ซึ่งกรมธนารักษ์จะเปิดให้ จองบ้านธนารักษ์จนถึงวันที่ 7 ธันวาคมนี้
สำหรับเป้าหมายการก่อสร้าง บ้านธนารักษ์ ในปีงบประมาณ 2549 มีจำนวน 1,500 หน่วย ใน 6 จังหวัดดังกล่าว และเตรียมที่จะเพิ่มอีก 670 หน่วย ในจังหวัดนครสวรรค์ สุราษฎร์ธานี เชียงราย สมุทรสงคราม และปราจีนบุรี ส่วนเป้าหมายการสร้างบ้านธนารักษ์ ในช่วง 4 ปีข้างหน้า (2549-2552) จะสร้างอย่างน้อย 20,000 หน่วย มูลค่าก่อสร้างเฉลี่ย 1.2 ล้านบาท ต่อหน่วย หรือประมาณ 24,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม โครงการสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ และที่สำคัญความร่วมมือจากส่วนราชการที่จะนำที่ดินมาให้จัดสรร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ตั้งยอดการสร้างบ้านไว้ไม่มากนัก
|
|
|
|
|