|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บล.บัวหลวง แนะซื้อหุ้น "บัตรกรุงไทย" หลังโชว์ผลการ ดำเนินงานงวด 9 เดือนสูงกว่า 494 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของประมาณการทั้งปี ตั้งเป้ากำไรสุทธิปีหน้าโตอีก 14% ระบุราคาเป้าหมายอยู่ที่ 27 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด ประเมินผลการดำเนินงานบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ว่า ไตรมาส 3 ปี 2548 บริษัทมีกำไรสุทธิ 166 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสสอง 3% และเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10% ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ผลงาน งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 494 บ้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 9% หรือคิดเป็นสัดส่วน 73% ของประมาณการที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 678 ล้านบาท
ส่วนกำไรก่อนการตั้งสำรองหนี้สูญและภาษีอยู่ที่ 427 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 4% และจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า 15% โดยระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา กำไร ก่อนการตั้งสำรองหนี้สูญและภาษีเพิ่มขึ้น 30% อยู่ที่ 1,280 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมียอดการปล่อยสินเชื่อเพิ่มจากการเพิ่มขึ้นจากไตรมาส ก่อน 6% และเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกัน ของปีก่อน 53% ทำให้รายได้จากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 6% และ 41% ตามลำดับ คือมีรายได้จากดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.28 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันของการเติบโตของสินเชื่อ ส่วนงวด 9 เดือน มีรายได้จากดอกเบี้ย 3,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 40%
บล.บัวหลวงระบุ ว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 บริษัทมีส่วน ต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวลดลงไตรมาสก่อนและงวดเดียวกันของปีก่อน 0.28% และ 2.05% เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนเงินทุนและการปรับลดลงของผลตอบแทนในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคล ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิสำหรับไตรมาส 3 อยู่ที่ 19.42% และงวด 9 เดือนอยู่ที่ 18.12%
"ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะมีการ ปรับตัวลดลง เพื่อรองรับการแข่งขันใน การขยายฐานสินเชื่อ อันจะทำให้ดอกเบี้ยรับสุทธิของ KTC เพิ่มขึ้นดังที่กล่าวไปแล้ว ณ ปัจจุบัน KTC ได้มีการพิจารณาในการออกหุ้นกู้จำนวน 5-6 พันล้านบาท ปัองกันการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการเงินและคงระดับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสำหรับการดำเนินงานในปีหน้า"
ด้านการตั้งสำรองหนี้สูญ ไตรมาส 3 KTC ตั้งสำรองหนี้สูญ 178 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 4% และเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 32% ส่วนระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา สำรองหนี้สูญจะอยู่ที่ 538 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ปีก่อนหน้า 76% ภายใต้ข้อกำหนดของทางธนาคารแห่งประเทศไทย โดยในไตรมาสนี้หนี้ที่ไม่ก่อ ให้เกิดรายได้คิดเป็น 2.49% ของ สินเชื่อโดยที่มีสัดส่วนการตั้งสำรองหนี้สูญ และหนี้สงสัยจะสูญจะครอบคลุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ 74% เราเชื่อว่าสินเชื่อของทาง KTC เป็นสินเชื่อที่มีคุณภาพ ภายใต้การการตั้งสำรองหนี้สูญที่เพิ่มสูงขึ้น และนโยบายการตัดหนี้สูญที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน
"เราเชื่อว่า KTC ยังคงเป้าหมาย สำหรับการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อสำหรับปีนี้อยู่ที่ 34% และปรับเพิ่มขึ้น 8-12% ในปี 2549 โดยมีแผนที่จะลงทุนธุรกิจในต่างจังหวัดเพื่อคงระดับผลการดำเนินงานในปีหน้า จากงบการลงทุนจำนวน 1.8 ล้านล้านบาทในสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของรัฐบาล คาดว่าจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้ในช่วงกลางปีหน้า"
จากเป้าหมายสินเชื่อที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ KTC ทำกำไรสุทธิได้ตามเป้าหมาย 678 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.7% รวมทั้งการออกหุ้นกู้เพื่อรักษาต้นทุนดอกเบี้ยจะส่งผลให้ KTC ในปี 2549 มีกำไรสุทธิเติบโตได้ 14% ณ ปัจจุบัน KTC ซื้อขายอยู่ที่ PE 8 เท่า ในปี 2548 และ 7 เท่าในปี 2549 โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.2% ในปี 2548 และ 7.1% สำหรับปี 2549 เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" โดยมีเป้าหมาย PE อยู่ที่ 9 เท่า หรือราคาที่ 27 บาท สำหรับระยะเวลา 12 เดือน
|
|
|
|
|