ทีเอ ออเร้นจ์" รับปี 46 เดินหน้าทุ่มเงินเข้าธุรกิจอีกกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท
หวังใช้ทุนก้อนโตเร่งเครื่องขยายเครือข่ายต่อเนื่อง พร้อมนำมาพัฒนาสินค้าและบริการ
ประกาศแผนนโยบายกลยุทธ์ หลัก 6 ด้าน การมุ่งขยายฐานลูกค้าด้วยการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม
รวมทั้งเพิ่มคุณค่าสูงสุดให้กับบริการออเร้นจ์ มุ่งสร้างความแตกต่างแบรนด์ข่มคู่แข่งเจ้าอื่น
เผยตลาดมือถือปี 46 ลู่ทางเติบโตสูง คาดเพิ่มขึ้นเป็น 33-38% มีผู้จดทะเบียนใหม่กว่า
8 ล้านคน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท ทีเอ ออเร้นจ์
จำกัด เปิดเผยถึงแผน นโยบายและกลยุทธ์หลักสำหรับปี 2546 ว่าออเร้นจ์ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความแตกต่างของแบรนด์กับคู่แข่งอื่นๆ
ในตลาดมือถือ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ออเร้นจ์ประสบความสำเร็จในการครบรอบ
หนึ่งปีของการเปิดให้บริการ และพร้อมที่จะดำเนินการต่อไปในการก้าวสู่ปีที่สอง
โดยคาดว่าอัตรา ส่วนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือปีหน้ายัง มีลู่ทางการเติบโตสูง
และจะเพิ่มขึ้น เป็น 33-38% ปลายปี 2546 หรือเท่ากับจำนวนผู้จดทะเบียนใหม่สูงถึง
6-8 ล้านคน
ทั้งนี้ทางบริษัทได้เพิ่มทุนกว่า 12,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาสินค้าและบริการและการขยายโครงข่ายการให้บริการ
โดยผู้ถือหุ้น ของบริษัทคือทีเอและออเร้นจ์ได้ชำระเงินเพิ่มทุน จำนวน 6,000
ล้านบาทส่วนอีก 6,000 ล้านบาทนั้นได้รับการอนุมัติขยายวงเงินกู้จากลุ่มสถาบันการเงินไทย
จากธนาคารกรุงไทยและธนาคารนครหลวงไทย เชื่อว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะช่วยสานแผนการดำเนินงานในปีหน้าให้เกิดประสิทธิ
ภาพมากที่สุด
กลยุทธ์หลักของออเร้นจ์คือการมุ่งขยายฐานลูกค้าด้วยการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม
รวมทั้งเพิ่มคุณค่าสูงสุดให้กับบริการออเร้นจ์ ผ่าน 6 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
1. การพัฒนาสู่ความเป็นอันดับหนึ่งในการสร้างความพึงพอใจสูงสุด โดย การเน้นการพัฒนาเครือข่ายให้สามารถครอบคลุม
อย่างทั่วถึง หลังจากที่ปีนี้ขยายเครือข่ายครอบ คลุมพื้นที่ประชากร 90% และด้านการให้บริการทั้งจากเครือข่ายของออเร้นจ์ช้อปหรือตัวแทนจำ-หน่าย
คอลล์เซ็นเตอร์ จะต้องสร้างความพึงพอใจ สูงสุดที่แตกต่างจากคู่แข่งเป็นการสร้างประสบ
การณ์ร่วมให้เกิดขึ้นกับบริการของออเร้นจ์กับลูกค้า
2. ปีหน้าออเร้นจ์ตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในตลาดมือถืออีก
เพื่อให้ลูกค้าสามารถมีทางเลือกใหม่ โดยการเจาะกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม
ซึ่งทางบริษัทมองว่า การเจาะลูกค้าเป็นกลุ่มในแต่ละเซกเมนต์ เนื่อง จากลูกค้ามีวิถีทางและไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนกัน
แพกเกจใหม่ที่จะนำเสนอในปีหน้า จึงมุ่งสนองกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจ
ครอบครัว ผู้ให้บริการในแต่ละภูมิภาค แต่ละจังหวัด หรือกลุ่ม ลูกค้าที่เป็นสมาชิกกับธุรกิจต่างๆ
อาทิ ผู้ถือบัตรเครดิต
3. การนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ทั้งที่เป็นเทคโนโลยี แอปพลิเคชั่นใหม่ๆ การร่วมมือกับเวน
เดอร์ เพื่อสร้างบริการเสริมในรูปแบบต่างๆ ที่เรียกว่านอนวอยซ์แอปพลิเคชั่น
ในส่วนนี้ออเร้นจ์ เตรียมงบกว่า 1,500 ล้านบาท ใช้ทางด้านการตลาดในการแนะนำนวัตกรรมใหม่
สินค้า บริการ เข้าสู่ตลาด ทั้งนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ออเร้นจ์มีจุดแข็งของเครือข่ายกว่า
23 ประเทศทั่วโลกเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการเปิดบริการและ แนะนำสินค้าในประเทศไทย
เพื่อที่จะให้คนไทย มีทางเลือกที่ดีขึ้นจากบริการที่มีอยู่ในประเทศ
4. การให้ความสำคัญกับตลาดต่างจังหวัด เนื่องจากในช่วงปีนี้ จากการเปิด
14 คลัสเตอร์ทั่วทั้งประเทศพบว่าความแตกต่างของตลาดจังหวัดมีค่อนมากทำให้จะต้องมีการจัดทีมสำหรับ
ตลาดภูมิภาคขึ้น ให้สามารถรองรับความต้องการ ของผู้ใช้งานในแต่ละพื้นที่เฉพาะเจาะจง
โดยจะมีฝ่ายที่ติดต่อกับลูกค้าโดยตรงในตลาดต่างจังหวัดด้วย
5. การนำจุดแข็งในเรื่องของประสบการณ์ออเร้นจ์ที่ได้จากการดำเนินทั่วโลกมาประยุกต์ใช้
ในประเทศไทย ในเรื่องของพันธมิตรทั้งหมดจะถูกนำเข้ามาผสมผสานเพื่อให้เกิดการดำเนินงาน
ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทางบริษัทจะร่วมกับซีพี เทเลคอมเอเซีย ยูบีซีและเซเว่นอีเลฟเว่น
ร่วมกันพัฒนาคอนเทนต์ สร้างช่องทางการประสานงาน แชร์กลุ่มเป้าหมายร่วมกัน
โดยนำความเชี่ยวชาญของแต่ละองค์กรมาใช้ รุกตลาดในกลุ่มเอสเอ็มอี โซโห ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่
กลุ่มคอร์ปอเรทขนาดใหญ่ จะออกมาในรูปแบบ ของโทเทิ่ลบิสซิเนสโซลูชั่น
และกลยุทธ์สุดท้ายทางบริษัทถือเป็นหัวใจในการสร้างความแตกต่างจากทุกคนในตลาดมือถืออย่างแท้จริง
คือพนักงานทั้งหมดกว่า 3 พันคนต้องช่วยกันสร้างคุณภาพของบริการให้เกิดขึ้น
โดยจะไม่เจาะจงเฉพาะเป็นหน้าที่ของ พนักงานขาย พนักงานติดต่อธุรกิจ หรือคอลล์เซ็นเตอร์เท่านั้น
แต่ทุกคนในบริษัทจะต้องช่วยกันผลักดัน เพราะออเร้นจ์ถือว่าการพูดกันปากต่อปากจะเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างได้ดีที่สุด
สำหรับเป้าหมายการทำตลาดในปี 2546 ออเร้นจ์ตั้งเป้ายอดผู้ใช้บริการไว้กว่า
2.5 ล้านคน โดยจะเป็นลูกค้าในต่างจัวหวัดที่ทยอยเพิ่มสัด ส่วนเป็น 30% รวมทั้งยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบซิมอัจฉริยะ
พร้อมบริการไทยเอสเอ็มเอส 2 และบริการอื่นๆ ที่จะพัฒนาขึ้นในอนาคตจะผลักดันให้รายได้จากบริการรับส่งข้อมูลเพิ่มสูงขึ้น
กว่าเท่าตัว
"ปี 2545 เราได้วางรากฐานอย่างมั่นคงในตลาดเมืองไทย และในปี 2546
ออเร้นจ์จะไม่หยุด นิ่งที่จะเดินหน้าสร้างฐานตลาดทั่วประเทศต่อไป เพื่อให้ผู้บริโภคคนไทยมั่นใจในสิ่งที่ออเร้นจ์ได้พัฒนาเพื่อตลาดเมืองไทย"
ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีเอ ออเร้นจ์ จำกัด
กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นในการเปิดให้บริการเครือข่ายเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันเครือข่ายของออเร้นจ์ครอบคลุมให้บริการทุกภูมิภาคทั่วประเทศรองรับ
จำนวนฐานลูกค้ากว่า 1.3 ล้านรายในปัจจุบัน ซึ่งจุดแข็งของออเร้นจ์คือบริการออเร้นจ์ที่โดดเด่น
และแตกต่างด้วยค่าบริการที่คุ้มค่ามีหลายแพก เกจให้เลือกและมีคุณภาพที่ดีกว่าใช้ในการแข่งขัน
ในตลาด
ล่าสุดหลังจากทางบริษัทเปิดให้บริการมาแล้ว 13 คลัสเตอร์ ทางบริษัทได้เปิดให้บริการใน
คลัสเตอร์ที่ 14 ซึ่งเป็นคลัสเตอร์สุดท้ายครอบ คลุมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
และชุมพร โดยได้เปิดจุดขายและให้บริการจำนวน 166 แห่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
150 แห่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช และอีก 67 แห่งในจังหวัดชุมพร
ในแง่ของภาพรวมธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม บริษัทมีจุดยืนที่จะสนับสนุนภาครัฐ
ในการเปิดเสรีธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมในประเทศไทย โดยการแปรสัญญาสัมปทานโทร-คมนาคมอย่างจริงจังและเป็นธรรม
ผ่านการจัดตั้งคณะกรรมการสื่อสารโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่มีหน้าที่ควบคุมและดูแลกิจการโทรคมนาคมของไทยในแนวทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์
ต่อประเทศชาติและผู้บริโภคโดยรวม