|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กระเบื้องหลังคาตราเพชรตั้งเป้าปีหน้ารายได้โต 10% เล็งขยายสัดส่วนการขายในต่างประเทศจาก 5% เพิ่มขึ้นเป็น 10% บล.บัวหลวงที่ปรึกษาการเงินไม่หวั่นภาวะตลาดหุ้นชี้เป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีราคาที่จอง ที่กำหนดไว้มีส่วนลด 25%
นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงินบริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป 40 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 5 บาท และได้มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (กรีนชู) อีกจำนวน 6 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาที่จะเสนอขายในราคาหุ้นละ 7.80 บาท ซึ่งในระดับราคาดังกล่าวจะมีค่าพี/อี เรโชประมาณ 6.2-6.5 เท่าเมื่อเทียบกับในหมวดเดียวกันจะมีค่าพี/อีเรโชเฉลี่ยประมาณ 8.5 เท่า ซึ่งมั่นใจว่าหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน
ทั้งนี้ นักลงทุนที่ถือหุ้นบริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชรจะได้รับ ผลตอบแทนจากการลงทุน 8% ในปี 2549 นี้ และการที่บริษัทมีกรีนชูจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหุ้นจะเสนอขายในวันที่ 16-18 พฤศจิกายนนี้และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 นี้
นายไพฑูรย์ กิจสำเร็จ ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 2.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท และยังคาดว่าในปีหน้ารายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10% เนื่องจากสินค้าของบริษัทจับกลุ่มตลาดระดับล่าง และต่างจังหวัด ซึ่งยังคงมีความต้องการอยู่มากประกอบกับบริษัทจะมีการผลิตสินค้าหลากสีสันมากขึ้น ทำให้ยอดขายดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าบริษัทจะมีการรุกตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นจากปีนี้ที่บริษัทส่งสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศประมาณ 5% โดยจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% เพราะบริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้น หลังจากบริษัทจะมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่ม โดยตลาดที่บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาคือประเทศกานาและประเทศไต้หวัน จากปัจจุบันสินค้าของบริษัทได้ส่งไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่นประเทศเขมร, มาเลเซียและเวียดนาม เป็นต้น
ในขณะเดียวกันยังมีการผลิต ผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายสีมากขึ้น และจะเน้นการผลิตไม้ฝามากขึ้นเพราะตลาดยังคงมีความต้องการอยู่อีกมากจากการที่ไม้เริ่มขาดแคลน แต่บริษัทอาจมีการพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น หากผลการดำเนินงานยังเติบโตอยู่ในระดับที่ดี โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
"ธุรกิจผลิตกระเบื้องหลังคาของบริษัทยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอีก มากจะมีการขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จึงเป็นจังหวะที่ดีที่เรานำบริษัทเข้าตลาดหุ้นในช่วงนี้ และเป็นโอกาสของผู้ลงทุนที่สนใจจะเข้ามาร่วมเป็นเจ้าของบริษัทและเติบโตไปด้วยกัน" นายไพฑูรย์กล่าว
ปัจจุบันบริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชรมีสัดส่วนรายได้จาก กระเบื้องไฟเบอร์ 62% กระเบื้องคอนกรีตกว่า 25 และไม้ฝาสังเคราะห์ 13% โดยมีสัดส่วนการขายในประเทศ 96% และต่างประเทศประมาณ 4%
นายสรวิศ ไกรฤกษ์ ผู้อำนวยการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า หุ้นที่เสนอขายจากจำนวน 46 ล้านหุ้นนั้นจะจัดสรรให้กับนักลงทุนสถาบันจำนวน 9.2 ล้านหุ้น หรือ คิด เป็น 20% และจัดสรรให้กับผู้อุปการคุณจำนวน 5 ล้านหุ้นที่เหลือจัดสรร ให้กับนักลงทุนทั่วไป โดยผ่านบริษัท หลักทรัพย์ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายจำนวน 9 ราย
เงินที่ได้จากการระดมทุนนั้นส่วนหนึ่งจะนำไปเป็นเงินลงทุนในการ รองรับการขยายกำลังการผลิตในอนาคต รวมถึงชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นบางส่วน ซึ่งปัจจุบันนี้มีอยู่ประมาณ 417 ล้านบาท และจะคืนหนี้จำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เงินกู้ระยะสั้นเหลือประมาณ 117 ล้านบาทซึ่งจะช่วยทำให้ภาระดอกเบี้ยเงินกู้ของบริษัทลดลงอีกด้วย รวมถึงสัดส่วนหนี้สินต่อทุนหลังการเพิ่มทุนแล้วจะอยู่ในระดับต่ำมากประมาณ 0.1 เท่า
ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตของรายได้โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับประมาณ 8% ซึ่งพิจารณาจากปี 2545-2547 มีรายได้ 1.6 พันล้านบาท,1.8 พันล้านบาทและ 2 พันล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกของ ปี 2548 มีรายได้ประมาณ 1.2 พันล้านบาท ส่วนภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน นั้น เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นที่เข้ามาซื้อขายแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และราคาหุ้นที่กำหนดไว้ที่ระดับ 7.80 บาทนั้นมีส่วนลดให้กับนักลงทุนประมาณ 25%
|
|
|
|
|