เซ็นทรัลยอมรับไม่ได้แจ้งต่อเติมภายในอาคาร ด้านรถไฟตั้งคณะ ทำงานลงพื้นที่ตรวจเข้มทุกจุดว่าผิดสัญญาหรือไม่
สรุปผลภายใน 7 วัน ดูสัญญาทั้ง รถไฟและกทม. หากผิดซ้ำซาก และไม่ยอมแก้ไข
อาจต้องยึดอาคาร ขณะที่ผู้บริหารเซ็นทรัลปิดปากเงียบหลบออกด้านหลังชิ่งไม่ให้สัมภาษณ์
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายจิตสันติ
ธนะโสภณ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และนายปาณฑป มาลากุล ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ทรัพย์สินรถไฟไปหารือในรายละเอียดกับนายสุทธิเกียรติ
จิราธิวัฒน์ ผู้บริหาร ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับสัญญา
กรณีที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งเช่าที่ของรถไฟอยู่นั้น ได้ทำการต่อเติมการก่อสร้าง
6 รายการโดยไม่ได้ขอ อนุญาตจากรถไฟว่าบริษัทมีสัญญา ที่ขออนุญาตจากรถไฟหรือไม่
อย่าง ไร และจะรอฟังคำชี้แจง ทั้งนี้หากพบว่าไม่มีสัญญาจริง ก็จะยึดเงินค้ำ
ประกัน 3 ล้านบาท และหากบริษัท ยังต่อเติมอาคารต่ออีกก็จะยึดอาคารและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องทั้งหมดมาเป็นของรถไฟทันที
เนื่องจากหลักฐานที่รถไฟมีอยู่นั้น นายจิตสันติ ยืนยันว่าไม่มีหนังสือขออนุญาตจากบริษัทแต่อย่างใด
ดังนั้นจะเปิดโอกาสให้บริษัทได้ชี้แจง โดยจะดูจากเจตนาเป็นหลักสำคัญ ว่าจงใจทำผิดสัญญาหรือไม่
และหากคำชี้แจงมีเหตุผล รถไฟก็พร้อมจะรับฟัง แต่ หากไม่ใช่ ก็จะเจรจาต่อรองต่างกันไปอีกแบบหนึ่ง
"ที่ผ่านมา เซ็นทรัลจ่ายค่าเช่าให้รถไฟเดือนละ 7 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อยมาก
แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าเป็นสัญญาที่ทำไว้นานแล้ว แต่เมื่อมีการต่อเติมอาคารใช้ประโยชน์เพิ่มเติม
ก็ต้องให้ผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นแก่ รถไฟด้วย และคาดว่าบริษัทคงจะยอมเพิ่มค่าเช่าให้อยู่แล้ว
ซึ่งหากจะเพิ่มค่าเช่าก็ต้องเพิ่มเป็น 100 เท่า แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นหลักสำคัญ
อยู่ที่เจตนามากกว่าว่าจงใจทำผิดสัญญา หรือไม่ โดยหากเซ็นทรัลทำทุกอย่างโดยสุจริต
ตรงไปตรงมา กระทรวงคมนาคมก็เอาผิดไม่ได้ เราไม่ได้ตั้งใจไปกลั่นแกล้งผู้ทำธุรกิจโดยสุจริต
แต่จากหลักฐานรถไฟ เซ็นทรัลไม่ได้ทำตามเงื่อนไขสัญญา"
นายสุริยะ กล่าวว่า และภายในวันนี้จะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อสอบข้อเท็จจริงการ
ทุจริตในรถไฟต่อไปโดยจะเลือกบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ ได้ของประชาชน ตรงไปตรงมา
ไม่ให้ไปช่วย หรือใส่ ร้ายใครโดยไม่มีข้อมูล และจะให้เวลาคณะกรรมการฯ ทำงาน
2 เดือน คาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดต่อไป
เรื่องที่เกิดขึ้นในรถไฟนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่า เมื่อตนเข้ามาดูแลรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม
รถไฟมีความสำคัญ เพราะเป็นองค์กรใหญ่ มีบุคลากร มาก แต่ขาดทุนมาโดยตลอด ทำให้ไม่สามารถปรับ
ปรุงบริการให้ประชาชนได้เต็มที่เพราะไม่มีงบประมาณ ดังนั้นตนจึงต้องการหาทางฟื้นฟูรถไฟให้ดีขึ้นให้ได้
โดยต้องการที่จะปรับปรุงงบประมาณของรถไฟที่ราย งานครม.ไปแล้วก่อนหน้านี้
เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นให้ได้ 1,704 ล้านบาท ซึ่งหากเราเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย
ลดการซื้อของแพง ลดการทุจริต ถ้าทำพร้อมๆ กัน เชื่อว่าจะลดขาดทุนได้แน่นอนและตนขอฝากให้พนักงานรถไฟทุกคนร่วมมือกันเพื่อให้รถไฟดีขึ้น
ผู้บริหารเซ็นทรัลปิดปากเงียบ
วานนี้ (16 ธ.ค.) เวลา 16.00 น. นายจิตสันติ ธนะโสภณ ผู้ว่าการร.ฟ.ท.พร้อมด้วยนายยุทธนา
ทัพเจริญ รองผู้ว่าการด้านกิจการพิเศษ ด้านบริหารทรัพย์สินร.ฟ.ท. พร้อมด้วยฝ่ายกฎหมาย
รวม 5 คนได้หารือร่วมกับผู้บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งประกอบด้วย นายสุทธิเกียรติ
จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทรัล
นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร-ปฏิบัติการค้าปลีก และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา
จำกัด (มหาชน) และนายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ รองประธานกรรมการฝ่ายโครงการโรงแรม
และรีสอร์ต ในเครือเซ็นทรัลนาน 1 ชั่วโมง
นายจิตสันติกล่าวภายหลังหารือว่า รถไฟจะตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อลงไปตรวจสอบพื้นที่
ทั้งหมดว่าถูกต้องตามแบบหรือไม่ โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ เข้ามาวัดพื้นที่ในวันที่
17 ธ.ค.นี้ และคาดว่าภายใน 1 สัปดาห์จะทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งการหารือกับเซ็นทรัลครั้งนี้
ไม่ได้มาบอกว่าเซ็นทรัลผิด หรือถูก แต่มาถามว่าทำไมจึงไม่ขออนุญาตจากรถไฟก่อน
ซึ่ง ตามสัญญาเช่าพื้นที่นั้น ผู้เช่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง จะต้องแจ้งให้รถไฟทราบโดยละเอียด
ซึ่งในสัญญาเช่ากับเซ็นทรัลนั้น มีแบบประกอบด้วย ซึ่งรถไฟจะไปดูทั้งสัญญา
และแบบว่า แต่ละชั้นนั้นมีการเปลี่ยน แปลงไปจากเดิมมากน้อยเท่าใด อย่างไรก็ตาม
เซ็นทรัลได้ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลพอสมควร แต่ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลในภาพรวม
ซึ่งรฟท.จะนำไปพิจารณาด้วย
"เซ็นทรัลยอมรับว่าไม่ได้แจ้งให้รถไฟทราบใน การต่อเติมภายในอาคาร
เพราะถือว่าเป็นการเปลี่ยน แปลงเชิงพาณิชย์ ซึ่งรถไฟจะไปตรวจสอบในสัญญาก่อนว่า
การเปลี่ยนแปลงภายในต้องแจ้งให้ทราบด้วยหรือไม่ แต่ในส่วนของการต่อเติมอาคารบน
ลานจอดรถนั้นได้แจ้งให้ทราบ แต่รถไฟได้สั่งให้ระงับ ไว้ก่อน เพราะยังไม่ได้อนุญาต"
นายยุทธนา ทัพเจริญ รองผู้ว่าการร.ฟ.ท. กล่าว ว่าโดยเฉพาะ ในส่วนของ ท็อปส์
ซูเปอร์มาร์เก็ต และลานจอดรถใต้ดินที่ปรับปรุงเป็นคาร์แคร์ โรงภาพ ยนตร์บนชั้น
6 ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และหลังคาลานจอดรถชั้น 3 เซ็นทรัลได้แจ้งว่า
กรณีที่เปลี่ยนแปลงภายในอาคารนั้น ไม่ได้แจ้งให้รถไฟ ทราบเลยทุกรายการเพราะเห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลง
ในเชิงพาณิชย์ แต่ทั้งนี้ในส่วนของโรงภาพยนตร์นั้น ได้แจ้งขออนุญาตแบบก่อสร้างอย่างถูกต้องตามกฎ
หมายกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) แล้ว ดังนั้นรถไฟ จะให้คณะทำงานเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมด
เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาว่าเซ็นทรัลได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญาอย่างถูกต้องหรือไม่
และมีการทำผิดมากน้อยแค่ไหน
นอกจากนี้จะต้องเข้าไปตรวจสอบสัญญาทั้งใน แง่ของสัญญาที่เซ็นทรัลทำกับรถไฟ
และที่เซ็นทรัลทำ กับกทม.ตั้งแต่ต้นว่ามีการผิดสัญญามากน้อยแค่ไหน หากผิดสัญญาเล็กๆ
น้อยๆ และไม่ใช่สาระสำคัญก็จะแจ้งให้บริษัททราบ และจะยึดหลักทรัพย์ค้ำประกัน
3 ล้านบาทไว้ แต่หากพบว่าผิดสัญญามาก และเป็น การผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็จะยึดอาคารทั้งหมด
คาดว่าภายใน 7 วันจะสรุปข้อมูลทั้งหมด ทั้งแง่การลงพื้นที่ ตัวเอกสารต่างๆ
จากนั้นจะเสนอให้รมว.คมนาคมพิจารณาต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าหลังจากเสร็จสิ้นการหารือร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ผู้บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล
ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยมีเจ้าหน้าที่รักษา ความปลอดภัยกันไม่ให้นักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์
ขณะเดียวกันผู้บริหารของเซ็นทรัลก็ได้เดินออกไปอีกทางหนึ่ง
นายเทอดศักดิ์ เศรษฐมานพ อธิบดีกรมทาง หลวงในฐานะประธานคณะกรรมการร.ฟ.ท.กล่าวว่า
เรื่องทุจริตที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆเพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง
ในเดือนมีนาคม 2545 ส่วนกรณีปรับเปลี่ยนบอร์ดใหม่ส่วนตัวพร้อมที่จะถูกปรับเปลี่ยนเสมอเนื่อง
จากเคยแสดงเจตจำนงตั้งแต่นายสุริยะเข้ามารับตำแหน่งแล้วและการพิจารณาอยุ่ที่ดุลพินิจของรมว.
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้( 17 ธ.ค.) อาจจะมีการ เสนอปรับบอร์ดร.ฟ.ท.ชุดใหม่ต่อครม.
