ไอซีทีร่วมกับซิป้าเดินหน้าผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีการผลิตผลงานแอนิเมชันและมัลติมีเดียในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการจัดงาน TAM 2006 โดยใช้ตัวการ์ตูนสุนัข “ซูเปอร์แต้ม” ฝีมือ ชัย ราชวัตร เป็นสัญลักษณ์ประจำงาน

นางเครือวัลย์ สมณะ ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า กล่าวว่า ซิป้าได้ร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที จัดงานไทยแลนด์ แอนิเมชันและมัลติมีเดีย 2006 หรือ TAM 2006 ระหว่างวันที่ 12-15 ม.ค. 2549 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

งานดังกล่าวเป็นการจัดครั้งที่ 3 เพื่อสานต่อนโยบายที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีการผลิตผลงานแอนิเมชันและมัลติมีเดียในภูมิภาคอาเซีย หลัง TAM 2005 เมื่อต้นปีที่ผ่านทำให้วงการแอนิเมชันและมัลติมีเดียไทย มีพัฒนาการมากขึ้น โดยมีนักแอนิเมชันและมัลติมีเดียรุ่นใหม่สามารถสร้างผลงานเทียบชั้นระดับสากลได้ นอกจากนี้ ยังสามารถขายผลงานและเป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศด้วย

สำหรับการจัดงาน TAM ครั้งที่ 3 ได้มอบหมายให้บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชัน ออกาไนเซอร์ เป็นผู้บริหารจัดการงานประชุมระดับนานาชาติเป็นผู้บริหารจัดงานให้บนพื้นที่ 1.5 หมื่นตารางเมตร โดยมีประกอบการร่วมแสดงสินค้ากว่า 150 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติประมาณ 2 แสนคน

การจัดงานดังกล่าวดำเนินการภายใต้แนวคิด “Beyond Imagination” เพื่อมุ่งให้นักผลิตแอนิเมชันและมัลติมีเดียไทย สร้างสรรค์ผลงานจากจิตนาการอย่างเต็มที่ ส่วนตราสัญลักษณ์ที่ใช้กับงานครั้งนี้ได้รับการออกแบบโดยนักเขียนการ์ตูนชื่อดัง “ชัย ราชวัตร” โดยใช้สุนัข “ซูเปอร์แต้ม” เป็นสื่อให้เห็นถึงความแอคทีฟที่จะสร้างสรรค์ผลงานด้านแอนิเมชันและมัลติมีเดียให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับไฮไลท์ในงานนี้คือส่วนของการแสดง Show Case ภายใต้แนวคิด “Towards Future Technology” ที่มีการจัดรูปแบบนำเสนอแอนิเมชันและมัลติมีเดียแบบ 4D เป็นครั้งแรก

ด้านการจัดสัมมนาเชิงวิชาการ จะมีผู้เชี่ยวชาญทั้งนักผลิตเกม นักเขียน นักวาด นักออกแบบ และนักสร้างสรรค์การ์ตูนแอนิเมชันและมัลติมีเดีย จากไทย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาร่วมด้วย นอกจากนี้ ยังจะมีการจัดห้องเรียนเวิร์ก ชอป เอ-แซท โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาบรรยาย พร้อมกันนี้ ยังมีกิจกรรมในส่วนอื่นๆ อกมาก เช่น กิจกรรมสำหรับเด็กส่วนผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ ได้แบ่งเป็น 2 ระดับคือ นักธุรกิจและประชาชนทั่วไป มีการเจรจาในเรื่องของธุรกิจในวันที่ 12 ม.ค. ส่วนวันที่ 13-15 ม.ค. จะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมงาน