Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 พฤศจิกายน 2548
บลจ.ทหารไทยเร่งปั้นแบรนด์รับกระแสธุรกิจกองทุนแข่งดุ             
 


   
www resources

โฮมเพจ หลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย

   
search resources

ทหารไทย, บลจ.
โชติกา สวนานนท์
Funds




บลจ.ทหารไทยเปิดแผนปีหน้าเกาะกระแสอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น เข็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นทั้ง 6 เดือน 1 ปี ดูดเงินฝากต่อเดือนละกอง พร้อมรองรับเงินลงทุนจากกองทุนเดิมที่จะทยอยหมดอายุ เร่งเดินหน้าสร้างแบรนด์ด้วยการปรับโลโก เพื่อความสอดคล้องกับแบงก์แม่มากขึ้น คาดปีหน้าได้เห็นแน่นอน

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้บริษัทจะเปิดขายกองทุนรวมอีกจำนวน 2 กองทุน นั่นคือกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์กองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) ที่ลงทุนในทองคำ มูลค่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคมนี้

ส่วนอีกหนึ่งกองทุนที่เหลือนั้นจะเป็นกองทุนตราสารหนี้ชื่อ กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 12/49 มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือตั๋วเงินคลัง อายุโครงการ 1 ปี โดยคาดว่าจะสามารถเปิดขายหน่วยลงทุนได้ประมาณกลางเดือนธันวาคมต่อจากกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์

ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา บลจ.ทหารไทยเปิดขายหน่วยลงทุนสำหรับกองทุนใหม่ไปแล้วทั้งหมด 5 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนตราสารหนี้ 4 กอง และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 1 กองนั่นคือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เซ็นทรัล รีเทล โกรท ที่มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งหากรวม 2 กองทุนที่จะเปิดขายในช่วงที่เหลือของปีจะทำให้มีกองทุนที่เปิดขายทั้งปีนี้จำนวน 7 กองทุน

สำหรับกองทุนที่เปิดขายหน่วยไปแล้วก่อนหน้านี้ทั้ง 5 กองทุน สามารถระดมทุนได้ประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ว่าทั้งปีนี้ จะระดมทุนประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (เอ็นเอวี) ภายใต้การบริหารทั้งหมดประมาณ 58,000 ล้านบาทจากพอร์ตเอ็นเอวีรวม ณ สิ้นปี 2547 ซึ่งอยู่ที่ 48,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากกองทุนที่บริษัทเตรียมจะเปิดขายหน่วยลงทุนอีก 2 กองทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้นั้น คาดว่าจะสามารถระดมทุนได้อีกประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เอ็นเอวีภายในสิ้นปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 61,000 ล้านบาท

นางโชติกา กล่าวว่า สำหรับแผนในปีนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจะเปิดขายหน่วยลงทุนสำหรับกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเดือนละกอง โดยจะมีทั้งอายุ 6 เดือนและอายุ 1 ปี ซึ่งจะมีมูลค่าประมาณกองทุนละ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องจากเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไป เพื่อให้มีความสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังเป็นการรองรับเงินลงทุนสำหรับผู้ถือหน่วยกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นของบริษัทซึ่งจะทยอยหมดอายุในปีหน้า ที่ต้องการลงทุนในตราสารประเภทดังกล่าวต่อไป รวมทั้งรองความต้องการของลงทุนโดยกองทุนแรกที่จะหมดอายุคือ กองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ 4/49 ซึ่งจะหมดอายุในเดือนเมษายนปีหน้า

“ในปีหน้าเป็นช่วงที่กองทุนตราสารหนี้จะเริ่มครบกำหนดอายุโครงการ ซึ่งจะมีส่วนให้พอร์ตเอ็นเอวีภายใต้การบริการของเราลดลง ดังนั้น เราก็ต้องหากองทุนใหม่ๆ ออกมาเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนต่อไป”

นางโชติกากล่าว สำหรับกองทุนระยะยาวนั้น เชื่อว่าในระยะนี้ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น กองทุนระยะสั้นน่าจะเหมาะสมกว่า ส่วนกองทุนที่ลงทุนยาวขึ้น 2 ปีหรือ 3 ปี คงยังไม่จำเป็นต้องรีบทำในช่วงนี้ แต่หากนักลงทุนต้องการเชื่อว่าในปีหน้าก็สามารถทำได้อยู่แล้ว

นางโชติกากล่าวถึงภาพลักษณ์ของบริษัทภายหลังการเปลี่ยนแปลงของธนาคารทหารไทยซึ่งเป็นบริษัทแม่ว่า ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการออกแบบโลโกของบลจ.ทหารไทยใหม่ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของธนาคารทหารไทยอันเนื่องมาจากการควบรวมกิจการระหว่างไอเอฟซีทีและธนาคารไทยทนุ โดยคาดว่าน่าจะสรุปและเห็นความชัดเจนได้ภายในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม จากการเปลี่ยนแปลงของธนาคารทหารไทย ในแง่ของนโยบายหรือจุดยืนของธนาคารเองค่อนข้างมีความสอดคล้องกันกับบลจ.ทหารไทยในปัจจุบันอยู่แล้ว อีกทั้งก่อนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็มีการทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของบลจ.ทหารไทย ก็เพื่อให้มีความสอดคล้องกันมากขึ้น

สำหรับผลดีที่ตามมาจากการควบรวมกิจการในครั้งนี้ ทำให้บริษัทมีช่องทางในการจำหน่ายหน่วยลงทุนมากขึ้นจากช่องทางเดิมที่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้ ฐานลูกค้าของธนาคารที่เพิ่มขึ้นมาก็จะมีส่วนเพิ่มลูกค้าของบลจ.มากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันบลจ.ทหารไทย มีสัดส่วนการขายหน่วยลงทุนผ่านสาขาของธนาคารทหารไทยประมาณ 63% และขายผ่านบลจ.เองประมาณ 17% ส่วนที่เหลือเป็นการขายผ่านตัวแทนอื่นๆ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us