Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 พฤศจิกายน 2548
แม็ทชิ่งฯบุก“จีน-ชวา”ผุดบ.ร่วมทุนลุยงานโฆษณา-เบรกสร้างหนังในไทย             
 


   
www resources

โฮมเพจ แมทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

Entertainment and Leisure
แมทชิ่ง สตูดิโอ, บมจ.




แม็ทชิ่งปรับเข็มทิศบุกปีหน้า โฟกัสธุรกิจแคชคาว ลุยหนัก หนังโฆษณา รายการทีวี สื่อ โกอินเตอร์ประเดิม จีนและอินโดนีเซีย ผุดบริษัทร่วมทุนลุยงานโฆษณา เล็งต่อที่เวียดนามและไต้หวัน ติดเบรกธุรกิจผลิตหนังในไทยหันร่วมทุนตปท. ส่วนมูฟวี่ทาวน์ ยันยังไม่เลิก

นายสมศักดิ์ ชีวสุทธานนท์ กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯมีนโยบายที่จะดำเนินธุรกิจเน้นหนักในส่วนที่เป็นแคชคาว (Cash Cow) โดยเฉพาะธุรกิจการผลิตภาพยนตร์โฆษณา รายการทีวี และสื่อต่างๆ ส่วนธุรกิจที่จะชะลอคือ การผลิตหนังไทยฉายในประเทศ การลงทุนทำมูฟวี่ทาวน์ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ไม่ได้หมายความว่าเลิกธุรกิจนี้เพียงแต่ต้องรอจังหวะเท่านั้น

“ยอมรับว่าปีนี้ ภาวะของเราไม่ค่อยดี เพราะไปเจอปัญหาขาดทุนเรื่อง กาดจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ขาดทุน แต่ปีนี้เราได้จัดระบบภายในองค์กรใหม่ คิดว่าเรียบร้อยแล้ว และปีหน้าพร้อมที่จะบุกหนักได้อีกครั้ง”

ทั้งนี้ธุรกิจที่จะบุกหนักคือ ภาพยนตร์โฆษณาซึ่งเป็นธงนำรายได้ของบริษัทฯนั้น ในปีหน้าจะขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มที่จะร่วมทุนใน 2 ประเทศ คือ จีนกับอินโดนีเซีย คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายในไตรมาสแรกปีหน้า ซึ่งแต่เดิมบริษัทฯมีสำนักงานตัวแทนอยู่แล้วที่เซี่ยงไฮ้ แต่ครั้งนี้จะลงทุนด้วยการตั้งบริษัทขึ้นมาดำเนินการเอง หลังจากนั้นมีแผนที่จะขยายไปยังประเทศเวียดนามกับไต้หวันต่อไป

“เราจะเข้าตลาดจีนเพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ และใน 3 ปีข้างหน้า จีนจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิค ซึ่งเวลานั้นจะมีงานมากมาย เราเข้าไปตอนนี้ก็เป็นการเตรียมพร้อมสร้างรากฐานไว้ก่อน อีกทั้งเทรนด์ของอุตสาหกรรมโฆษณาโลกจะมาโฟกัสที่ตลาดเอเชียมากขึ้น”

ปัจจุบันจีนมีเม็ดเงินโฆษณาสูงสุดเป็นอันดับที่สองรองจากอเมริกา มีหนังเฉลี่ยกว่า 4,000 เรื่องต่อปี และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างมากเฉลี่ย 100% ทุกปี เพราะมีประชากรมาก เช่นเดียวกับในอินโดนีเซียที่มีการเติบโตของอุตสาหกรรมโฆษณาอย่างน่าสนใจ มีหนังโฆษณาเฉลี่ยปีละ 3,000 เรื่อง นอกจากนั้นจะขยายธุรกิจในส่วนของบริษัท เกียร์เฮดจำกัด ที่ทำเกี่ยวกับให้เช่าอุปกรณ์การผลิตในอินโดนีเซียอีกด้วย ขณะที่อุตสาหกรรมโฆษณาในไทยก็ยังคงมีการเติบโตแต่ไม่มากนัก มูลค่าก็คงไม่หนี 80,000 กว่าล้านบาทไปมากกว่านี้แล้ว

สำหรับธุรกิจบริษัท กู้ดดี้ ฟิล์ม จำกัดในประเทศญี่ปุ่นที่กลุ่มแม็ทชิ่งถือหุ้น 60% และพันธมิตรญี่ปุ่นถือหุ้น 40% นั้น ธุรกิจไปได้ดี มีรายได้ประมาณ 100 กว่าล้านบาทต่อปี

นอกจากนั้นธุรกิจสื่อก็จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการขยายตัว ล่าสุด ได้ขยายสื่อชีสมีเดียแมกกาซีนสู่ชีสสตูดิโอ โดยลงทุนกว่า 30 ล้านบาท ผลิตสตูดิโอที่สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งจะเป็นสตูดิโอแนวใหม่ในไทยที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ นอกจากนั้นแล้วยังจะร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มมอร์นิ่งมูซูเม่ ที่เป็นธุรกิจเดียวกันและมีดาต้าเบสกว่า 1 แสนคน ขณะที่เรามีฐานดาต้าเบสกว่า 80,000 คน ในการต่อยอดธุรกิจ โดยจะมีสื่อ แชนแนลวีและเอ็มทีวีเป็นสื่อที่คอยช่วยโปรโมทให้

โดยรายได้ของชีสสตูดิโอนี้จะมาจาก รายได้การถ่ายในสตูดิโอ 40% รายได้จากบีโลว์เดอะไลน์ 30% และอื่นๆ 30%
ส่วนธุรกิจผลิตภาพยนตร์นั้น จะปรับกลยุทธ์โดยหันไปลงทุนร่วมกับผู้ผลิตต่างประเทศมากขึ้น ในการผลิตหนังเพื่อป้อนตลาดไทยและตลาดต่างประเทศ หลังจากที่ภาพยนตร์ 2 เรื่องแรกไม่ประสบความสำเร็จคือ ซีอุย และ ก็เคยสัญญา ทั้งนี้ เรื่องใหม่ได้ลงทุนร่วมกับยูนิเวสท์ฮ่องกง สร้างหนังเรื่อง รีไซเคิล ฉายในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้สามารถทำรายได้จากการขายสิทธิ์กว่า 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us