|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ตลท.ตามพบรายใหญ่ลุยไออีซีเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์อื่นหลังส่งหนังสือเตือนให้ระมัดระวังคำสั่งออเดอร์ที่ไม่เหมาะสม ส่งหนังสือเตือนไปยังโบรกเกอร์รายนั้นให้ระวัง ขู่อีกรอบถ้าพบเข้าข่ายสร้างราคาพร้อมที่จะห้ามโบรกเกอร์รับออเดอร์ ด้าน ASL-W4 ราคารูดหลังบริษัทแจ้งหมดอายุขอเอสพี ขณะที่บิ๊กล็อต 9 ล้าน ราคาเฉลี่ย 0.40 บาทต่ำกว่าในกระดานที่ปิด 2 บาท ส่วน "กิตติรัตน์" ชี้ตลาดหุ้นปีหน้าส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับคนไม่กี่คน
นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ ตลท.ได้ส่งหนังสือเตือนไปยังโบรกเกอร์ให้ระมัดระวังการรับคำสั่งซื้อขายที่ไม่เหมาะสม ของนักลงทุนบางกลุ่มที่เข้ามาซื้อขายในหุ้นบมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) ซึ่งจากการที่ ตลท.ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิดพบว่ากลุ่มนักลงทุน รายใหญ่ดังกล่าวได้ไปเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์แห่งอื่น เพิ่มอีก ดังนั้น ตลท.จึงได้ส่งหนังสือเตือนไปยัง โบรกเกอร์ที่กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ย้ายไปเปิดพอร์ต
"ตลาดฯได้ติดตามการซื้อขายของกลุ่มนักลงทุนรายดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและถ้าการซื้อขายของนักลงทุนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมโดยเข้าข่ายที่อาจจะสร้างราคาหุ้นนั้นตลาดหลักทรัพย์ก็อาจจะสั่งโบรกเกอร์ห้ามรับคำสั่งซื้อขายของกลุ่มนักลงทุนดังกล่าว" นายสุภกิจกล่าว
อนึ่งก่อนหน้านี้ตลาดหลักทรัพย์ได้ระบุว่าหุ้นบริษัทไออีซี มีการซื้อขายกระจุกตัวจนทำให้ ตลท. สั่งห้ามซื้อขายด้วยมาร์จิ้น(เงินกู้)และเน็ตเซตเทิลเมนต์(หักกลบ)ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.จนถึงวันที่ 9 พ.ย. 2548 เป็นเวลา 15 วันทำการ แต่ราคาก็ยังมีลักษณะเคลื่อนไหวที่ผันผวนและผิดปกติ ตลท.จึงได้ขยายระยะเวลาออกไปอีก 30 วันทำการจากวันที่ 10 พ.ย.จนถึงวันที่ 23 ธ.ค. 2548
ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แจ้งว่านายอดุลย์ บุญรอด ได้ขายหุ้นบมจ.ทีซีเจ เอเซีย (TCJ) เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2548 ใน ตลท. จำนวน 1.60 ล้านหุ้น หรือ 2.87% ในราคาหุ้นละ 28 บาทภายหลังการเสนอขายทำให้นายอดุลย์ยังถือหุ้นทีซีเจเอเซีย 1.8 ล้านหุ้นหรือ 3.23% ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2548 ได้ซื้อหุ้นบริษัททีซีเจ เอเซีย จำนวน 3.40 ล้านหุ้น หรือ 6.10% ในตลาดหลักทรัพย์เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ก็มีกรณีของนางสาวสุวิมล ทองกร ที่เคยเข้ามาซื้อหุ้น บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) โดยได้เข้ามาซื้อหุ้นรวม 110 ล้าน หุ้นหรือ 7.44% อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2548 นางสาวสุวิมล ได้ขายหุ้นบริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น ออกมาจำนวน 205.09 ล้านหุ้น หรือ 6.95% ในตลาดหลักทรัพย์ ในราคาหุ้นละ 2.78 บาททำให้ภายหลังเหลือหุ้น 46.22 ล้านหุ้น หรือ1.56% ASL-W4 บิกล็อตแค่ 40 สต.
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแจ้งว่าวานนี้(22 พ.ย.)ได้มีการซื้อขายรายการใหญ่(บิ๊กล็อต)ในใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญชุดที่ 4 ของบริษัทหลักทรัพย์(บล.) แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน)(ASL-W4)จำนวน 1 รายการ 9,870,900 หุ้น มูลค่าการซื้อขาย 3.948 ล้านบาทในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 0.40 บาท สำหรับราคาหุ้นของ ASL-W4 วานนี้ปิดที่ระดับ 2 บาท ลดลง 1.28 บาทหรือ 39.02% มูลค่าการซื้อขาย 28.48 ล้านบาท
ส่วนนางอาภา คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหาร บล. แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า บริษัทได้กำหนดวันใช้สิทธิของ ASL-W4 ในวันที่ 16 ม.ค. 2549 หลังจากนั้นก็จะสิ้นสภาพลงทันที โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอน ASL-W4 ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.2548 จนถึงวันที่ 16 ม.ค.2549 และเพื่อให้สอดคล้องกับระบบชำระราคา จึงขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯสั่งห้ามการซื้อขาย ASL-W4 ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.2548 จนถึงวันที่ 16 ม.ค. 2549 และให้พ้นจากการเป็นหลักทรัพย์ฯจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.2549 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ให้แจ้งความจำนงการใช้สิทธิภายในวันที่ 29 ธ.ค. ถึง 15 ม.ค. 2549 โดยกำหนดอัตราการใช้สิทธิ และราคาการใช้สิทธิคือใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้นในราคาหุ้นละ 10 บาท
"โต้ง" ชี้การเมืองทำหุ้นซึม
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ความไม่พอใจบางเรื่องของบางคนมองว่า อาจจะมีผลกระทบต่อภาวะตลาดหุ้นโดยรวมได้ เพราะทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขายได้ ดังนั้นภาวะตลาดหุ้นปีหน้าส่วนหนึ่งคงจะขึ้นอยู่กับคนไม่กี่คน ว่าจะคำนึงถึงส่วนรวมหรือเห็นแก่ประโยชน์ของ ประเทศหรือเปล่า หรือ ความไม่พอใจกันนั้นเป็นเรื่องการเมืองหรือผลประโยชน์ กลุ่มคนที่เฮโลไปรู้เรื่องหรือไม่
"สังคมไทยขณะนี้อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจาก ไม่รู้มาเป็นเริ่มรู้เริ่มเข้าใจ ถือว่าน่าดีใจที่มีการพัฒนาจากที่ไม่มีความรู้ มาสู่คนที่มีความรู้ซึ่งในช่วง รอยต่อนี้อาจจะมีการถูกชักจูงหรือชี้นำได้ ซึ่งถ้ามีการชักจูงที่เหมาะสมก็ถือว่าดี แต่ถ้าชักจูงในสิ่งที่ไม่เหมาะสมก็จะเป็นปัญหาได้ ดังนั้นขึ้นอยู่กับคนไม่กี่คนที่มีความรู้สามารถในการชี้นำรักชาติ หรือแค่เอากลุ่มคนมาเป็นประโยชน์ทางการเมืองและธุรกิจ" นายกิตติรัตน์กล่าว
|
|
 |
|
|