|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แอ็ดคินซันร้อนแรงสวนภาวะหุ้นโดยรวมทรุด "อาภา คิ้วคชา" ชี้เกิดจากการเก็งกำไรข่าวดึงพันธมิตรไต้หวัน โบรกเกอร์มองเกิดจากรายใหญ่เข้ามาไล่ราคาเหตุวอร์แรนต์ชุดที่ 4 จะหมดอายุ ธ.ค.นี้ ตลท.เชือดสั่งห้ามมาร์จิ้นและเน็ตเซทเทิ้ลเม้นท์ 30 วันลูก "สุวิมล ทองกร" เทขายทำกำไรหุ้นปิคนิคฯ 6.95% หลังจากที่ถือหุ้นเพียง 2 เดือนครึ่ง
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) แจ้งว่า นางสาวสุวิมล ทองกรได้ขายหุ้นบมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) เมื่อวันที่ 14 พ.ย 2548 จำนวน 205.09 ล้านหุ้นหรือ 6.95% ของจำนวนหุ้นจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ซึ่งเป็นการขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในระดับราคาหุ้นละ 2.78 บาท
ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายจะทำให้นางสาวสุวิมลยังถือหุ้นบริษัทปิคนิคฯ ในจำนวน 46.22 ล้านหุ้น หรือ 1.56% ของจำนวนหุ้นที่สามารถจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
นางสาวกุลชุลี สัจจะเวทะ ในฐานะผู้ใกล้ชิดนางสาวสุวิมล เปิดเผยว่า สาเหตุที่เสนอขายหุ้นเนื่องจากเป็นการขายหุ้นทำกำไรตามปกติ เพราะนางสาวสุวิมลเป็นนักลงทุนทั่วไปเมื่อพิจารณาเห็นว่าราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นก็ขายทำกำไรออกมาก่อน และก็เป็นการลงทุนส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวพันกับตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจอย่างที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้
การขายหุ้นของนางสาวสุวิมลนั้นเป็นการทยอยขายมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งระดับราคาที่ขายออกมานั้นมีหลายระดับ แต่ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับประมาณหุ้นละ 1.65 บาท
ส่วนหุ้นที่นางสาวสุวิมลยังถืออยู่จำนวน 46.22 ล้านหุ้นนั้นจะขายออกไปหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะขึ้นอยู่กับสภาพตลาดหุ้นโดยรวมว่าเป็นอย่างไรบ้าง
อนึ่ง จากข้อมูลของสำนักงาน ก.ล.ต.เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้นางสาวสุวิมล ได้เข้ามาซื้อหุ้นบริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2548 จำนวน 90 ล้านหุ้น หรือ 6.09% โดยได้รับโอนหุ้นจากนางสุภาพร และนายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสินในราคาหุ้นที่แจ้ง 2.30 บาท
ขณะเดียวกันวานนี้(16 พ.ย.)หุ้นบริษัทหลักทรัพย์ แอ็ดคินซัน จำกัด(มหาชน)(ASL) ราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นและมีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 โดยราคาปิดที่ 13 บาทเพิ่มขึ้น 1 บาทหรือ 8.33% มีมูลค่าการซื้อขาย 1,415.38 ล้านบาท ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นโดยรวม ดัชนีปิดที่ 675.31 จุดลดลง 6.27 จุดหรือ 0.92% มูลค่าการซื้อขาย 12,430.76 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามซื้อขายมาร์จิ้นและเน็ตเซทเทิ้ลเม้นท์ในหุ้นบล.แอ็ดคินซัน เป็นเวลา 30 วันนับตั้งแต่17 พ.ย.-30 ธ.ค.48และขยายเวลาห้ามมาร์จิ้นและเน็ตเซทเทิ้ลเม้นท์ในหุ้นอีสเทิร์ไวร์(EWC)และEWC-W1 อีก30 วันเช่นกัน
นางอาภา คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บล. แอ็ดคินซัน จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าสาเหตุที่ราคาหุ้นบล.แอ็ดคินซัน ปรับตัวสูงขึ้นสวนทางกับภาวะตลาดหุ้นโดยรวม คาดว่าเกิดจากนักลงทุนได้เข้ามาเก็งกำไรจากการที่บริษัทได้เคยแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกองทุนจากประเทศไต้หวัน ซึ่งจะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งในส่วนของการส่งคำสั่งซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศมายังบล.แอ็ดคินซัน โดยการหารือในครั้งนี้จะครอบคลุมไปถึงความร่วมมือทางด้านตลาดอนุพันธ์อีกด้วย
ทั้งนี้นับตั้งแต่บริษัทได้แจ้งข้อมูลดังกล่าวไปยังตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ราคาหุ้นและมูลค่าการซื้อขายของหุ้น บล.แอ็ดคินซันเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าน่าจะมาจากปัจจัยดัง
สำหรับความคืบหน้าในการเสนอขายใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ของบล.เอเพกซ์นั้น จะมีการประชุมคณะกรรมการภายในปีนี้ ว่าจะเสนอขายหรือไม่ และเสนอขายในราคาใด รวมถึงอาจจะยังไม่เร่งรีบที่จะเสนอขายก็ได้ เพราะอาจจะรอให้ได้ข้อสรุปกับพันธมิตรจากต่างประเทศก่อนก็ได้
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า การที่หุ้นบล.แอ็ดคินซันปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีกระแสข่าวหลายกระแส เช่นมีข่าวว่ามีกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาไล่ราคา โดยเข้ามาซื้อหุ้นก่อนหน้านี้ตั้งแต่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญหรือวอร์แรนต์ของบล.แอ็ดคินซันชุดที่4(ASL-W4) จนทำให้ราคาปรับตัวขึ้นมาและตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามซื้อขายด้วยมาร์จิ้นและเน็ตเซทเทิลเม้นท์ ต่อมากลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ได้หันเข้ามาไล่ราคาหุ้นแม่คือบล.แอ็ดคินซัน ซึ่งจุดประสงค์ของการเข้ามาซื้อเพื่อที่จะเข้ามาครอบงำกิจการของบล.แอ็ดคินซัน
อย่างไรก็ตาม ก็มีอีกกระแสว่านักลงทุนรายใหญ่ได้เข้ามาไล่ราคาหุ้นให้สูงขึ้น เพราะภายในเดือนธันวาคมวอร์แรนต์ชุด ที่ 4 ของบล.แอ็ดคินซันจะหมดอายุ จึงต้องการให้นักลงทุนที่ถือวอร์แรนต์มาใช้สิทธิแปลงสภาพ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีข่าวต่างๆออกมานักลงทุนก็ไม่ควรที่จะเข้าไปเก็งกำไรในหุ้นบล.แอ็ดคินซัน เพราะถือว่ามีความเสี่ยงอย่างมาก โดยผลประกอบการของบริษัทก็ยังไม่ดีขึ้น รวมถึงกระแสเงินสดของบริษัทที่เคยอยู่ในระดับสูงประมาณ 3 พันล้านบาทขณะนี้ก็ลดลงแล้วเหลือประมาณ 1 พันล้านบาทเท่านั้น
|
|
|
|
|