บัตรเครดิตสัญชาติฝรั่งดิ้นทุกกระบวนท่าหารายได้เข้ากระเป๋าทดแทนผลกระทบที่หายไปจากกฎเหล็กแบงก์ชาติ
พบผลักภาระให้ผู้ถือบัตรเต็มๆ ทั้งค่าธรรมเนียมในการชำระผ่านเคาน์เตอร์แบงก์ไทย
ค่า ตรวจสอบรายการ แถมคิดค่าติดตามทวงหนี้ขึ้นมาใหม่ ขณะที่เกณฑ์ในการ คิดดอกเบี้ยหนี้ค้างชำระ"ซิตี้แบงก์"เจ้าเก่า
คิดชนเพดาน 18%
ภายหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศเกณฑ์การดำเนินธุรกิจบัตรเครดิตใหม่
ซึ่งเชื่อ กันว่า รายละเอียดต่างๆอาทิ การกำหนดอัตราดอกเบี้ย การคิดรายได้จากการใช้บริการเงินสด
จะทำ ให้บรรดาผู้ดำเนินธุรกิจนี้สูญเสียรายได้ไปไม่น้อย
ล่าสุดจากการสำรวจของผู้สื่อ ข่าว พบว่า บรรดาเจ้าของบัตรเครดิตที่มาจากต่างประเทศได้ปรับเกณฑ์สำหรับผู้ถือบัตรของตน
อย่างถ้วนหน้า
โดย ธนาคารซิตี้แบงก์ ได้ส่งหนังสือแจ้งสมาชิกบัตรเครดิต ลงวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ระบุว่า ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เกี่ยวกับการควบคุมธุรกิจบัตรเครดิตฉบับล่าสุดธนาคารซิตี้แบงก์ขอแจ้งการเปลี่ยน
แปลงอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรม-เนียมสำหรับบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ทุกประเภทที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่
12 ม.ค. 2546 เป็นต้นไปโดยอัตราดอกเบี้ยสำหรับการเลือกชำระค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเพียงบางส่วนหรือการเลือกชำระคืนขั้นต่ำ
หรือไม่ได้ชำระเลย คิดในอัตราดอกเบี้ย 18 % ต่อปี
ประเภทค่าธรรมเนียมที่จัดเก็บมีดังนี้ ค่าธรรมเนียมในการเบิกเงินสดล่วงหน้าจากเดิมจัดเก็บในอัตรา
300 บาท ต่อการเบิกเงินสดทุกๆ 5,000 บาท ปรับลดใหม่เป็น 3% ค่าธรรมเนียมการขอสำเนาใบแจ้งยอดบัญชี
จากเดิมไม่จัดเก็บ อัตราใหม่ ฟรี
สำหรับขอผ่านทางโทรศัพท์อัตโนมัติและให้ส่งกลับทางโทรสาร และถ้าขอผ่านวิธีอื่นๆจัดเก็บ
50 บาทต่อครั้งค่าปรับเนื่องจากชำระหนี้ล่าช้า จากเดิมจัดเก็บค่าธรรมเนียม
200 บาทสำหรับวงเงินทุกๆ 1,000 บาท ของใหม่ไม่จัดเก็บ
ส่วนค่าใช้จ่ายการติดตามทวงถามยอดค้าง ชำระ ของเดิมไม่จัดเก็บ ของใหม่จัดเก็บ
380 บาท ต่อครั้ง และจะไม่เรียกเก็บ เมื่อชำระคืนภายในวันกำหนดชำระ
สำหรับการชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารอื่นๆ จากเดิมซิตี้แบงก์เป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมแทนลูกค้าของใหม่ให้ลูกค้าเป็นผู้แบบรับภาระดังกล่าว
โดยชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงเทพและธนาคารกสิกรไทย จัดเก็บดังนี้ ในเขตกรุงเทพ
มหานคร เสียค่าธรรมเนียม 30 บาทต่อรายการ ในเขตต่างจังหวัดจัดเก็บ 50 บาทต่อรายการ
เคาน์เตอร์ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารทหารไทย ในกรุงเทพมหานคร จัดเก็บ 25
บาทต่อรายการ ในต่างจังหวัดจัดเก็บ 45 บาทต่อรายการ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ในกรุงเทพ มหานครจัดเก็บ 15 บาทต่อรายการ ต่างจังหวัด 30 บาทต่อรายการ ธนาคารกรุงไทยในกรุงเทพ
มหานครและต่างจังหวัดจัดเก็บ 25 บาทต่อรายการ
อย่างไรก็ตาม ถ้าชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงเทพรับเฉพาะเงินสดไม่เกิน
100,000 บาทต่อรายการ และธนาคารกรุงไทยไม่เกิน 30,000 บาทต่อรายการ
ส่วนกรณีที่ธนาคารซิตี้แบงก์ไม่จัดเก็บค่าธรรมเนียมในการชำระเงินมีดังนี้ชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
ของ 7-Eleven โรบินสัน บิ๊กซี ซีเอ็นบุ๊กเซอร์เตอร์ชำระผ่านที่ทำการไปรษณียในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
เป็นต้น
ขณะที่บัตรเครดิตไดเนอร์สคลับ ประกาศการคิดค่าธรรมเนียมใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่
12 ม.ค. 2546 มีรายละเอียดอาทิ ค่าธรรมเนียม ในการชำระหนี้บัตรเครดิตผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร
พาณิชย์ของไทยดังนี้ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย ผ่านสาขาในเขตกรุงเทพ-มหานครคิด
30 บาทต่อรายการ และในต่าง จังหวัดคิด 50 บาทต่อรายการ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
และธนาคารไทยพาณิชย์ ในเขตกรุงเทพมหา นครคิด 25 บาทต่อรายการและใน เขตต่างจังหวัด
40 บาทต่อรายการ ธนาคารทหารไทย ในเขตกรุงเทพฯคิด 25 บาทต่อรายการ ต่างจังหวัดคิด
45 บาทต่อรายการ และธนาคารกรุงไทย ในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด คิดเท่ากันในอัตรา
25 บาทต่อรายการ ส่วนค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามยอดค้าชำระคิด 380 บาทต่อครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ธนาคารฮ่องกง เชี่ยงไฮ้ ประกาศใช้ค่าธรรมเนียมใหม่เริ่มมีผลบังคับใช้
11 ม.ค. 2546 อาทิ ค่าธรรมเนียมในการชำระเงิน ผ่านเคาน์เตอร์ของธนาคาร คิด
50 บาทต่อครั้ง จ่ายผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ในเขต กรุงเทพมหานคร 15 บาทต่อครั้ง
และในต่างจังหวัด 20 บาทต่อครั้ง ค่าธรรมเนียมในการขอตรวจสอบรายการ 50 บาทต่อครั้ง
ส่วนค่าธรรมเนียมในการติดตามหนี้350 บาทต่อครั้ง
ส่วนบริษัทจีอีแคปปิตอลออกกฎเกณฑ์ใหม่ เกี่ยวกับสมาชิกผู้ถือบัตรเครดิตเซ็นทรัลคาร์ดและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่
11 ม.ค.2546 เป็นต้นไปดังนี้ ดอกเบี้ย 12% ต่อปีค่าธรรมเนียม ในการใช้วงเงิน
0.5% ต่อเดือน ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามชำระหนี้งวดละ 220-330 บาท วันที่เริ่มคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงินจะเริ่มคิดดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการใช้วงเงินเมื่อมียอดค้างชำระหนี้หลังวันครบกำหนด
ชำระโดยคำนวณนับจากวันบันทึกรายการ ขณะที่ผู้ออกบัตรเครดิตแห่งอื่นๆคิดดอกเบี้ยในวันที่ชำระเงินให้กับร้านค้า
ขณะที่ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด นครธน หรือ SCNB ได้ปรับเงื่อนไขทางด้านค่า
ธรรมเนียมในส่วนของบัตรเครดิต กล่าวคือ ได้ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยในส่วนของการเบิกเงิน
สด จากเดิม 4% ของจำนวนเงิน หรือขั้นต่ำ 400 บาท เป็น 3% ของยอดเบิกจริงต่อครั้ง
ขณะเดียว กันธนาคารได้คิดค่าธรรมเนียมในการติดตามทวงถามยอดค้างชำระจำนวน
380 บาทต่อครั้ง ทั้งนี้มีผลตั้งแต่ 12 มกราคม 2546 เป็นต้นไป