Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 ธันวาคม 2545
สุริยะรื้อสัญญาเซ็นทรัล CPNโต้ขออนุญาตก่อสร้างทุกครั้ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ เซ็นทรัลกรุ๊ป

   
search resources

เซ็นทรัลพัฒนา, บมจ.
การรถไฟแห่งประเทศไทย
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ




สุริยะ" เวิร์กจัดสั่งรื้อสัญญาเซ็นทรัลเช่าที่ดินรถไฟ ชี้สุดเสียเปรียบ แถมเซ็นทรัลยังต่อเติมดัดแปลงอาคารหาประโยชน์แต่กลับไม่แบ่งรายได้ให้การรถไฟฯ ชี้ผิดสัญญาชัดเจน สั่งรถไฟแจ้งเซ็นทรัลทราบ ด้านเซ็นทรัลพัฒนา เป็นงง !! ขออนุญาต ก่อสร้างทุกครั้งทำไมยังถูกกล่าวหา พร้อมชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดหากยังข้องใจ ส่วน การต่อสัญญากับการรถไฟฯคิดแพงเท่าไรก็สู้ เพราะสร้างโครงการนี้มากับมือจนกลายเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รถไฟต้องตรวจสอบสัญญาเช่าที่ดินรถไฟของ บริษัทเซ็นทรัลอินเตอร์พัฒนา ของตระกูล จิราธิวัฒน์ เพื่อก่อสร้างเป็นอาคารศูนย์การค้าและที่จอดรถ ซึ่งปัจจุบัน คือ ที่ตั้งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า และโรงแรมเซ็นทรัลโซ-ฟิเทล เนื่องจากพบว่ามีการกระทำที่ขัดต่อเงื่อนไขสัญญา ซึ่งฝ่ายกฎหมายตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนพิจารณายกเลิกสัญญาและยึด เงินประกัน และอาคารสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินทั้งหมด

โดยเซ็นทรัลทำสัญญาเช่าที่ดินรถไฟ จำนวน 47.22 ไร่ ระยะ เวลาสัมปทาน 30 ปี ซึ่งสัญญาจะสิ้นสุดในปี 2551 และหลังจากนั้นจะต้องโอนมอบสิ่งปลูกสร้าง อาคาร ครุภัณฑ์ ทุกอย่างให้กับ ร.ฟ.ท. แต่ ทางเซ็นทรัลได้ทำหนังสือขอต่อสัญญาเช่าที่ดิน โดยส่อเจตนาที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะต้องเช่าสินทรัพย์ทั้งหมดด้วย เพราะถือเป็นกรรม-สิทธิ์ของ ร.ฟ.ท. ด้วย โดยจ่ายค่าเช่าให้รถไฟปีละ 3 ล้านบาท และปรับค่าเช่าเพิ่มทุกปีในปี 46 จะต้อง จ่ายค่าเช่าให้รถไฟประมาณ 8,350,000 บาท

ซึ่งในสัญญาระบุชัดเจนว่า หากเซ็นทรัลต้องการดัดแปลงพื้นที่ เพื่อหาประโยชน์เพิ่ม จะต้องขออนุญาตรถไฟก่อน เพื่อเจรจาเรื่องการแบ่งรายได้ให้รถไฟจากพื้นที่ที่ดัดแปลงและมีรายได้ แต่จากการตรวจสอบพบว่า เซ็นทรัล ได้มีการ ดัดแปลงพื้นที่บางส่วนและมีการจัดเก็บผลประโยชน์เพิ่ม 6 รายการ จากที่มีการขออนุมัติ 2 รายการ สำหรับ 6 รายการได้แก่ 1.ดัด แปลงพื้นที่บริเวณ ที่จอดรถบริเวณ ชั้น 1 ของอาคารจอดรถให้เอกชนทำคาร์แคร์ 2. ดัดแปลงพื้นที่ใต้ ดินห้างสรรพสินค้าจากเดิมเป็นที่จอดรถเป็นร้าน ค้าย่อยกว่า 100 ร้านค้า และเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต ท็อปส์ 3.ดัดแปลงลานจอดรถบริเวณชั้น 5 เป็นโรงจอดรถมีหลังคา โดยอ้างว่าลูกค้าจอดรถแล้ว ร้อน แต่ในความเป็นจริง ดัดแปลงเป็นศูนย์ขายสินค้าลดราคา

4. ดัดแปลงพื้นที่บริเวณศูนย์การค้า ชั้น 6 เป็น โรงหนังแบบครบวงจร 5.ดัดแปลงพื้นที่ใต้ดินบริเวณอาคารจอดรถ เป็นโรงเรียนกวดวิชา และ 6. ดัดแปลงพื้นที่ทางเดินบริเวณหน้าห้างออก ไปป้ายรถเมล์ทางถนนพหลโยธิน สวนหย่อม เป็น พื้นที่ค้าขายจำนวน 45 ล็อก และมีการจัดเก็บค่า เช่ากับผู้ค้า ซึ่งจากสัญญาเดิมบริเวณพื้นที่ดังกล่าวจะต้องทำเป็นสวนหย่อม

จากการดัดแปลงดังกล่าวทางเซ็นทรัลไม่ มีการขออนุญาตจากรถไฟ ซึ่งเป็นคู่สัญญาโดย ตรง และในสัญญาก็ระบุว่าหากมีการดัดแปลงอาคารต้องขออนุญาตจากรถไฟ

"การแก้ไขดัดแปลงสิ่งปลูกสร้างอาคารที่ดิน ของรถไฟ โดยเฉพาะเซ็นทรัลนั้นตามสัญญาระบุชัดเจนว่าการดัดแปลงต้องได้รับอนุญาตจาก บอร์ดการรถไฟฯ ถึงจะเปลี่ยนแปลงได้ และหาก จงใจฝ่าฝืน การรถไฟฯสามารถยึดอาคารทั้งหมด มาเป็นของรัฐได้ ตามข้อสัญญาที่ 16 ซึ่งการขอเปลี่ยนแปลงแบบนั้นในส่วนนี้ เซ็นทรัลขอเปลี่ยน แปลงเพียง 2 รายการคือ อาคารจอดรถ และ อาคารสรรพสินค้า ซึ่งในเรื่องนี้ในวันจันทร์ที่ 16 ธ.ค. 2545 ได้สั่งการให้รถไฟทำหนังสือถึง เซ็นทรัล ถึงข้อเท็จจริงทั้งหมดของการเพิ่มพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต และให้เซ็นทรัลชี้แจงกลับมาว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง" นายสุริยะกล่าว

เปิดสัญญาผิดยกเลิกสถานีเดียว

นายสุริยะ กล่าวว่า เงื่อนไขสัญญาเซ็นทรัลข้อ 10 ระบุว่าหากผู้เช่าต้องการดัดแปลงต่อเติมอาคารสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ผิดจาก แปลนก่อสร้างที่ผู้ให้เช่าอนุมัติไว้ ผู้เช่าต้องขออนุมัติจากผู้ให้เช่าก่อนที่จะดำเนินการ และข้อ 16 ระบุว่า หากผู้เช่าผิดเงื่อนไขและผู้ให้เช่าเตือนไปแล้วผู้เช่ายังดำเนินการ ผู้ให้เช่าสามารถเลิกสัญญาได้และให้ถืออาคารและอุปกรณ์ ระบบควบคุมความเย็น ระบบโทรศัพท์ ระบบบำบัดน้ำเสีย ของตกแต่ง ครุภัณฑ์ ที่ใช้ในที่ดินตกเป็น กรรมสิทธิ์ของผู้เช่าได้

อย่างไรก็ตาม อาคารในที่ดินดังกล่าวประเมินแล้วจะมีมูลค่าประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาทอย่างไรก็ตาม การดำเนินการและเจรจาใดจะต้องยึดสัญญาเป็นหลัก และยึดรายได้ที่เป็นธรรมแก่รถไฟ เซ็นทรัลมั่นใจทำถูกสัญญา

จากการสอบถามไปยังบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว แหล่งข่าว ชี้แจงกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า การที่นายสุริยะออกมาพูดเรื่องการรื้อสัญญาเช่าที่ดินของกลุ่มเซ็นทรัลที่ทำกับการรถไฟฯในครั้งนี้ น่าจะเป็นเรื่องทาง การเมือง ที่เชื่อว่าต้องการจะโละบอร์ดการรถไฟฯ มากกว่า

ส่วนการตั้งข้อกล่าวหากับบริษัท เซ็นทรัลอินเตอร์พัฒนา ซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินกับการรถไฟฯ ว่า ต่อเติมอาคารโดยไม่ได้ขออนุญาตจากการรถไฟฯ ผิดถึง 6 รายการนั้น บริษัทยืนยันว่า การก่อสร้าง ทุกครั้ง ทางเซ็นทรัลพัฒนา ได้ขออนุญาตก่อสร้าง จากทางกรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขต อย่าง ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งต้องทำตามสัญญากับทางการรถไฟฯอย่างเคร่งครัด ซึ่งทางบริษัทก็มี เอกสารการขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกรายรวมทั้งการรถไฟฯด้วย และบริษัทพร้อม ที่จะชี้แจงให้ทราบ

"ในการต่อเติมอาคารนั้น บริษัทเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งหากบริษัทไม่ได้รับอนุญาตจาก ผู้เกี่ยวข้องจะไม่สามารถก่อสร้างได้เลย ซึ่งเราไม่ คิดที่จะทำอะไรขัดต่อกฎหมายอยู่แล้ว เพราะมันไม่คุ้มกับเงินที่ลงทุนไปกับโครงการนี้จำนวนมหาศาล จนทำให้ศูนย์การค้าแห่งนี้กลายเป็นศูนย์การค้ายอดนิยม"

ส่วนเรื่องการต่อสัญญาเช่าที่ดินจากการรถไฟฯนั้น บริษัทก็ยังเจรจาอย่างต่อเนื่อง และอยากให้สรุปผลโดยเร็วที่สุด เพราะบริษัทจะต้อง นำมาใช้ในการวางแผนงานในภาพรวมต่อไป ซึ่งทราบดีว่าในการต่อสัญญาใหม่อาจต้องจ่ายผลตอบแทนให้แก่การรถไฟฯ สูงกว่าปัจจุบันที่เป็นสัญญาที่ทำไว้กว่า 20 ปี บริษัทก็ต้องยอม เพราะกลุ่มเซ็นทรัลจะไม่มีวันปล่อยให้สัญญาเช่าที่ดินแปลงนี้หลุดมือไปอย่างแน่นอน "ที่ดินผืนนี้กลุ่มเซ็นทรัลได้เข้ามาพัฒนาตั้งแต่เป็นทุ่งบางกะปิ จนขณะนี้กลายเป็นทำเลทองที่ดี


ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ และเป็นศูนย์ การค้าที่สร้างรายได้ให้แก่เซ็นทรัลพัฒนาในอันดับต้นๆ เพราะฉะนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่ ต่อสัญญา หรือว่าจะยอมให้ถูกยกเลิกสัญญาได้ง่ายๆ"

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ยังได้เสนอตัวเพื่อขอพัฒนาที่ดินบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว เพื่อพัฒนาพื้นที่ทางเชื่อมจากรถไฟฟ้าใต้ดินเข้าสู่ศูนย์การค้า กับทางรฟม.ไปแล้ว แต่ขณะนี้ทางรฟม. ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้เอกชนเข้ามา บริหารพื้นที่ หรือจะบริหารพื้นที่เอง

ซึ่งการเสนอตัวเข้าบริหารพื้นที่ใต้ดิน ในส่วนเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินนั้น เป็นเพราะกลุ่มเซ็นทรัลต้องการพัฒนาทางเดินให้มีความสวยงาม ต้องการคัดเลือกร้านค้าที่จะเข้ามา ขายสินค้าบริเวณทางเชื่อมใต้ดินให้เหมาะสมกับผู้ที่จะสัญจรไปมาในย่านนี้ และไม่ตรงกับสินค้าที่จำหน่ายในห้าง รวมทั้งต้องการดูแลเรื่อง ระบบความปลอดภัยทั้งของลูกค้าและผู้เข้ามาใช้บริการในพื้นที่นี้ด้วย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us