|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หุ้นบล.ยูโอบีเคย์เฮียน(ประเทศไทย)ร้อนราคาสูงเหนือจอง 37.90% เหตุกำหนดราคาต่ำหวังให้ผลตอบแทนแก่ลูกค้าขณะที่ผู้บริหาร ลีดอันเดอร์ไรเตอร์ชี้เสี่ยปู่ได้รับจัดสรรหุ้นเพราะเป็นลูกค้ารายใหญ่ ตั้งเป้าปีหน้าโกยมาร์เกตแชร์ 3%
วานนี้ (20 พ.ย.) หุ้นบริษัท หลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBKH เข้าซื้อขายในตลาด หลักทรัพย์ฯเป็นวันแรก ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังไม่สดใสนักแม้ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ปริมาณการซื้อขายก็ยังไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น UOBKH สามารถเปิดตลาดที่ระดับ 7.15 บาท สูงกว่าราคาจองที่กำหนดไว้หุ้นละ 6.20 บาท จากนั้นมีแรงซื้อโหมเข้ามาทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาสูงสุดที่ 8.75 บาท ก่อนมีแรงเทขายออกมาทำให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงปิดที่ระดับ 8.55 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาจอง 2.35 บาท หรือ 37.90% มูลค่าการซื้อขาย 1,325.30 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากมีนักลงทุนรายใหญ่เข้าไปซื้อขายหุ้น UOBKH กันอย่างคึกคัก ประกอบกับมีชื่อนักลงทุนรายใหญ่นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ได้รับจัดสรรหุ้นไปจำนวนมากจนติดโผผู้ถือหุ้นใหญ่ UOBKH
นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บล. ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องจากได้กำหนดราคาจองที่ 6.20 บาท ซึ่งถือ เป็นระดับต่ำและมีส่วนลดเพื่อให้ผู้ถือ หุ้นของบริษัท ซึ่งได้แก่ลูกค้าของบริษัทได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ที่ดี ทั้งนี้ระดับราคาจองดังกล่าวถือ ว่าต่ำกว่าระดับราคาที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์หลาย แห่งได้ประเมินว่าราคาหุ้นที่เหมาะสม จะอยู่ในระดับ 6.80-9.25 บาทต่อหุ้น
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ นักลงทุนรายใหญ่ได้รับการจัดสรรหุ้นด้วยนั้น นายชัยพัชร์ กล่าวว่า เนื่องจากนายสมพงษ์เป็นลูกค้ารายใหญ่ของบล.ยูโอบีฯ และบล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นจึงได้รับการจัดสรรในระดับราคา 6.20 บาทเหมือนกับนักลงทุนทั่วไปโดยไม่ได้ติดระยะห้ามซื้อขาย(ไซเลนต์พีเรียด)แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านายสมพงษ์คง จะถือเพื่อการลงทุนระยะยาวเพราะหุ้นจองหลายบริษัทที่นายสมพงษ์เข้า ไปลงทุนก็ยังถืออยู่ไม่ได้ขายออกมา
ทั้งนี้ นายสมพงษ์ได้รับการจัดสรร 3.1 ล้านหุ้น และนางวารุณี ชลคดีดำรงกุล ได้รับการจัดสรรจำนวน 1.25 ล้านหุ้น
ปัจจุบันนี้ บล.ยูโอบีฯ มีมาร์เกตแชร์ในส่วนนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ประมาณ 2.8% โดยสัดส่วนลูกค้าจะเป็นนักลงทุนรายย่อยประมาณ 84% และนักลงทุนสถาบันประมาณ 16% โดยในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าจะมีมาร์เกตแชร์ที่ระดับ 3% สัดส่วนลูกค้าคงจะเป็นไปตามสภาพตลาดหุ้นโดยรวม
ทั้งนี้ กลุ่มยูโอบีนั้นถือว่ามีความสนใจเข้าลงทุนในประเทศไทยอย่างแท้จริง โดยจะเห็นได้ว่าเข้ามาซื้อ กิจการของธนาคารยูโอบี รัตนสินรวมถึงเข้าลงทุนในธนาคารเอเชีย
นายมนตรี ศรไพศาล ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง(ประเทศ ไทย) จำกัด(มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษา ทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเปิดเผยว่า บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบีใน สิงคโปร์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ถือเป็นบริษัท หลักทรัพย์ที่อยู่ในอันดับ 1 โดยมีสาขาจำนวน 50 กว่าแห่ง ดังนั้นจึงสามารถเกื้อหนุนบล.ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทลูกได้
นอกจากนี้ ราคาจองที่กำหนดไว้หุ้นละ 6.20 บาทนั้นถือว่าอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อพิจารณาจากค่าพี/อี เรโชของกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จะอยู่ในระดับ 16-17% ขณะที่ค่าพี/อี เรโช ของ บล.ยูโอบีเคย์เฮียน(ประเทศไทย) จะอยู่ในระดับ 9.7 เท่า
"พอใจกับราคาวันแรกที่หุ้นเข้า มาซื้อขายแล้วราคาสูงกว่าจอง ซึ่งในช่วงที่กระจายหุ้นนั้น ส่วนใหญ่จะเสนอ ขายให้กับนักลงทุนรายย่อยเกือบทั้งหมด โดยการจัดสรรหุ้นให้กับผู้บริหาร พนักงานและลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท ถือเป็นการตอบแทนลูกค้า ผู้มีอุปการคุณ ซึ่งบริษัทจัดสรรหุ้น ให้ในราคาเดียวกับราคาไอพีโอ ดังนั้น หุ้นดังกล่าวก็จะไม่มีระยะเวลาห้ามซื้อขาย" นายมนตรีกล่าว
|
|
|
|
|