|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แวดวงกองทุนยอมรับธุรกิจปีหน้าแข่งเดือด หลังแนวโน้มดอกเบี้ยเริ่มทรงตัวในช่วงกลางปี บีบให้ บลจ.ต้องปรับ กลยุทธ์ออกกองทุนตราสารหนี้ระยะยาวดึงฐานลูกค้า พร้อมกับหาลู่ทางใหม่ในการเสนอขายหน่วยลงทุนด้วยการบุกตลาดต่างประเทศ ผ่านกองทุน FIF และการเปิดตัว ไพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์" ขณะที่กองทุน หุ้นยังคงเผชิญ "ด่านหิน" บลจ.ยังไม่กล้าเปิดตัวกองใหม่เข้ามาเล่นในตลาด
นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการ ผู้อำนวยการอาวุโส สายการตลาดกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมกองทุนหุ้นภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท ขณะนี้มีการลงทุนในหุ้นประมาณ 80-90% แม้ตลาดหุ้นจะมีความผันผวน อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดหุ้นระยะยาวเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในสัดส่วนสูงได้
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) ในปีนี้ ต่างได้รับอานิสงส์จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้บลจ. หันมาออกกองทุนตราสารหนี้เป็นจำนวนมาก และได้รับการตอบรับจากนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงกลางปีหน้า การบุกตลาดกองทุนตราสารหนี้น่าจะลดลง เพราะดอกเบี้ยเริ่มนิ่งทำให้การบริหารจัดการกองทุน และการแผนการออกกองทุนตราสารหนี้เริ่มยากขึ้น ส่งผลให้บลจ.ต่างๆ ต้องปรับลูกเล่นใหม่ เพื่อดึงดูดนักลงทุน และมีทางเลือกการลงทุนที่มีความหลากหลาย
"ภาพรวมเศรษฐกิจในปีหน้าที่คาดว่าจะยังมีความผันผวน เป็นแรงกดดันให้บริษัทจัดการกองทุนคัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพเข้าพอร์ต เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการลงทุน" นายกำพลกล่าว
สำหรับแผนการออกกองทุนในช่วงที่เหลือ 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ บลจ.ธนชาต เตรียมออกกองทุนตราสารหนี้เพิ่มอีก 2 กองทุน อายุ 6 เดือน ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ
นายเรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.อยุธยา เจเอฟ จำกัด (เอเจเอฟ) กล่าวว่า แนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากคาดว่าจะไม่สูงมากนัก ส่งผลให้การออกกองทุนใหม่ๆ ของบริษัท เพื่อระดมเงินจากนักลงทุนรูปแบบกองทุนตราสารหนี้จะเป็นตราสารหนี้ที่มีระยะยาวมากขึ้น และกองทุนใหม่ที่ออกจะหันไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นเช่นเดียวกัน เพื่อกระจายความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจจัดการกองทุนยังคงมีการออกตราสารหนี้ภาครัฐอยู่ และมีการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์บ้างบางส่วน
สำหรับปีนี้ในช่วง 2 เดือนจากนี้ บริษัทมีแผนจะออกกองทุนตราสารหนี้อายุ 6 เดือน จำนวน 2-3 กองทุน ซึ่งจะเป็นกองทุนที่จะเปิดให้มีการซื้อขายทุกๆ 6 เดือน
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย กล่าวว่า นโยบายการออกกองทุน ของปีหน้ายังคงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล แต่จะมีการหารูปแบบใหม่ๆ ทั้งระยะสั้น กลาง และลงทุนระยะยาว ให้ลูกค้าเลือกลงทุนได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นกู้ โดยเฉพาะหุ้นกู้ภาคเอกชน ควรมีการสร้างความเข้มแข็งมากกว่านี้ เพราะปัจจุบันสินค้าประเภทหุ้นกู้เริ่มมีน้อยลง ทำให้สภาพคล่องต่ำ
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ จำกัด กล่าวว่า นโยบายการลงทุนและแผนการออกกองทุนของบริษัทในปีหน้าจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความหลากหลาย มากขึ้น โดยคาดว่าจะออกกองทุนประเภทตราสาร หนี้ประเภทใหม่ๆ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) และกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจำเป็นต้องมีการบริหาร จัดการกองทุนที่ดีด้วย นอกจากนี้ ยังเตรียมออกกองทุนเพื่อรองรับกับตลาดตราสารอนุพันธ์ที่เตรียมประกาศ ใช้ในช่วงปีหน้าด้วย
ขณะที่นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการ บลจ. ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ในช่วง ปีหน้าหากอัตราดอกเบี้ยเริ่มนิ่ง การลงทุนในตราสารหนี้อายุ 3-5 ปี ถือว่าน่าสนใจ ซึ่งการลงทุน ควรมีการวางแผนและบริหารจัดการให้ดี เน้นการ ขายให้เหมาะสมกับแต่ละคนและแต่ละช่วงเวลาขณะนั้น
|
|
|
|
|