กว่าจะรู้จักชื่อ "จีอี มันนี่ แบงก์" ธนาคารเพื่อรายย่อย(ธย.) น้องใหม่ ที่จะได้ฤกษ์เปิดตัวในเดือนมกราคม 2549 นี้ นักช็อปหรือ "ราชาเงินผ่อน" แทบทุกครัวเรือนก็ตกเป็นลูกค้าภายใต้อาณัติของ "จีอี" เรียบร้อยแล้ว โดยที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว...
ฐานลูกค้าในประเทศของ จีอี มันนี่ ปัจจุบันมีสูงถึง 3 ล้านราย ซึ่งหากแยกตามสายประเภทธุรกิจก็จะพบว่า การแทรกซึมเข้ามาของ "จีอี" นั้นมีมานานแล้ว เพียงแต่หลายคนอาจยังไม่ทันสังเกต เพราะการค่อยๆเบียดเข้าตามช่องว่างแบบเงียบๆ ไม่ได้ใช้ชื่อจีอีเพื่อบ่งบอกให้รู้ว่า จีอี ก็คือ กลุ่มบริษัทในเครือของ จีอี คอนซูเมอร์ไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ "เจเนอรัล อิเลคทริค" ที่มีฐานบัญชาการใหญ่ตั้งอยู่ที่ สแตมฟอร์ด คอนเนคติกัต สหรัฐอเมริกา
ลูกค้าหรือลูกหนี้ของ จีอี มันนี่ ทุกวันนี้จึง กลายเป็นฐานลูกค้าของจีอีทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อรถยนต์ที่มีลูกค้ากว่า 490,000 คน สินเชื่อเฟิร์สช้อยส์ ซึ่งเป็นสินเชื่อเงินผ่อน 630,000 คน สินเชื่อควิกแคช หรือสินเชื่อเงินสดเอนกประสงค์อีก 260,000 ราย และที่ถือเครดิต กรุงศรี จีอี ร่วม 650,000 ราย บัตรเซ็นทรัล มาสเตอร์ดาร์ด 600,000 ใบ และบัตรเทสโก้ โลตัสอีก 500,000 ใบ
ตลาดของจีอี จึงมีทั้งนักช็อป ราชาเงินผ่อน และนักรูด ที่ครอบคลุมทุกสายธุรกิจ โดยเฉพาะหากนับสินเชื่อแบบลิสซิ่ง ลูกค้าองค์กร สินเชื่อสินค้าคงคลังสำหรับดีลเลอร์รถยนต์ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ "คาร์ฟอร์แคช" และสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ ก็อาจจะมองเห็นอาณาจักรของ ว่าที่แบงก์น้องใหม่ในมุมที่กว้างขึ้น
ดินแดนที่ถูกจับจองโดย "จีอี มันนี่" ซึ่งพร้อมจะแผ่ขยายอาณาจักรไปทุกมุมที่ต้องการ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้และจะทำได้สะดวกขึ้น เมื่อสถานภาพเปลี่ยนจากเพียงผู้ให้บริการทางการเงิน ที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์(นอนแบงก์) มาเป็นธนาคารเพื่อรายย่อย(ธย.)
จากธุรกิจให้บริการสินเชื่อผู้บริโภคเบอร์หนึ่งของโลกที่มีความได้เปรียบที่เงินทุน เทคโนโลยี และการวางระบบทันสมัย ซึ่งเดิมเคยทำรายได้จากการปล่อยสินเชื่อเพียงอย่างเดียว หลังจากนี้ก็จะมีสินค้าใหม่ๆเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ เบิกถอนเงินจากเอทีเอ็ม การโอนเงินทางอิเลคทรอนิคส์ได้เหมือนๆกับธนาคารพาณิชย์ทั่วไป เพิ่มเข้ามาอีก
นายทุนกระเป๋าหนักจากฝั่งตะวันตก ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความพร้อมที่มาคู่กับเงินลงทุนก้อนใหญ่ จากการเพิ่มทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของ "จีอี มันนี่" ที่สูงระดับ 5,304 ล้านบาท สูงกว่ากระทรวงการคลังกำหนดถึง 20 เท่า (250 ล้านบาทสำหรับธย.) รวมถึงอัดฉีดเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ลงทุนระบบไอทีรองรับ ธนาคารแห่งใหม่ในปีหน้า
นอกจากการครอบครองพื้นที่ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อรถยนต์ซึ่งเป็นฐานตลาดที่ค่อนข้างใหญ่แล้ว ภายหลังการเลื่อนฐานะเป็นธย. ก็จะทำให้จีอี มันนี่ แผ่อาณาจักรไปยังฝั่งลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและย่อมหรือ เอสเอ็มอีได้ง่ายขึ้น รวมถึงตลาดนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยที่มีช่องว่างให้เบียดแทรกได้ตลอดเวลา
การประกาศตัวเองอย่างโจ่งแจ้งครั้งนี้ จึงทำให้แบงก์หลายแห่งรวมถึงที่กำลังยกระดับเป็นแบงก์ ธย. ตระหนักถึงภัยคุกคามจากกองทัพที่พร้อมด้วยเสบียงและนักรบกล้าแกร่งจากอีกซีกโลก ชนิดมองข้ามไปไม่ได้
ธุรกิจภายใต้สัญลักษณ์ "จีอี มันนี่" เท่าที่ผ่านมา อาจจะรู้จักในหลายๆชื่อ และเรียกต่างกันไปตามสายธุรกิจ แต่ที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยก็คือ การรุกเข้าไปในธุรกิจแต่ละครั้งมักจะยึดแนวทาง "เร่งขยายอย่างรอบคอบ" และระแวดระวัง
9 เดือนที่ผ่านมา จีอี มันนี่ มียอดสินเชื่อประมาณ 145,000 ล้านบาท ขยายตัว 25% โดย 65% เป็นพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ที่เหลือ 10-15% เป็นสินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต สินเชื่อสินค้าแบบผ่อนชำระ โดยมีอัตราหนี้เสียเพียง 1.6% ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-3%
พิริยะ วิเศษจินดา ประธานจีอี มันนี่ ประเทศไทย บอกถึงแนวทางทำธุรกิจ ของจีอี มันนี่ ไม่คิดกำหนดราคาเพื่อเปิดศึกในสนามรบ เพราะราคาเป็นแค่องค์ประกอบเดียว แต่ประเด็นหลักของจีอี มันนี่ คือ ทำอย่างไรจะสนองตอบความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้
" เราเน้น เข้าใกล้บริการ เร็ว สะดวก และเข้าถึงได้ง่ายเป็นหลักในการทำธุรกิจ"
โมเดลดังกล่าว สำหรับว่าที่ธนาคารน้องใหม่ "จีอี มันนี่" จึงไม่ต่างจากรูปแบบการดำเนินธุรกิจของจีอี นับจากเปิดตลาดในเมืองไทยเท่าไรนัก คือค่อยๆรุกอย่างเป็นระบบ แบบค่อยเป็นค่อยไป
ว่าที่ธนาคารน้องใหม่จึง เริ่มต้นจากการสร้างระบบ Core Banking หัวใจหลักของการทำธุรกิจธนาคาร โดยเฉพาะด้านไอที ที่ครอบคลุมการจัดเก็บข้อมูลลูกค้า การรับฝากเงิน การทำธุรกรรมที่เคาท์เตอร์ธนาคาร การโอนเงินทางอิเลคทรอนิคส์ การอนุมัติทางออนไลน์ ระบบเคลียริ่งเช็ค และระบบการบริหารจัดการข้อมูล
พิริยะบอกว่า ปีหน้าจีอีฯจะเปิดประตูออกเพื่อให้บริการลูกค้าครบทุกเซ็กเม้นต์ และอยู่ระหว่างสำรวจทำเลจัดตั้งสาขา ก่อนจะเปิดในปีแรก 9 แห่ง รวมสำนักงานใหญ่ ในช่วงต้นจะบุกเบิกย่านใจกลางเมืองหลวง ปริมณฑลและหัวเมืองใหญ่ พร้อมผลิตพนักงานประมาณ 300 คน
" แผนงานใหม่ยังไม่เป็นเชิงรุก เพราะอยากให้ทำความเข้าใจถึงโมเดลการทำธุรกิจรวมถึงเป้าหมายธุรกิจ และดูเป้าหมายลูกค้าด้วยว่ากระจุกตัวอยู่ตรงไหนเสียก่อน"
พิริยะบอกว่าภายในปี 2550-2554 จะเริ่มขยายตลาด เมื่อเข้าใจโมเดล หรือเข้าใจความต้องการลูกค้ามากขึ้น ก็จะพิจารณาอีกครั้ง ว่าจะนำเสนอบริการได้มากแค่ไหน ซึ่งจีอี มันนี่จะยึดถือเป็นหลักในการขยายตลาด...
ไม่ต้องรอให้พรมแดนการค้าเปิดประตูอย่างเป็นทางการ แต่จีอี่ มันนี่ ก็อาศัยการเลาะตะเข็บชายแดนแทรกซึมเข้ามาจนเกือบทุกซอกมุมได้ง่ายๆ
รับรู้กันว่า นายแบงก์ทั้งใหญ่และเล็ก ที่กำลังก้มโค้งตัวลงมาจับตลาดลูกค้ารายย่อยกันถ้วนหน้า ต่างก็เอ่ยถึงความน่ากลัวของกองทัพจากโลกตะวันตกอย่างพร้อมเพรียงกัน ว่ากันว่า แรงกระเพื่อมของความหวาดวิตก เริ่มมาตั้งแต่วันที่ "จีอี มันนี่" ได้ยื่นเรื่องขอจัดตั้งเป็นแบงก์ก่อนหน้านี้ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามอย่างเงียบๆ...
|