Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 ธันวาคม 2545
เอชพีประกาศ นโยบายปี46 เปิด 3กลยุทธ์             
 


   
www resources

โฮมเพจ ฮิวเลตต์ แพคการ์ด

   
search resources

ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย), บจก.




เอชพีเปิดแนวรุกตลาดไอทีปี 2546 ด้วย 3 กลยุทธ์ หลักเน้นเรื่องของการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง โฟกัสในสิ่งที่มี ความเชี่ยวชาญและบุกกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรซ์ควบคู่ไปกับการบริการ ส่วนช่องทางในการทำตลาดยังเน้นผ่านคู่ค้ากว่า 90% พร้อมโชว์ผลประกอบการรอบปี 2545 มียอดขายสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 10%

นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ กรรมการผู้จัดการและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์องค์กร ขนาดใหญ่ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัดหรือเอชพีกล่าวถึงนโยบายและกลยุทธ์ในการทำตลาดรอบปี 2546 ว่าสิ่งที่เอชพีจะใช้เป็นกลยุทธ์ในการแข่งขันจะเน้น 3 เรื่องหลักคือ 1.การ สร้างความแตกต่างในเรื่องของผลิต ภัณฑ์บริการ คุณภาพ และ เทคโนโลยี 2.การให้ความสำคัญหรือโฟกัสเข้าไปในคีย์เซกเมนต์ โดยเลือกในสิ่งที่มีความเชี่ยวชาญและถนัดและ3.บุกตลาดเอ็นเตอร์-ไพรซŒไปพร้อมกับเรื่องการบริการที่แบ่งออกเป็น 5 ส่วนประกอบด้วย

1.Adaptive Infrastructure ซึ่งเป็นการรับมือกับระบบปฏิบัติการหรือโอเอสได้ทุกรูปแบบ เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง 2.Utility Computing ซึ่งเอชพีได้ดำเนินการ มาแล้ว 2 ปี 3.Zero Latency Enterprize ซึ่ง เป็นการทำให้ระบบไอทีสามารถทำงานได้ต่อเนื่องไม่มีล่ม 4.Outsourcing และ5.Solution-led Integration เพื่อนำเสนอโซลูชั่นให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าและตลาด

สำหรับการทำธุรกิจของเอชพีแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ 1.กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์องค์กรขนาดใหญ่2.กลุ่มธุรกิจการบริการ 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อพ่วงและการพิมพ์และ 4.กลุ่มผลิตภัณฑ์ เพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์

การทำตลาดในปีหน้า ทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจจะร่วมมือในการที่จะบุกตลาดทุกประเภทด้วยโซลูชั่น และการให้บริการที่ครบวงจรขณะเดียว กันจะมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ นำเสนอให้ลูกค้า ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นระดับองค์กรขนาดใหญ่ วิสาหกิจขนาดกลางและย่อมหรือเอสเอ็มอี รวมถึงกลุ่มคอนซูเมอร์

"ตอนนี้เราบริหารแบบวันทีม ไม่มีการแบ่งแยกว่าใครมาจากเอชพี ใครมาจากคอมแพคซึ่งปีหน้าจะบุกตลาดต่อเนื่องขึ้น โฟกัสภาครัฐและรัฐวิสาหกิจมากขึ้น รวมถึงแบงกิ้ง ไฟแนนซ์และธุรกิจโทรคมนาคม"

ปีหน้าเอชพียังคงมุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องซึ่งเอชพีมีนโยบายที่ชัดเจน ในการที่จะโตไปพร้อมกับคู่ค้าเพราะการทำตลาดของเอชพี 85-90%เป็นการขายผ่านคู่ค้า จึงจำเป็นต้องดูแลคู่ค้าให้ดี

นายเชิดศักดิ์กล่าวว่าปีที่ผ่านมาธุรกิจมีการ แข่งขันสูงมาก แต่เอชพีสามารถสร้างผลงานและผลประกอบการได้ตรงตามเป้าหมาย และมียอดขายสูงกว่าเป้าที่วางไว้10% จากที่มีการประเมินในระยะแรกว่าหลังจากรวมกิจการกับคอมแพคแล้วจะทำให้ยอดขายลดลง 10% เนื่อง จากผลิตภัณฑ์หายไปหลายอย่าง สำหรับปัจจัยที่ทำให้เอชพีมียอดขายสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เพราะมีต้นทุนลดลง เนื่องจากมีการปลด พนักงานออกบางส่วน ซึ่งปัจจุบันเอชพี(ประเทศไทย) มีพนักงานประมาณ 400 คน

ส่วนผลประกอบการในรอบปี 2545 มาจากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์องค์กรขนาดใหญ่ 19% กลุ่มธุรกิจการบริการ 12% และเอชพีมีนโยบายที่จะสร้างรายได้จากกลุ่มนี้มากขึ้น กลุ่มผลิต ภัณฑ์ต่อพ่วงและการพิมพ์ 32% กลุ่มนี้มีอัตราการเติบโตมาก กว่า 20% เมื่อเทียบกับรอบปี 2544

กลุ่มผลิตภัณฑ์เพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ 35% ซึ่งในปีหน้ากลุ่มนี้จะดำเนินแผนการตลาดเชิงรุกและยังเน้นการร่วมมือกับคู่ค้าและพาร์ตเนอร์ในการนำเสนอโซลูชั่นให้กับลูกค้าต่อไป โดยเน้นการนำผลิตภัณฑ์ไประยุกต์ใช้ร่วมกับแอปพลิเคชั่นต่างๆ ให้เกิดประโยชน์และสาระกับผู้ใช้มากขึ้นและคาดว่าในรอบปี 2546จะมีอัตราการเติบโตประมรณ 25% เนื่องจากจะมีการ นำผลิตภัณฑ์พร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆออกวางตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้อง การครบทุกด้านในตลาดโซลูชั่นพกพารวมทั้งที่เป็นเครื่องเวิร์กสเตชั่น

ด้านช่องทางการจำหน่าย เอชพีได้มีการปรับโครงสร้างอย่างชัดเจน โดยกลุ่มเพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ จะดูแลตัวแทนจำหน่ายค้าส่งและตัวแทนจำหน่ายค้าปลีกสำหรับองค์กรธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันเอชพีได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายค้าส่งทั้งหมด 5 รายได้แก่ ดิจิแลนด์(ประเทศไทย),เดอะ แวลู ซิสเต็มส์,เทค แปซิฟิก (ประเทศไทย),นิวซิสเต็มส์ คอนซัลแตนท์และเอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น

พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสำหรับตลาดองค์กรอีก 7 รายคือพารา แอดวานซ์ อินโฟเทค,ซีดีจี ไมโครซิสเต็มส์,ล็อกซเล่ย์, เมโทรซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น,โมเดิร์นฟอร์ม อินทริเกรชั่น เซอร์วิสเซ็ส,ริโก้(ประเทศไทย)และเอสวีโอเอ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us