Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 พฤศจิกายน 2548
TTAทุ่ม 300 ล.ซื้อหุ้นเมอเมด มารีไทม์ ขยายธุรกิจนอกชายฝั่งเตรียมลงทุนเพิ่ม             
 


   
www resources

โฮมเพจ โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์-TTA

   
search resources

โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์, บมจ. - TTA
Logistics & Supply Chain




TTA ทุ่ม 300 ล้านบาท ซื้อหุ้น 'เมอร์เมด มาริไทม์' 10.11% เพื่อขยายธุรกิจนอกชายฝั่ง และยังจะเข้าถือหุ้นในธุรกิจท่าเรือในเอเชีย ขณะนี้อยู่ในขั้นสุดท้ายเจรจาต่อรอง หวังเสริมศักยภาพให้กับเรือขนส่งสินค้าประจำเส้นทางที่วิ่งไปยังท่าเรือ

ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA) เปิดเผยการประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ว่าที่ประชุมได้มีมติอนุมัติให้บริษัท โทรีเซน ชาเตอร์ริ่ง (เอชเค) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ซื้อหุ้นในบริษัทร่วม คือ บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด จำนวน 3,874,970 หุ้น ในราคารวม 300 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.11 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของบริษัท เมอร์เมดมาริไทม์ จำกัด

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ตลาดของเรือขนส่งสินค้าแบบเทกองในปัจจุบัน ช่วงเวลานี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือให้มากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ กำลังพิจารณาลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะไม่มุ่งเน้นในธุรกิจเดินเรือเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้บริษัทฯ จะเน้นไปที่บริการธุรกิจนอกชายฝั่งที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์นาวี และธุรกิจที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์เป็นอันดับแรก

การซื้อหุ้นของบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด ในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายไปยังธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหลังจากการเข้าซื้อหุ้นแล้ว บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด จะกลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ในขณะนี้บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด กำลังพิจารณาที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจบริการนอกชายฝั่งที่เกี่ยวกับพาณิชย์นาวีเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะเพิ่มรายได้และผลกำไรของบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด และการขยายการลงทุนดังกล่าว อาจทำให้บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด มีความต้องการเม็ดเงินเพื่อการลงทุนในอนาคตอันใกล้

โดย TTA อยู่ในขั้นตอนช่วงสุดท้ายในการเจรจาต่อรองเพื่อที่จะเข้าไปมีสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่ในธุรกิจท่าเรือแห่งหนึ่งในเอเชีย ซึ่งจะเป็นการเสริมศักยภาพให้กับเรือขนส่งสินค้าประจำเส้นทางที่วิ่งไปยังท่าเรือดังกล่าว

ในการพิจารณาการลงทุนและการเข้าซื้อหุ้นในธุรกิจต่างๆ นั้น บริษัทฯ จะยึดนโยบายการลงทุนในธุรกิจ โดยคำนึงถึงผลดี ผลเสีย และความเสี่ยงในการ ลงทุนอย่างรอบคอบ ซึ่งบริษัทฯ จะเลือกลงทุนเฉพาะในธุรกิจที่บริษัทฯ มีความชำนาญ และสามารถเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่มบริษัทฯ ได้ซึ่งถ้าหากการลงทุนต่างๆ เป็นไปตามแผนการณ์ที่คาดไว้ บริษัท โทรีเซน ไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) จะเป็นบริษัทที่ให้บริการทางพาณิชย์นาวีที่ครอบคลุมในงานบริการด้านต่างๆ อย่างหลากหลาย โดยมีความชำนาญในเรือขนส่งสินค้าแห้งแบบเทกอง สำหรับเรือขนาดเล็ก (Handysize) และขนาดกลาง(Handymax) การให้บริการธุรกิจนอกชายฝั่งที่เกี่ยวกับพาณิชย์นาวี และธุรกิจบริการโลจิสติกส์

พร้อมกันนี้ TTA ยังแจ้งงบการเงินไตรมาส 4 ปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,100.50 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,212.13 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นลดลงจาก 1.94 บาทเหลือ 1.71 บาท ขณะที่งวด 9 เดือนกำไรเพิ่มจาก 4,326.08 ล้านบาทเป็น 5,988.54 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มจาก 6.92 บาทเป็น 9.30 บาทต่อหุ้น

โดยกำไรสุทธิไตรมาส 4 ลดลง 9.21 % เนื่องมาจากอัตราค่าระวางเรือโดยเฉลี่ยของกองเรือโทรีเซนปรับตัวลดลง แต่ผลประกอบกการยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะจากการที่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเกิน 1,000 ล้านบาท ต่อเนื่องกันถึง 7 ไตรมาส บริษัทฯ จึงได้วางแผนที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือให้มากขึ้น โดยจะลงทุนในธุรกิจที่มีความชำนาญอยู่แล้ว เช่น การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด ซึ่งให้บริการธุรกิจนอกชายฝั่งเพิ่มขึ้นอีก 10.11%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us