|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
การประหยัดและใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น กลายเป็นเรื่องที่ได้ยินค่อนข้างมากในช่วงนี้ ด้วยเหตุผลสำคัญของต้นทุนพลังงานที่แนวโน้มทะยานขึ้นสูงจนคาดเดาได้ยากว่าจะหยุดอยู่ที่ใด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้นทุนการผลิตของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น และบางแห่งที่รับรู้ผลกระทบได้รวดเร็ว ได้เตรียมการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยการประหยัดพลังงาน หรือหาวิธีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งบางครั้งจำเป็นต้องลงทุนเพื่อเกิดประโยชน์ในระยะยาว และเป็นที่มาของสินเชื่ออนุรักษ์พลังงาน
สินเชื่ออนุรักษ์พลังงาน เป็นความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กับสถาบันการเงิน ด้วยการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขอสินเชื่อดังกล่าวไปลงทุนในเทคโนโลยีที่นำมาสู่การประหยัดพลังงาน ซึ่งไทยธนาคารเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ให้ความร่วมมือในโครงการดังกล่าว
พีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บอกว่า ไทยธนาคาร ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นระยะที่ 1 ของโครงการเงินหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งในระยะแรกนั้นได้สนับสนุนสินเชื่อดังกล่าวให้ผู้ประกอบการถึง 3,684.66 ล้านบาท
อีกทั้งธนาคารยังได้สนับสนุนสินเชื่อโดยเป็นวงเงินกู้ของธนาคารเองโดยตรงอีกจำนวน 2,079 ล้านบาท เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการกระตุ้นด้านการอนุรักษ์พลังงานสำหรับผู้ประกอบการ สามารถประหยัดพลังงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ
ระยะที่หนึ่งของโครงการผ่านพ้นไป ไทยธนาคาร ยังให้ความสำคัญกับโครงการดังกล่าวจึงได้ร่วมมือกับภาครัฐอีกครั้งในการให้บริการสินเชื่ออนุรักษ์พลังงานในระยะที่ 2 และมีในส่วนที่ธนาคารได้ร่วมสมทบในสินเชื่อดังกล่าวอีก1,000 ล้านบาท โดยจะเน้นปล่อยกู้ให้กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขาดย่อมให้มากขึ้น
ในยุคที่ต้นทุนพลังงานสูงขึ้นโดยเฉพาะน้ำมัน ปัจจัยดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ผู้ประกอบการเท่านั้นแต่เป็นผลกระทบในวงกว้างเป็นเรื่องของส่วนรวม และผลกระทบดังกล่าวค่อนข้างแรงกว่าที่คาด จนทำให้นโยบายการประหยัดพลังงานหรือการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพกลายเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องศัยศัยความร่วมมือร่วมใจอย่างเร่งด่วน
|
|
|
|
|