|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
น้องใหม่ธุรกิจประกันชีวิต "นักช้อป"จากโตรอนโต แคนาดา คงไล่ไม่ทันเจ้าใหญ่อื่น ที่เข้ามายึดพื้นที่ทำกินก่อนหน้านี้หลายปี แต่อย่างน้อยการมาล่ากว่าใคร และค่อยๆก้าวอย่างช้าๆ ก็แสดงถึง การวางรากฐานที่มั่นคง หากจะสร้างตึกสูงระฟ้า ไล่ให้ทันเจ้าถิ่น...
ผู้นำในการวางรากฐานหรือลงเสาเข็มให้กับตึกสูงระฟ้าของแมนูไลฟ์ ก็ไม่ใช่คนอื่นไกล "ปีเตอร์ แทน" คือเจ้าของเก้าอี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่คนนั้น ประสบการณ์กว่า 20 ปี ในตลาดเอเชีย ไม่ว่า สิงคโปร์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย และในธนชาติซูริคประกันชีวิตการันตีได้ถึงความเก๋าในพื้นที่ได้ดี
หน้าที่ของกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ คือ การรุกตลาดควบคู่ไปกับการผลิตตัวแทนขายมืออาชีพ ที่มีความรู้ด้านการเงิน รวมถึงการปรับระบบไอทีใหม่ ปรับโครงสร้างสำนักงานใหญ่ และสาขาทั่วประเทศให้เข้ากับคอนเซ็ปท์ " หว่านเมล็ดพืชเพื่อหวังผล" หรือ หากคิดจะก่อสร้างตึกสูงระฟ้า ก็ต้องมีรากฐานที่มั่นคง...
ช่วงหน้าร้อนปีที่แล้ว การซื้อกิจการจอหน์แฮนคอค ในต่างประเทศ ทำให้แมนูไลฟ์ถือกรรมสิทธิ์บริษัทที่เคยอยู่ในอาณานิคมของ จอหน์แฮนคอคทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ อินเตอร์ไลฟ์ จอห์นแฮนคอค ประกันชีวิตในไทย ที่ถูกเปลี่ยนมือจาก หุ้นใหญ่ที่ถือโดยเจ้าสัวน้ำเมา "เจริญ สิริวัฒนภักดี" มาเป็นแมนูไลฟ์เบ็ดเสร็จ นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่นายทุนกระเป๋าหนักจากแคนาดาได้หอบถุงเงินก้อนโตเข้ามาซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นฝั่งไทย ก่อนจะอัดฉีดเงินอีกกว่า 200 ล้านบาท เพื่อปรับปรุง ขยายสำนักงานใหญ่ สาขา ผลิตบุคลากรและพัฒนาระบบไอที
ถึงแม้จะกระโดดเข้ามาหลังใครเพื่อน และทำให้กระบวนการขายชะลอตัวลงบ้าง แต่แนวคิดของแมนูไลฟ์ที่จะค่อยๆขยับขยายตลาดก็ยังยึดหลักการรุกแบบ พร้อมก่อนจึงจะเคลื่อนทัพ การที่มีสำนักงานแม่ประจำภูมิภาคในฮ่องกง ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ แมนูไลฟ์เลือกจะคัดลอกสูตรสำเร็จจากฮ่องกงเพื่อนำสองวัฒนธรรมมาผสมผสานกัน ศูนย์บัญชาการแห่งนี้ยังทำหน้าที่สนับสนุนด้านผลิตภัณฑ์และการเชื่อมระบบจากทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน
ในฮ่องกงนักขายหรือตัวแทนขายประกันมักจะมีความรู้ด้านการเงิน เป็นนักขายมืออาชีพที่ทำงานเต็มเวลามากกว่าทำงานนอกเวลาเหมือนกับ ตัวแทนขายในไทย ดังนั้นระยะแรกที่จะรีครูตตัวแทนมืออาชีพภายใน 5 ปีให้ถึง 1 พันคน จึงต้องผ่านการฝึกอบรม ให้เป็นนักวางแผนการเงินในระยะยาว เพื่อให้นักขายมีภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ นอกจากนั้นการปรับเปลี่ยนสำนักงานใหญ่และสาขาก็ตองทำให้ดีขึ้นเพื่อความเป็นมืออาชีพ
ความแตกต่างของนักขายในไทยและฮ่องกง นอกจากความรู้ด้านการเงิน ก็ยังเห็นชัดในเรื่องเวลาของการขาย นักขายเต็มเวลาจะทำยอดได้ดีกว่า ขณะที่นักขายนอกเวลาทำงานปกติ จะมีเคสหรือกรมธรรม์ต่อรายเดือนหนึ่งๆไม่มากนัก รูปแบบการทำตลาดที่ผิดแผกกันตามวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ที่จะนำมาผสมรวมกันจึงทำให้ตัวแทนเก่าที่มีอยู่กว่า 600 รายต้องเข้าสู่กระบวนการฝึกอบรมแบบใหม่
นักขายที่เคยขายได้เพียง 1 เคสต่อ 1 เดือนก็ต้องทำให้มากกว่านั้น เพราะโดยเฉลี่ยนักขายในฮ่องกงทำได้ถึง 30 รายต่อปีต่อคน ดังนั้นเป้าหมายการขายจึงไม่น่าจะต่ำกว่า 2 รายต่อเดือนต่อคน
การก้าวเข้ามาหลังสุด ยังทำให้การปรับปรุงสาขาเป็นรูปร่างจะปรากฏในช่วงไตรมาส 3 ปีหน้า และจะเสร็จสิ้นปลายปีหน้า พร้อมกับการพัฒนาระบบไอที อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีสาขาเพียง 14 แห่งกระจายอยู่บางจุดทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดแต่ ลูกค้าส่วนใหญ่ของแมนูไลฟ์ก็ยังคงจำกัดพื้นที่อยู่ในใจกลางเมืองหลวงและปริมณฑลโดยรอบเป็นหลัก
ปีเตอร์ บอกว่า การที่มีกองบัญชาการประจำภูมิภาคตั้งบนเกาะฮ่องกง จะช่วยให้มีการสนับสนุนด้านทรัพยากรบุคคล ด้านเทคนิค สินค้าและฝ่ายรับประกัน นอกจากนั้นการวางระบบไอทีใหม่ก็ปรับให้รองรับแมนูไลฟ์ทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนาตัวแทนและลูกค้าทำได้ดีขึ้น
กองทัพที่ยังไม่เคลื่อนตัวในตอนนี้ อาจยังไม่เห็นถึงพลานุภาพของกลุ่มทุนจากอเมริกาเหนือ แต่ถ้าการวางรากฐานเริ่มเห็นผล ถึงตอนนั้นก็คงจะได้เห็นตึกระฟ้าที่สูงตระหง่าน พร้อมกับสถานการณ์การแข่งขันที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ...
ใครที่ยังไม่มีกรมธรรม์อยู่ในมือ ก็จะมีโอกาสได้เข้าใกล้กับนักขายมืออาชีพ มากขึ้นๆเช่นกัน เพราะนักขายมีช่องทางเจาะเข้าถึงลูกค้าทุกรูปแบบ....
|
|
|
|
|