น้ำทับทิมสีสวยกลิ่นหอมจัด และน้ำบิลเบอรี่ สีม่วงเข้ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากกิฟฟารีนที่มีต้นกำเนิดจากแดนไกล

ครั้งแรกที่เห็นผลิตภัณฑ์จากน้ำทับทิมเซตที่ประกอบด้วยน้ำทับทิม เข้มข้น, Shower Gel Facial Foam Body และ Body Lotion ก็ค่อนข้างแปลกใจ เพราะไม่ค่อยเห็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากน้ำทับทิมกันบ่อยนัก

แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทกิฟฟารีน สกาย ไลน์ ยูนิตี้ ได้พูดถึงผลวิจัยหลายชิ้นจากประเทศอิสราเอล ที่กล่าวถึงคุณสมบัติของน้ำทับทิมว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด สามารถลดการ สะสมไขมันในผนังเส้นเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตันและแข็งตัว บำรุงตับ และลดความดันโลหิต ซึ่งสอดคล้องกับตำราแพทย์สมัยโบราณของประเทศ เปอร์เซีย (อิหร่านในปัจจุบัน) ที่ถูกบันทึกไว้ว่า ได้ใช้เป็นยารักษาโรคมานานหลายพันปี

จากผลการวิจัยที่ตรงกันหลายชิ้นคือการเดินทางของน้ำทับทิมแดง พันธุ์เปอร์เซีย จากประเทศอิหร่าน ที่สกัดน้ำออกและแช่แข็งส่วนที่เหลือ นำมาผสมน้ำในสัดส่วนเดิมที่สกัดออกในเมืองไทย เพื่อทำเป็นน้ำทับทิมกิฟฟารีนกรานาดา บรรจุขวด 700 มล. ขณะเดียวกันสารสกัดจากทับทิม ยังนำไปทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ ด้วย

เช่นเดียวกับงานวิจัยของผลบิลเบอร์รี่ และบลูเบอรี่ จากประเทศเนเธอร์แลนด์ บิลเบอร์รี่ เป็นพืชตระกูลเดียวกับบลูเบอรี่ ซึ่งพบว่า ผลไม้ทั้ง 2 ชนิดมีประโยชน์อย่างมากในการบำรุงสายตา

งานวิจัยจาก Rutgers Blueberry Cranberry Research Centerpy ยังระบุอีกว่า บลูเบอรี่ช่วยทำให้ระบบของท่อปัสสาวะทำงานได้ดีขึ้น

กิฟฟ์เบอรี่ น้ำบิลเบอรี่ ผสมบลูเบอรี่ จึงได้เดินทางจากประเทศเนเธอร์แลนด์เข้าสู่เมืองไทยในวิธีการเดียวกับน้ำทับทิมโดยบริษัทกิฟฟารีน เมื่อเดือนมีนาคม 2548 ที่ผ่านมา

เมื่อเป็นวัตถุดิบที่มาจากเมืองคนรวยน้ำผลไม้ 2 ตัวนี้ จึงเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เชื่อว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นในราคาที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน ทั้ง 2 ชนิดเลย ถูกแนะนำให้ดื่มอย่างเข้มข้นเพียงวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะ และทำให้เจือจางด้วยการผสม น้ำแข็ง กลายเป็น welcome drink ของโรงแรมหลายแห่ง