|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กองทุนรวมวายุภักษ์ ประกาศผลดำเนินงาน ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 48 มีกำไรสุทธิกว่า 5.7 พันล้านบาท คาดทั้งปีจ่ายปันผลได้ 5.5-6% ขณะที่แผนลงทุนปีหน้าเน้นปรับกลยุทธ์สร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นใกล้เคียงผลตอบแทนตลาด เตรียมกันเงินลงทุน กฟผ. และประชุมนำเงินลงทุนในทีพีไอ 16 พ.ย.นี้
นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ในฐานะกรรมการ กำกับการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการฯ ที่มีนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงานของ กองทุนวายุภักษ์ 1 ประจำไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 หรือสิ้นไตรมาส 3 ของปี 2548 ว่ามีกำไรสุทธิ 5,722 ล้านบาท เป็นกำไรที่เกิดจากการลงทุนและรับรู้รายได้ 86 ล้านบาท และกำไรที่ยังไม่รับรู้รายได้ 954 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสะสมตั้งแต่เริ่มดำเนินการทั้งสิ้น 21,500 ล้านบาท และมีเงินสำรองเงินปันผล 14,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนฯมีอัตราผลตอบแทน ณ สิ้นไตรมาส 3 ประมาณกว่า 5% ซึ่งคาดว่าทั้งปีจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอัตรา 5.5-6% โดยที่ผ่านมา ได้มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 1 งวด ในอัตรา 2.5%
นางพรรณีกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 จะต้องมีการปรับกลยุทธ์ในการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นให้กับผู้ลงทุน เพราะแม้ว่ากองทุนฯจะมีการกำหนดอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำไว้ในหนังสือชี้ชวนไว้ไม่ต่ำกว่า 3% ต่อไป แต่ภาวการณ์ลงทุนในปัจจุบัน มีแนวโน้มที่ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น ดังนั้นกองทุนฯต้องพยายามทำให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนในตลาด
"ตอนนี้แม้ว่าจะสูงกว่าผลตอบแทนขั้นต่ำที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน แต่ก็ยังต่ำกว่าผลตอบแทนในตลาดเล็กน้อย ดังนั้นกองทุนต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยไม่ใช่แค่บริหารให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 3% เท่านั้น แต่ต้องบริหารในส่วนของผลตอบแทนขั้นสูงด้วย"
นางพรรณีกล่าวว่า กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 มีเกณฑ์ในการลงทุน เช่น การซื้อขายหุ้นก็จะมีเกณฑ์ว่าจะซื้อหรือขายหุ้นตัวใดได้บ้าง ซึ่งในส่วนของหุ้นที่กองทุนฯ ซื้อจากกระทรวงการคลังนั้น หากจะขายกองทุนต้องขายคืนใกล้กับกระทรวง การคลังก่อน อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวก็ยังมองว่าหุ้นเหล่านี้ยัง ถือเป็นหุ้นพื้นฐานดีที่จะถือไว้ในระยะยาว
สำหรับหุ้นบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) ที่เตรียมกระจายหุ้นในตลาดนั้น เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับการลงทุนชุดที่มี นายโอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษากระทรวงการคลังเป็นประธาน ทำหน้าที่ในการพิจารณากันเงินไว้ซื้อหุ้นดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับ กฟผ.ว่าจะจัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยอย่างไร
ส่วนการนำเงินเข้าไปลงทุนใน บริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมิกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอนั้น ใน วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2548 นี้ คณะกรรมการกำกับการลงทุนฯ จะมี การประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้
|
|
|
|
|