|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ ธันวาคม 2548
|
|
แต่ก่อนผู้เขียนไม่เคยจะซื้อหนังสือพิมพ์ในวันสุดสัปดาห์มาอ่านเลย เพราะราคาของหนังสือพิมพ์สำหรับวันเสาร์อาทิตย์นั้นแพงกว่าวันธรรมดา นอกจากนี้ข่าวต่างๆ ก็สามารถหาอ่านเอาจากทางอินเทอร์เน็ตได้หมดแล้วสมัยนี้
แต่เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ พฤติกรรมดังกล่าวของผู้เขียนเริ่มเปลี่ยนไป ก็เพราะหนังสือ พิมพ์หลายเล่มของอังกฤษ เอาดีวีดีภาพยนตร์ มาแถมฟรีเป็นเครื่องล่อนี่น่ะสิ เป็นไปได้อย่างไร เสียเงินซื้อหนังสือพิมพ์แค่ 1.20 ปอนด์ (ประมาณ 90 บาท) แต่กลับได้หนังมานอนดูฟรีที่บ้านตั้ง 1 เรื่อง!
เห็นเขาแจกอย่าง นี้อยู่บ่อยๆ เข้า ก็อดใจไม่ไหว จึงต้องคอยแวะเวียนไปร้านหนังสือทุกเช้าวันเสาร์และอาทิตย์ เพื่อคอยสอดส่องว่า วันนี้ มีเล่มไหนแถมหนังเรื่องอะไรบ้าง กลายเป็นคนบ้า สะสมหนังไปโดยปริยายทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ คนคลั่งไคล้หนังมาก มายอย่างคนอื่นเขาเลยหนังสือพิมพ์ของอังกฤษที่บุกเบิกพฤติกรรมการแถมหนังให้ผู้บริโภคนั้น คือหนังสือพิมพ์แบบ Tabloid อย่าง Daily Mail และ Daily Express ที่ลงแต่ข่าวชาวบ้านและข่าวซุบซิบดารากับนักการเมือง ซึ่งไม่ค่อยประเทืองปัญญาเท่าไร
ส่วนดีวีดีที่แจกฟรีก็ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่โด่งดังมาก หลายครั้งที่เขาแจกเรื่องเก๋ากึ้กสมัยสามสิบปีที่แล้ว แต่ก็มีวันดีคืนดีที่เจ้าของ หนังสือพิมพ์ใจป้ำลงทุนแจกหนังดังในอดีตอย่างเรื่อง Fried Green Tomatoes ซึ่งก็พอคู่ควรแก่การสะสมอยู่บ้าง
หลังจากที่ Daily Mail และ Daily Express บุกเบิกตลาดแจกดีวีดีพร้อมหนังสือ พิมพ์ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์มาสักระยะหนังสือ พิมพ์อื่นอย่าง The Daily Telegraph หรือจะเป็น The Times ของมหาเศรษฐีชาวออสเตรเลีย Rupert Murdoch ก็มาร่วมแจก กับเขาด้วย โดยล่าสุด The Times แจกเรื่อง Cabaret ภาพยนตร์ดังที่ส่งให้ Liza Minelli ได้รับรางวัลออสการ์ในฐานะนักแสดงนำหญิง ยอดเยี่ยมของปี 1972 ไป ซึ่งเรื่องนี้หากซื้อ กับ Amazon.com จะต้องจ่าย 8 ปอนด์หรือ 600 บาท แต่หนังสือพิมพ์ The Times กลับแถมฟรี โดยไม่คิดมูลค่าเพิ่ม เรียกว่าเสียเงินแค่ปอนด์กว่าๆ ซื้อหนังสือพิมพ์ก็ได้หนังดีๆ มาดูแล้ว (ข่าวบีบีซี 11 ต.ค.05)
ที่น่าสนใจคือ การแข่งขันในตลาดหนังสือพิมพ์ของอังกฤษนั้นรุนแรงมากถึงขนาดที่หนังสือพิมพ์ดีมีมันสมองอย่าง The Guardian กับ The Independent ยังต้องลงมาเล่นเกมลดแลกแจกแถมนี้กับเขาด้วย นอกจากจะลดขนาดหนังสือพิมพ์ลงจากแผ่นโตๆ (broadsheet) ซึ่งเป็นขนาดดั้งเดิมของ หนังสือพิมพ์ทั่วไป มาเป็นแบบเล็กกะทัดรัดขนาดเท่าหนังสือพิมพ์ Tabloid ซึ่งเป็นเทรนด์ ใหม่ของวงการหนังสือพิมพ์ที่นี่แล้ว (ดูภาพประกอบ) ทั้งสองเล่มยังต้องหาหนังมาแถมคนอ่านตามเล่มอื่นๆ อีก แต่ยังดีหน่อยที่ทั้งสองยังไว้หน้าตัวเองอยู่บ้าง โดยนำภาพยนตร์ มีสาระมากำนัลคนอ่าน โดยที่ The Guardian แจกหนังอังกฤษเรื่อง East is East และ The Madness of King George ส่วน The Independent แจกภาพยนตร์เม็กซิกันที่โด่งดังเมื่อสิบปีก่อนเรื่อง Como Agua Para Chocolate และเรื่อง Indochine ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมเมื่อปี 1992 และมีดารานำเป็นนักแสดง ฝรั่งเศสที่ชื่อ Catherine Deneuve ซึ่งแม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ยังสวยไม่สร่าง
การที่หนังสือพิมพ์แจกดีวีดีหนังฟรีกันโครมครามและมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ นั้น ทำให้หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า ทำได้อย่างไร ไม่ขาดทุนหรือ จนในที่สุดนักข่าวบีบีซีก็ออกมาไขข้อข้องใจให้ฟังว่า จริงๆแล้วดีวีดีฟรีเหล่านี้ไม่มีลูกเล่นให้คนดูเล่นมาก เหมือนที่เขาขายกันตามท้องตลาด เพราะโดย ปกติแล้วดีวีดีทั่วไปจะมีฟังก์ชันให้เราเลือกได้ ว่าอยากดูตอนไหนของหนัง และสามารถเลือก ภาษาได้ว่าจะให้มีเสียงพากษ์หรืออ่านคำบรรยายเป็นภาษาอะไร และมีการนำตอนพิเศษของหนังที่ถูกตัดออกไปจากตัวหนังจริงๆ หรือบทสัมภาษณ์ผู้กำกับและนักแสดง มาให้คนดูได้ดูเพิ่มเติม แต่ดีวีดีฟรีที่หนังสือ พิมพ์ต่างๆ เหล่านี้แจกนั้นไม่มีฟังก์ชันดังกล่าว ยกเว้นแต่หนังสือพิมพ์ The Independent ที่ยังคงมีฟังก์ชันให้คนดูเลือกเอาว่าจะอ่านคำแปลหรือฟังเป็นภาษาอื่น (ที่ไม่ใช่อังกฤษ) ได้ เพราะหนังที่หนังสือพิมพ์เล่มนี้คัดมาให้ มักเป็นหนังอาร์ตและหนังต่างประเทศ เช่นแถมหนังเยอรมันเรื่อง Wings of Desire ซึ่งเป็นต้นฉบับของหนังฮอลลีวูดเรื่อง City of Angel ที่มี Nicolas Cage กับ Meg Ryan เล่นและโกยเงินมาแล้วเมื่อไม่กี่ปีก่อน
ข่าวบีบีซียังวิจารณ์ต่อไปว่าการทำอย่างนี้เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้คนปัญญานิ่ม เพราะหลายคนสักแต่ซื้อหนังสือพิมพ์มาเพื่อหวังเอาดีวีดีเท่านั้น ไม่ได้เปิดข้างในอ่านเลย (แต่ถ้าเป็นหนังสือพิมพ์ขยะอย่าง The Daily Mail แล้ว ผู้เขียนเองก็ซื้อมาทิ้งเหมือนกัน เพราะอ่านไปก็ไม่ได้ประเทืองปัญญาอะไร) บางคนบอกว่าเป้าหมายของหนังสือพิมพ์ไม่ได้ หวังเอากำไร แต่ใช้การขายเป็นการยึดหัวหาด เท่านั้น ดังนั้นจะเสียเงินเท่าไรก็ไม่เกี่ยงยอมทุ่มสุดตัว
หลายคนหวังว่าพอแถมดีวีดีแล้วคนอ่านจะติด คราวหลังจะแถมหรือไม่คนก็คง จะอุดหนุนกันต่อไป ทางข่าวบีบีซียังอ้างคำพูดของคนวงในธุรกิจบันเทิงรายหนึ่งอีกว่าการแจกดีวีดีนั้นไม่ได้เพิ่มค่าใช้จ่ายให้สำนักพิมพ์มากนัก เพราะต้นทุนตกอยู่ที่แผ่นละ 16-18 เพนซ์เท่านั้น (12-13.50 บาท) ซึ่งราคานี้รวมค่าอัดหนังลงแผ่น ค่าซองกระดาษ บรรจุแผ่นดีวีดี ค่าออกแบบปก และค่าลิขสิทธิ์ หนังแล้ว และยังมีค่าใช้จ่ายอีกเล็กน้อยที่สำนักพิมพ์ต้องจ่ายให้บริษัทฟิลิปส์ เจ้าของลิขสิทธิ์เทคโนโลยีดีวีดีด้วย นอกจากนี้แหล่งข่าวยังเล่าต่อว่า ต้นทุนการผลิตดีวีดี 10,000 แผ่นจะอยู่ที่แผ่นละ 34 เพนซ์ ถ้า 1 แสนแผ่น จะอยู่ที่ 25 เพนซ์ แต่ถ้าเป็น 5 แสนแผ่น จะ ตกที่ 23 เพนซ์เท่านั้น ดังนั้นยิ่งผลิตมากก็ยิ่งจะประหยัดมากขึ้น ส่วนค่าลิขสิทธิ์หนังก็จะตกอยู่ที่ครั้งละแสนกว่าปอนด์ นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่มากมายอะไรในการที่จะแถมหนังฟรีให้คนอ่าน
แต่ทางผู้ประกอบการเช่นร้านขาย ซีดีและดีวีดีทั่วโลกอย่างร้าน HMV นี่สิที่ไม่พอใจ บ่นว่าการแจกดีวีดีของหนังสือ พิมพ์ต่างๆ เป็นการทำลายธุรกิจสื่อบันเทิง เพราะเป็นการตัดราคาร้านค้าดีๆ นั่นเอง แต่สำหรับผู้บริโภคอย่างผู้เขียนแล้ว ขอภาวนาให้หนังสือพิมพ์ทั้งหลายแจกดีวีดีหนังฟรีไปเรื่อยๆ เพราะราคาค้าปลีกดีวีดีของที่นี่แต่ละเรื่องนั้นแพงเหลือเกิน หนังเก่าๆ ที่ไม่มีใครดูแล้ว ถ้านำมาแจกให้คนซื้อทุนทรัพย์น้อยดู ก็ไม่น่าจะผิดอะไร เพราะฮอลลีวูดเองก็ได้เงิน ไปหลายแล้ว ตอนหนังออกมาใหม่ๆ คิด เสียว่าเป็นการแบ่งปันสวัสดิการทางสังคมก็แล้วกัน
อันว่าการลดแลกแจกแถมนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการหนังสือพิมพ์เท่านั้น นิตยสารผู้หญิงเองเป็นผู้บุกเบิกเทรนด์แจกของฟรีนี้มาก่อนหนังสือพิมพ์เสียอีก โดยการแนบสินค้าฟรีไปในซองพลาสติกของนิตยสาร แต่ละเล่ม เช่น Cosmopolitan แจกกระเป๋าถือ ลิปสติก หวี ผ้าพันคอ นิยายรัก (นิยายดังเรื่อง Bridget Jones' Diary ก็เคยตกเป็น ของแถมมาแล้ว) ลิปสติก รองเท้าฟองน้ำ แว่นกันแดด ฯลฯ และถ้าเป็นหนังสือปลุกใจเสือป่า ก็จะมีดีวีดีโป๊แนะนำนางแบบเปลือยมาเผยเรือนร่างให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เอากลับ ไปดูที่บ้านได้อย่างหนำใจ (แต่จะเผยมากน้อย แค่ไหน อันนี้ไม่อาจทราบได้) นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของของแถมจากสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผู้เขียนพอจะจำได้เท่านั้น
ปีใหม่นี้ผู้เขียนเห็นจะไม่ไปไหน ขอนอนดูหนังฟรีที่ตัวเองสะสมมา 30 กว่าแผ่นให้หนำใจดีกว่า สวัสดีปีใหม่ค่ะ
|
|
|
|
|