Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 พฤศจิกายน 2548
อิตัลไทย-ยูนิคฯคว้าBRT             
 


   
www resources

โฮมเพจ อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์

   
search resources

อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์, บมจ.
Transportation
ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, บมจ.




กทม.เปิดซองเดินเครื่องรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที เผยสายแรก ก.ม.8-หมอชิต อิตาเลียนฯ เสนอต่ำสุด 705 ล้านบาท สายที่สอง ช่องนนทรี-สะพานกรุงเทพ ยูนิคเอ็นจิเนียริ่งฯ เสนอต่ำสุด 681 ล้านบาท แต่ยังสูงกว่าราคากลางทั้งสองราย เรียกเจรจาต่อรองราคาวันที่ 21 พ.ย.นี้ ด้าน “สามารถ” เผยส่งจม.ขอแก้มติครม.เรื่องขอให้กทม.มีสิทธิในการจัดการเดินรถไปยังมหาดไทยแล้ว 2 ครั้งแต่ยังเงียบกริบ เตรียมส่งครั้งที่ 3

วานนี้ (15พ.ย.) สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดซองประกวดราคาการก่อสร้างรถด่วนพิเศษบีอาร์ที หรือสมาร์ทเวย์ ทั้ง 2 เส้นทาง ผลปรากฏว่าในเส้นทางแรกสายนวมินทร์-เกษตร-หมอชิต รวมถึงส่วนต่อขยาย จากถนนนวมินทร์ถึงถนนรามอินทรา ก.ม. 8 ผู้เสนอราคาต่ำสุดได้แก่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เสนอที่ 705 ล้านบาท ขณะที่อีก 2 บริษัท คือ บริษัท ยูนิคเอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น จำกัด มหาชน เสนอราคา 715 ล้านบาทเศษ และบริษัท ซิโนไทย-เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น จำกัด มหาชน 749 ล้านบาทเศษ

ส่วนเส้นทางที่ 2 สายช่องนนทรี-สะพานกรุงเทพ ผู้เสนอราคาต่ำสุดได้แก่ บริษัท ยูนิคฯ 681 ล้านบาทเศษ รองลงมา คือ อิตาเลียนไทยฯ 692 ล้านบาทเศษ และซิโนไทยฯ 710 ล้านบาทเศษ

นายจุมพล ลำเภาพล รองผู้อำนวยการสำนักจราจรและขนส่ง เปิดเผยว่า จากการที่ได้พิจารณาคุณสมบัติของบริษัทที่ยื่นซองเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใน 3 บริษัทที่ยื่นซอง รวมทั้งคุณสมบัติทางเทคนิคผ่านหมดทั้ง 3 บริษัท ดังนั้น จะเลือกบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุด และนัดมาต่อรองราคาในที่ 21 พ.ย.นี้ เวลา 14.00 น.คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา หากต้องปรับลดราคาให้ได้ใกล้เคียงกับราคากลาง โดยเส้นทางที่ 1 ราคากลาง คือ 682 ล้านบาทเศษ เส้นทางที่ 2 อยู่ที่ 660 ล้านบาทเศษ

แต่ถ้าหากบริษัทก่อสร้างไม่สามารถลดราคาลงมาได้ ก็จำเป็นต้องประกวดราคาใหม่ตามระเบียบพัสดุ แต่มั่นใจว่าจะต่อรองได้ และไม่เป็นจุดวิกฤติที่จะทำให้การเดินรถบีอาร์ทีล่าช้า ทั้งนี้ กทม.จะใช้บทลงโทษปรับสูงสุด หากก่อสร้างล่าช้า คือวันละ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ของค่าก่อสร้างรวม

นายจุมพล กล่าวด้วยว่าหลังลงนามในสัญญาการก่อสร้างกับทั้ง 2 บริษัท ใน 2 เส้นทาง จะใช้เวลาก่อสร้าง 180 วัน จากนั้นจะมีการทดลองระบบและการเดินรถก่อนเปิดใช้โดยรายละเอียดของงานก่อสร้าง ประกอบด้วย ส่วนที่ 1. อาคารสถานี ซึ่งต้องมีระบบลิฟท์ สะพานคนเดินข้าม 2 ฝั่งมาที่สถานีซึ่งอยู่เกาะกลางถนน และระบบปรับอากาศ โดยเส้นทางแรกระยะทาง 19.5 กิโลเมตร มี 18 สถานี เส้นทางที่ 2 ระยะทาง 16.5 กม. จากถนนสุรวงศ์ ถึงแยกนราธิวาส ไปถนนพระราม 3 สุดถนนรัชดาภิเษก บรรจบกับถนนราชพฤกษ์ มี 16 สถานี ซึ่งสถานีมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าสายที่ 1 เพราะมีโครงสร้างที่ต้องคร่อมคลอง

ส่วนที่ 2.เส้นทางวิ่ง จะต้องก่อสร้างขอบคันหิน กั้นรถส่วนบุคคลแยกจากรถบีอาร์ที ยกเว้นช่องทางแยก ทางเลี้ยวที่จะใช้สีเหลืองบนพื้นผิวจราจรแทนคันหินกั้น โดยคันหินต้องมีคุณสมบัติรับแรงกระแทกได้สูง ส่วนที่ 3 คือ ระบบงานท่อร้อยสายไฟ คอมพิวเตอร์ เชื่อมโยงเพื่อควบคุมระบบรถ

รองผู้อำนวยการสำนักฯ กล่าวด้วยว่า ได้มีการหารือเบื้องต้นกับเจ้าของเส้นทางที่บีอาร์ทีผ่านหลายหน่วยงานแล้ว เช่น กรมทางหลวง ทางหลวงชนบท และจะต้องหารือเป็นระยะตลอดการก่อสร้าง เพราะอาจจะกระทบกับทรัพย์สินและการจราจร

ด้านนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหาในการต่อรองและถ้าหากการต่อรองเป็นไปด้วยความเรียบร้อยก็จะสามารถลงนามในสัญญาและออกหนังสือให้บริษัทที่ประกวดราคาได้เริ่มงานก่อสร้างทันที

ทั้งนี้ กทม.ยังคงตั้งเป้าหมายให้บริการได้ในเดือน ส.ค.2549 แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการขออนุญาตเดินรถที่กทม.ได้ส่งหนังสือขอความเห็นชอบไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อให้กทม.มีใบอนุญาตประกอบการเดินรถเพื่อที่จะสามารถเดินรถโดยสารสาธารณะในกรุงเทพฯได้ ซึ่งขณะนี้กทม.ได้ส่งหนังสือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้วจำนวน 2 ครั้งเพื่อให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมครม.แต่จนถึงปัจจุบันนี้มหาดไทยยังไม่ได้นำเข้าเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม กทม.เตรียมจะจัดจะส่งหนังสือไปอีกเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งทางนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.ได้สั่งการให้สจส.ดำเนินการอย่างเร่งด่วนแล้ว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us