ไอเอ็นจีลุ้นกองทุนหอพักนักศึกษา เปิดขาย 5 วันมีแต่นักลงทุนรายย่อย เหตุสนใจผลตอบแทนที่สูงถึง 12% ระบุถึงขั้นยกเลิกแผนลงทุนเองแล้วโยกเงินเข้ากองทุนแทน "มาริษ" เผยนักลงทุนสถาบันกลับเมิน เหตุยังไม่มั่นใจที่มาของรายได้ และความสอดคล้องของจำนวนนักศึกษาที่จะมาเข้าพัก เชื่อหลังปิดไอพีโอ แล้วจะขายได้หมดและสามารถนำเข้าเทรดในตลาดได้

นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หอพักนักศึกษาซึ่งเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า หลังจากเปิดขายหน่วยลงทุนไปแล้ว ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างดี เนื่องจากสนใจผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวที่ให้ในอัตราที่สูงถึง 12% ซึ่งในจำนวนนี้มีนักลงทุนบางรายที่กำลังจะลงทุนสร้างอพาร์ตเมนต์ใน กรุงเทพฯ นำเงินไปลงทุนในกองทุน ดังกล่าวแทน เนื่องจากเห็นว่ากองทุนน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

ทั้งนี้ ในส่วนของนักลงทุนสถาบันขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร เนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่มีความแน่ใจในเรื่องรายได้ของกองทุน รวมทั้งความไม่แน่ใจในเรื่องของจำนวนนักศึกษาที่จะสอดคล้องกับจำนวนหอพักดังกล่าว หรือไม่

อย่างไรก็ตาม นายมาริษ ยังได้กล่าวถึงที่มาของรายได้ว่า กองทุนดังกล่าวมีรายได้หลักมาจาก การเก็บค่าเช่าที่จะเก็บเป็นตามภาคการศึกษาแต่ละเทอม โดยในช่วงระหว่างการปิดภาคเรียนนั้น กองทุนก็จะเก็บค่าเช่า 50% ของค่าเช่าจริงสำหรับนักศึกษาที่ต้องการ ใช้ห้องในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งค่าเช่า ที่กองทุนเก็บก็จะเป็นอัตราที่ผู้ประกอบการในพื้นที่ใช้เก็บแก่ผู้เช่า อยู่ ในขณะที่จำนวนนักศึกษาที่จะเข้ามาใช้บริการนั้นทางมหาวิทยาลัย มหาสารคามเอง หรือมหาวิทยาลัยในบริเวณดังกล่าวก็มีนโยบายรับนักศึกษาใหม่ทุกปีอยู่แล้ว
"กองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตราสารหนี้ก่อน หลังจากนั้นเมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จแล้วจึงจะนำเงินไปลงทุน ซึ่งจะทำให้ผู้ถือหน่วยได้รับผลตอบแทนอย่างเต็มที่ โดยที่ผู้ลงทุนก็จะได้ประโยชน์ ในขณะที่สังคมก็จะได้สังคมที่ดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ การที่มีบริษัทเอกชนเข้า ไปลงทุนให้ มหาวิทยาลัยก็จะสามารถนำเงินไปพัฒนาการเรียนการศึกษาได้อย่างเต็มที่" นายมาริษ กล่าว

นายมาริษกล่าวว่า กองทุนดังกล่าวจะเปิดขายหน่วยลงทุนไปถึงวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีนักลงทุนให้ความ สนใจมากขึ้น และสามารถขายหน่วยลงทุนได้เต็ม โดยหลังจากปิด การจองหน่วยลงทุนแล้ว บริษัทก็จะจดทะเบียนกองทุนกับสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้เป็นนิติบุคคล และหลังจากนั้นก็จะนำไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป ซึ่งตามกฎของสำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดไว้ว่าต้องไม่เกิน 60 วันหลังจากจดทะเบียนแล้ว

ทั้งนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หอพักนักศึกษา มีมูลค่าโครงการ 1,175 ล้านบาท เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่าง 7-21 พฤศจิกายน 2548 โดยกองทุนดังกล่าวลงทุนในหอพักนักศึกษาในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นโครงการลงทุนของบริษัทเอกชน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 52 ไร่ ประกอบด้วยหอพักทั้งหมด 44 อาคาร อาคารละ 75 ห้อง รับนักศึกษาได้สูงสุด 9,372 คน ตั้งอยู่ระหว่างมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และสถาบันการพลศึกษา มหาสารคาม

สำหรับรายได้ของกองทุนนั้น จะเรียกเก็บค่าเช่าแบบรายเทอม คิดค่าเช่าห้องละ 4,800 บาทต่อเดือนเฉลี่ยแล้วนักศึกษา 3 คนต่อห้องคิดเป็นรายจ่ายคนละ 1,600 บาทต่อเดือน ในขณะที่ผลตอบแทน กองทุนจะรับประกันผลตอบแทนปีแรก 10% ปีที่ 2 และปีที่ 3 คาดผลตอบแทนประมาณ 10.15% ปีที่ 4 ผู้บริหารหอพักสามารถปรับเพิ่มค่าเช่าได้ 7% จะมีผลตอบแทน 10.70% ทั้งนี้ หลังจากการระดมทุนในช่วงแรก กองทุนจะนำไปลงทุนตั๋วเงินคลังก่อน