Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์21 พฤศจิกายน 2548
เต็นท์รถมือสองหวั่น กฎใหม่ปปง.ป่วนลูกค้า             
 


   
search resources

Automotive




-ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองคาดได้รับผลกระทบเต็มๆ หากต้องแจ้งซื้อขายรถราคาเกินล้าน
-เหตุลูกค้าไม่มั่นใจข้อมูลซื้อขายจะรั่วไปที่อื่นหรือไม่ แม้จะเป็นเจตนาดีแต่ยอดขายตกแน่
-แนะรัฐจี้เต็นท์รถที่มีหลายพันรายใช้ะบบภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างจริงจัง หรือไม่ก็ขึ้นทะเบียนในอนุญาตค้าของเก่าให้ครบทุกราย

เต็นท์รถมือสองทั้งรายใหญ่รายเล็ก หวั่นกฎหมายป้องกันการฟอกเงินที่ให้ผู้ซื้อรถยนต์ราคาเกิน 2 ล้านบาท ต้องแจ้งข้อมูลให้คณะกรรมการป้องกันการฟอกเงิน อาจกระทบตลาดโดยรวม เนื่องจากลูกค้าต้องเจอกับขั้นตอนและวิธีการซื้อขายที่มากขึ้น ขณะที่บางคนอาจเกิดความหวาดระแวงว่าข้อมูลการซื้อรถอาจถูกส่งต่อไปกรมสรรพากร และมีผลตามมาในเรื่องการจัดเก็บภาษี

แม้กฎหมายดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่ผู้ประกอบการรถยนต์มือ 2 รายใหญ่แห่งหนึ่งระบุว่า ทราบความเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าวมาได้ระยะหนึ่งแล้ว และมีแนวโน้มสูงมากที่รัฐบาลจะเริ่มนำมาบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งคงส่งผลต่อการทำธุรกิจรถมือสองของผู้ประกอบการทุกรายอย่างแน่นอน โดยเฉพาะต่อกลุ่มลูกค้าที่ซื้อด้วยเงินสด หรือแชเชียร์เช็ค เพราะลูกค้าบางคนไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลการซื้อรถยนต์ของตนเอง

อย่างไรก็ตามการซื้อขายรถมือสองที่ราคาเกิน 1 ล้านบาท ก็อาจมีวิธีหลบเลี่ยงได้เช่นกัน เพราะบางครั้งผู้ประกอบการ และลูกค้า อาจมีการทำข้อตกลงต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลการซื้อขายได้ เช่น การให้ลูกค้าจ่ายค่ารถเป็นงวดๆ แทนการจ่ายครั้งเดียว หรือไม่ก็หันไปซื้อด้วยระบบเงินผ่อน หรือแม้กระทั้งการแจ้งราคารถให้ต่ำกว่า 1 ล้านบาทเป็นต้น

ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองรายเดิมกล่าวว่า “มันเหมือนกับกรณีการฝากถอนเงินวงเงินเกิน 2 ล้านบาทกับธนาคาร แทนที่จะถอนครั้งเดียวก็แบ่งถอนครั้งละไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งกรณีรถยนต์หากจะมีการหลบเลี่ยงก็น่าจะในลักษณะเดียวกัน แต่คงต้องดูอีกครั้งว่ารายละเอียดหรือขั้นตอนของกฎหมายที่จะนำมาบังคับใช้เป็นอย่างไร

สำหรับรถยนต์มือสองที่ราคาเกิน 1 ล้านบาท ที่มีการซื้อขายมากที่สุดส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ญี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นหลัก เนื่องจากความต้องการในตลาดมีสูงแม้จะอยู่ในช่วงราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างรัดตัว และส่วนใหญ่ลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นประเภทพ่อค้า หรือไม่ก็นักการเมือง หรือข้าราชการ ที่เกษียณอายุราชการ

ขณะที่ผู้ประกอบการรถยนต์มือ 2 รายใหญ่อีกแห่งหนึ่งมองถึงผลกระทบที่จะตามมาจากกฎหมายดังกล่าวว่า มีผลอย่างมาก แม้ตัวกฎหมายจะมีเจตนาที่ดี และต้องการแก้ปัญหาการฟอกเงินในธุรกิจรถมือสอง แต่ผู้ประกอบการรายนี้มองว่า วงเงินการซื้อขายที่กำหนดขึ้นมาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปนั้น ต่ำเกินไป เพราะปัจจุบันรถยนต์ที่ผลิตออกใหม่จำนวนมากในปัจจุบันมีราคาเกิน 1 ล้านบาท รัฐบาลน่าจะขยับตัวเลขการซื้อขายให้เริ่มที่ 2 ล้านบาท เท่ากับการฝากถอนเงินจากธนาคาร

เนื่องจากลูกค้าจำนวนหนึ่ง ทั้งที่ซื้อรถใหม่ป้ายแดง หรือรถยนต์มือสองเองอาจไม่สะดวกในการเปิดเผยข้อมูล อีกทั้งการซื้อขายต้องมขั้นตอนเพิ่มมากขึ้นด้วย ทำให้ลูกค้ารู้สึกเกิดความไม่สะดวก ขณะเดียวกันลูกค้าบางส่วนอาจมีความหวาดระแวงว่าข้อมูลการซื้อขายเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในกรณีอื่น เช่น กรมสรรพกร เพื่อจัดเก็บภาษีด้วยหรือไม่

ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองรายนี้ มองว่า หากรัฐต้องการแก้ไขปัญหาการฟอกเงินในธุรกิจรถยนต์มือสอง ก็สามารถทำได้หลายวิธี เช่นการให้กรมสรรพากรเข้มงวดกับการใช้ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มกับบรรดาผู้ประกอบการเต้นท์รถมือสองอย่างจริงจัง เพื่อจะได้ทราบตัวเลขการหรือตรวจสอบการซื้อขายที่แน่นอนและทุกครั้งได้ เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการเต้นท์รถมือสองในกรุงเทพที่มีมากกว่า 5,000 รายนั้น ส่วนใหญ่จะไม่ยอดนำระบบภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้

หรือแม้กระทั้งการออกในอนุญาตขายของเก่า ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสตช. ออกให้ผู้ประกอบการนั้น ยังไม่ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกราย เช่น ผู้ประกอบรายหนึ่งอาจมีเต็นท์รถในพื้นที่ถึง 30 เต้นท์ แต่มีการแบ่งพื้นที่ให้ผู้ประกอบรายย่อยเข้ามาทำต่อ อาจจะมีมากถึง 10 ราย แต่ใบอนุญาตขายของเก่าอาจมีเพียงใบเดียวคือเป็นของเจ้าของเต็นท์รายใหญ่ ขณะที่ผู้ประกอบการรายย่อยอื่นๆ ไม่มีในอนุญาตเลย

ทั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ไม่สุจริตบางราย ทำธุรกิจเต็นท์รถมือสองบังหน้าธุรกิจผิดกฎหมาย ทำให้มีทั้งเรื่องการฟอกเงิน หรือการโกงผู้ซื้อรถ เช่นการโอนรถไม่ได้ หรือการซื้อรถผิดกฎหมายเป็นต้น

“หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการตรวจสอบในอนุญาตเต็นท์รถมือสองทุกราย หรือให้มีการขึ้นทะเบียนในอนุญาตทั้งหมด น่าจะสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของผู้ประกอบการทุกรายได้ เพราะสตช.มีหน่วยงานที่คอยตรวจสอบเต็นท์รถยนต์มือสองทุกๆ เดือนอยู่แล้ว และน่าจะสามารถแก้ปัญหาการฟองเกินจากรถยนต์มือสองได้ดีกว่า”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us