“เพอร์เฟค” ชี้ผลสำรวจพบกำลังซื้อผู้บริโภคลด ความต้องการคอนโดฯ ระดับกลาง- ล่างขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลหันจับตลาดคอนโดฯ รับกำลังซื้อ ดันสัดส่วนเพิ่ม 20% ของรายได้รวม ล่าสุดเปิดโครงการขนาดใหญ่บนเนื้อที่กว่า 85ไร่ ภายใต้ชื่อ “เมทโทร พาร์ค สาทร” ราคา 1-2 ล้านบาท ปี 49 ตั้งเป้ารายได้ 8,000 ล้านบาท

นายชายนิด โง้วศิริมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 49 ว่า จากการศึกษาความต้องการที่อยู่อาศัยในตลาดปี48โดย เพอร์เฟคฯ ได้มอบหมายให้สวนดุสิตโพล์ ทำวิจัยตลาดในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ปัจจัยลบที่เกิดขึ้นจากน้ำมัน ,ดอกเบี้ย , อัตราเงินเฟ้อ และราคาวัสดุก่อสร้างที่ราคาสูงขึ้น ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาดลดลง ทำให้พฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนโดยเริ่มคำนึงถึงความเหมาะสมในการอยู่อาศัย กำลังซื้อและกำลังผ่อนมากขึ้น ทำให้แนวโน้มในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมีราคาต่ำลง

นอกจากนี้ การศึกษาพบว่า แนวโน้มในตลาดปี49 ความต้องการที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมกลาง -ล่างระดับ 1-2 ล้านบาทมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น ส่วนคอนโดมิเนียมกลางระดับราคา 3-4 ล้านบาท ใกล้ระบบรางความต้องการขยายตัวมาก ส่วนคอนโดมเนียมไฮเอนท์ใจกลางเมืองในทำเลเขต ซีบีดี ยังมีความต้องการไม่ขยายตัว ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวราคาแพง ความต้องการไม่ขยายตัวเช่นเดียวกัน สำหรับบ้านระดับราคา3-5 ล้านบาทยังมีความต้องการต่อเนื่อง ส่วนบ้านเดี่ยวระดับ2 ล้านบาท ความต้องการขยายตัวค่อนข้างมาก สำหรับทาวน์เฮาส์และบ้านแฝดระดับราคา1-2 ล้านบาท ไม่ขยายตัวมากนัก โดยคาดว่าตลาดจะยังรักษาระดับสินค้าไว้ในระดับเดียวกับปี48

การผลสำรวจดังกล่าว ทำให้บริษัทได้เปลี่ยนแผนการพัฒนาโครงการในย่านถนนสาทร หรือ กัลปพฤกษ์ ภายใต้ชื่อ เมทโทร พาร์ค สาทร บนเนื้อที่ 85 ไร่ ซึ่งเดิมจะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป มาพัฒนาเป็นคอนโดฯ ระดับราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 6 เฟสๆ ละประมาณ 1,000 ยูนิต มูลค่า 7,000 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการพัฒนาประมาณ 4 ปี แม้ว่าเมื่อเสร็จครบโครงการแล้วจะมีจำนวนยูนิตมาก แต่พร็อพเพอร์ตี้ เฟอร์เฟค ได้รับประกันว่าจะไม่หนาแน่นอย่างแน่นอน เพราะได้ใช้พื้นที่ส่วนกลางมากถึง 70% ของพื้นที่ทั้งหมดเพื่อให้ตรงคอนเซ็ปต์ “คอนโดฯ เมืองกลางสวน”

สำหรับการพัฒนาคอนโดฯ ถือเป็นโครงการแรกของพร็อพเพอร์ตี้ เฟอร์เฟค และถือเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในขณะนี้ โดยจะเริ่มเปิดในเฟสแรกก่อน 10 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 960 ยูนิต มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 15 ไร่ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าเฟสแรกจะสามารถขายหมดภายใน 1 เดือน โดยเริ่มก่อสร้างในเดือนธันวาคมนี้ คาดว่าเฟสแรกจะสร้างเสร็จภายใน 1 ปี และใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนในเฟส 2 ได้เตรียมพัฒนาในรูปแบบสร้างเสร็จก่อนขาย นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดโครงการคอนโดฯ ในแนวรถไฟฟ้า รัศมีไม่เกิน 10 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างหาที่ดิน

นอกจากการเพิ่มสินค้าประเภทคอนโดฯ แล้วบริษัทได้ปรับแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยในปี 2549 โดยแบรนด์มาสเตอร์พีค ระดับราคา 7-10 ล้านบาท พัฒนาในสัดส่วน 20% ของรายได้ , แบรนด์ เฟอร์เฟค เพลส ระดับราคา 4-6 ล้านบาท พัฒนา 50% ,แบรนด์เฟอร์เฟค พาร์ค ระดับราคา 3 ล้านบาท พัฒนา 20% และคอนโดมิเนียมเมโทร พาร์ค สัดส่วน 20%

อย่างไรก็ตามแม้ว่า เพอร์เฟคฯ จะปรับการพัฒนาบ้านในระดับราคาที่ต่ำลง แต่ในส่วนของกำไรจากการขายบริษัทจะพยายามรักษาระดับกำไรเบื้องต้นไว้ที่ 35% จากเดิมในปี 48 ระดับกำไรเบื้องต้นอยู่ที่ 36% โดยกำไรสุทธิจากการขายที่อยู่อาศัยในระบบทั้งหมดเฉลี่ยอยู่ที่ 15% ส่วนเพอร์เฟคมีกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 18% ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยในระบบ

ด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทกล่าวว่า เพอร์เฟคตั้งเป้าว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 15% หรือมียอดขายประมาณ 8,000 ล้านบาท จากปี48 ที่ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายที่ 7,000 ล้านบาท โดยรายได้ในปี48 จะมาจากยอดขายบ้านเดี่ยวใน 15โครงการ 6,000 ล้าน และยอดขายคอนโดมิเนียม เมทโทร พาร์ค ประมาณ 1,000 ล้านบาทซึ่งจะเปิดขายในช่วงปลายปีนี้

สำหรับยอดขายในปี 2549 ที่ตั้งไว้ 8,000 ล้านบาท จะมาจากการขายโครงการเดิมและโครงการใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวไม่ต่ำกว่า 5 โครงการ โดยจะมีราคาขายเฉลี่ยประมาณ 4 ล้านบาท และคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดสต็อกบ้านเดี่ยวรอโอนจากปี 48 ประมาณ 1,400 ล้านบาทและจากคอนโดมิเนียม 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากยอดโอนในโครงการใหม่และเก่าที่ขายในปี 2549