|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แม็ทชิ่งปรับเข็มทิศบุกปีหน้า โฟกัสธุรกิจแคชคาว ลุยหนัก หนังโฆษณา รายการทีวี สื่อ โกอินเตอร์ประเดิม จีนและอินโดนีเซีย ผุดบริษัทร่วมทุนลุยงานโฆษณา เล็งต่อที่เวียดนามและไต้หวัน ติดเบรกธุรกิจผลิตหนังในไทยหันร่วมทุนตปท. ส่วนมูฟวี่ทาวน์ ยันยังไม่เลิก
นายสมศักดิ์ ชีวสุทธานนท์ กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯมีนโยบายที่จะดำเนินธุรกิจเน้นหนักในส่วนที่เป็นแคชคาว (Cash Cow) โดยเฉพาะธุรกิจการผลิตภาพยนตร์โฆษณา รายการทีวี และสื่อต่างๆ ส่วนธุรกิจที่จะชะลอคือ การผลิตหนังไทยฉายในประเทศ การลงทุนทำมูฟวี่ทาวน์ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ไม่ได้หมายความว่าเลิกธุรกิจนี้เพียงแต่ต้องรอจังหวะเท่านั้น
“ยอมรับว่าปีนี้ ภาวะของเราไม่ค่อยดี เพราะไปเจอปัญหาขาดทุนเรื่อง กาดจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ขาดทุน แต่ปีนี้เราได้จัดระบบภายในองค์กรใหม่ คิดว่าเรียบร้อยแล้ว และปีหน้าพร้อมที่จะบุกหนักได้อีกครั้ง”
ทั้งนี้ธุรกิจที่จะบุกหนักคือ ภาพยนตร์โฆษณาซึ่งเป็นธงนำรายได้ของบริษัทฯนั้น ในปีหน้าจะขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มที่จะร่วมทุนใน 2 ประเทศ คือ จีนกับอินโดนีเซีย คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายในไตรมาสแรกปีหน้า ซึ่งแต่เดิมบริษัทฯมีสำนักงานตัวแทนอยู่แล้วที่เซี่ยงไฮ้ แต่ครั้งนี้จะลงทุนด้วยการตั้งบริษัทขึ้นมาดำเนินการเอง หลังจากนั้นมีแผนที่จะขยายไปยังประเทศเวียดนามกับไต้หวันต่อไป
“เราจะเข้าตลาดจีนเพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ และใน 3 ปีข้างหน้า จีนจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิค ซึ่งเวลานั้นจะมีงานมากมาย เราเข้าไปตอนนี้ก็เป็นการเตรียมพร้อมสร้างรากฐานไว้ก่อน อีกทั้งเทรนด์ของอุตสาหกรรมโฆษณาโลกจะมาโฟกัสที่ตลาดเอเชียมากขึ้น”
ปัจจุบันจีนมีเม็ดเงินโฆษณาสูงสุดเป็นอันดับที่สองรองจากอเมริกา มีหนังเฉลี่ยกว่า 4,000 เรื่องต่อปี และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างมากเฉลี่ย 100% ทุกปี เพราะมีประชากรมาก เช่นเดียวกับในอินโดนีเซียที่มีการเติบโตของอุตสาหกรรมโฆษณาอย่างน่าสนใจ มีหนังโฆษณาเฉลี่ยปีละ 3,000 เรื่อง นอกจากนั้นจะขยายธุรกิจในส่วนของบริษัท เกียร์เฮดจำกัด ที่ทำเกี่ยวกับให้เช่าอุปกรณ์การผลิตในอินโดนีเซียอีกด้วย ขณะที่อุตสาหกรรมโฆษณาในไทยก็ยังคงมีการเติบโตแต่ไม่มากนัก มูลค่าก็คงไม่หนี 80,000 กว่าล้านบาทไปมากกว่านี้แล้ว
สำหรับธุรกิจบริษัท กู้ดดี้ ฟิล์ม จำกัดในประเทศญี่ปุ่นที่กลุ่มแม็ทชิ่งถือหุ้น 60% และพันธมิตรญี่ปุ่นถือหุ้น 40% นั้น ธุรกิจไปได้ดี มีรายได้ประมาณ 100 กว่าล้านบาทต่อปี
นอกจากนั้นธุรกิจสื่อก็จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการขยายตัว ล่าสุด ได้ขยายสื่อชีสมีเดียแมกกาซีนสู่ชีสสตูดิโอ โดยลงทุนกว่า 30 ล้านบาท ผลิตสตูดิโอที่สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งจะเป็นสตูดิโอแนวใหม่ในไทยที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ นอกจากนั้นแล้วยังจะร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มมอร์นิ่งมูซูเม่ ที่เป็นธุรกิจเดียวกันและมีดาต้าเบสกว่า 1 แสนคน ขณะที่เรามีฐานดาต้าเบสกว่า 80,000 คน ในการต่อยอดธุรกิจ โดยจะมีสื่อ แชนแนลวีและเอ็มทีวีเป็นสื่อที่คอยช่วยโปรโมทให้
โดยรายได้ของชีสสตูดิโอนี้จะมาจาก รายได้การถ่ายในสตูดิโอ 40% รายได้จากบีโลว์เดอะไลน์ 30% และอื่นๆ 30%
ส่วนธุรกิจผลิตภาพยนตร์นั้น จะปรับกลยุทธ์โดยหันไปลงทุนร่วมกับผู้ผลิตต่างประเทศมากขึ้น ในการผลิตหนังเพื่อป้อนตลาดไทยและตลาดต่างประเทศ หลังจากที่ภาพยนตร์ 2 เรื่องแรกไม่ประสบความสำเร็จคือ ซีอุย และ ก็เคยสัญญา ทั้งนี้ เรื่องใหม่ได้ลงทุนร่วมกับยูนิเวสท์ฮ่องกง สร้างหนังเรื่อง รีไซเคิล ฉายในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้สามารถทำรายได้จากการขายสิทธิ์กว่า 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว
|
|
|
|
|