แบงก์กรุงไทยร่อนหนังสือถึงรัฐสภา-โกลเด้น เทคโนโลยีฯบริษัทลูกของกฤษดานคร ให้ไถ่ถอนที่ดินเฉพาะการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่เป็นรายแปลง หากทางรัฐสภาตัดสินใจเลือกที่ดินของกฤษดานคร ขณะที่"วิชัย กฤษดาธานนท์" แย้มหาแหล่งเงินรับการไถ่ถอนคาดประมาณ 1,400 ล้านบาท พร้อมเร่งหารือกรมโยธาฯลงรายละเอียดการก่อสร้างโครงการอื่น โดยไม่ให้บดบังทัศนีย์ภาพรัฐสภาแห่งใหม่
จากความคืบหน้าการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งมีความชัดเจนอย่างมาก โดยตามผลการประชุมของอนุกรรมการพิจารณาศึกษารายละเอียดพื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ได้วิเคราะห์ข้อดี และข้อเสียของพื้นที่ 3 ทำเลในการตัดสินใจเลือกสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ และตามข้อมูลของที่ประชุมให้น้ำหนักกับที่ดินของบริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเตรียล พาร์ค จำกัด ซึ่งเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และเป็นบริษัทลูกของกลุ่มกฤษดานคร กรุ๊ป เจ้าของบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) KMC ได้เสนอมอบที่ดินจำนวน 700 ไร่ ซึ่งรวมที่ดินสำหรับการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค เพื่อก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า ผู้บริหารของ บริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด ได้มาหารือกับธนาคารเรื่องการขอไถ่ถอนที่ดินแถวสุวรรณภูมิ เพื่อนำไปยกให้รัฐบาลสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งในหลักการธนาคารได้เห็นชอบให้บริษัทนำเงินมาไถ่ถอนที่ดินเฉพาะที่ต้องนำไปยกให้สร้างรัฐสภาใหม่
ปัจจุบันบริษัทโกลเด้น เทคโนโลยีฯ ยังถือว่าเป็นหนี้จัดชั้นของธนาคาร แต่การเห็นชอบในหลักการให้ไถ่ถอนที่ดินดังกล่าวได้บ้างส่วน จะทำให้ศักยภาพของบริษัทดีขึ้น เพราะหากมีการสร้างรัฐสภาจะทำให้หลักประกันที่เหลืออยู่กับธนาคารมีมูลค่าดีขึ้นตามไปด้วย ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่ติดจำนองกับธนาคารจำนวน 4,000 ไร่
"ธนาคารเห็นชอบในหลักการให้ โกลเด้น เทคโนโลยีฯ มาไถ่ถอนที่ดินที่จะนำไปยกให้กับรัฐบาลในการสร้างรัฐสภาได้ซึ่งการไถ่ถอนดังกล่าวจะต้องนำที่ดินไปสร้างรัฐสภาเท่านั้นจะไปยกให้คนอื่นไม่ได้" นายอภิศักดิ์ กล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากกลุ่มกฤษดานคร กรุ๊ป เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะเจ้าหนี้ของบริษัทฯได้ตอบยืนยันไปยังรัฐสภาที่จะให้มีการไถ่ถอนในส่วนของที่ดินที่ใช้ในการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ จำนวน 700 ไร่ ซึ่งจากนี้ไปคงต้องรอผลการตัดสินใจจากทางรัฐสภาว่าจะสรุปเมื่อใด ซึ่งเมื่อได้รับความชัดเจนที่แน่ชัดแล้ว
ทางบริษัทฯจะดำเนินการหาแหล่งเงินกู้มาชำระธนาคารกรุงไทย เพื่อปลดจำนองออกจากธนาคาร โดยคาดว่าจะใช้เงินในส่วนนี้ประมาณ 1,400 ล้านบาท
" ที่ถามว่าแหล่งเงินกู้ในครั้งนี้จะมาจากไหนนั้น คงไม่สามารถบอกได้ เพราะว่าทางคุณวิชัย กฤษดาธานนท์ ประธานกลุ่มกฤดานคร กำลังดำเนินการ แต่มั่นในว่าจะไม่เป็นการสร้างภาระให้แก่บริษัทอย่างแน่นอน "แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการสร้างระบบสาธารณูปโภคนั้น จะเป็นหน้าที่ของทางรัฐสภาที่จะดำเนินการ ซึ่งจะมีการสร้างถนนภายในเชื่อมระหว่างด้านมอเตอร์เวย์กับเส้นบางตราดยาวกว่า 6 กิโลเมตร ถนนกว้าง 70 เมตรตลอดแนว ซึ่งเม็ดเงินสำหรับก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ตรงนี้ไม่สามารถระบุแทนทางรัฐสภาได้ เพียงแต่ถ้าเป็นการลงทุนระบบสาธารณูปโภค ทั้งถนน ไฟฟ้า น้ำประปา จะใช้เงินประมาณ 700 ล้านบาท แต่ตามตัวเลขทั่วไปของกรมโยธาธิการและผังเมือง หากสร้างสาธารณูปโภคครบทั้งหมดจะใช้เงินประมาณ 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดในการเจรจากับหน่วยงานของรัฐอีกมาก ไม่ว่าทั้งส่วนของกรมโยธาธิการและผังเมือง เรื่องสิ่งแวดล้อม ฯลฯ โดยเน้นหนักที่จะไม่บดบังทัศนีย์ภาพของรัฐสภาในอนาคต
ทั้งนี้ ที่ดินดังกล่าว เป็นสมบัติของตระกูลกฤษดาธานนท์ที่ได้สะสมที่ดินมามากกว่า 10 ปี บริเวณกิโลเมตรที่ 32.5 ถนนบางนา-ตราด ซึ่งที่ดินที่เสนอต่อรัฐสภา 700 ไร่ มีมูลค่าประมาณ 4,200 ล้านบาท ตามแผนเดิม บริษัทจะพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ภายใต้คอนเซ็ปต์ "เมืองคู่แฝด" หรือโครงการ "สุวรรณภูมิ เซ็นเตอร์" อาทิ เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ,ไฟแนนเชียล เซ็นเตอร์, ออฟฟิศบิลดิ้ง รองรับธุรกิจในระดับชาติ พื้นที่ปลอดภาษีสำหรับอุตสาหกรรมสะอาด ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าขนาดใหญ่ โรงแรม ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ โรงพยาบาล พื้นที่พักอาศัยและพาณิชยกรรมรองรับคน 2.5 ล้านคนใน 10 ปีข้างหน้า และศูนย์ขนส่งและกระจายสินค้า
ก่อนหน้านี้ นายโภคิน พลกุล ประธานรัฐสภา ระบุว่า โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ต้องการจะให้ได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 5 ธันวาคมนี้ เพื่อจะได้วางศิลาฤกษ์ได้ในปี 2549 ซึ่งเป็นปีมหามงคลฉลองการครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งต้องยอมรับว่าคงไม่สามารถหาสถานที่ให้ถูกใจทุกคนได้ แต่ต้องหาสถานที่ที่ดีที่สุด
|