"พินิจ" สั่งชะลอการจับกุมร้านเซเว่นฯ โชว์บุหรี่ 2 วัน จนกว่าคำสั่งกระทรวงฯ ที่หารือร่วมกับฝ่ายกฎหมายต่างๆ จะเสร็จสิ้น เผย "ซีพี" ขอเข้าพบเพื่อพูดคุยหาทางออก เชื่อจะได้รับความร่วมมืออย่างดี ด้านเลขาฯ สคบ.ร่อนจดหมายถึง "พินิจ" ตบหน้าเซเว่นฯ ระบุกฎหมายห้ามวางบุหรี่ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าโดยไม่ต้องโชว์ได้

นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้คำสั่ง สธ. เรื่อง มาตรการห้ามวางบุหรี่ ณ จุดขาย ร่างเสร็จแล้ว โดยเป็นคำสั่งเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมด และในวันนี้ (11 พ.ย.) เวลา 11.00 น. ได้เชิญสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการสูงสุด เลขาฯ คณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงการคลัง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค (สคบ.) รวมทั้ง สธ.เพื่อหารือถึงรายละเอียดของคำสั่งดังกล่าว และได้สั่งกรมควบคุมโรคว่า กรณีที่มีการจัดวางบุหรี่ไม่ถูกต้องนั้น ให้มีการแสดงตัวอย่างที่ถูกต้องประมาณ 2 ตัวอย่าง ว่าควรทำอย่างไร ไม่ใช่ห้ามอย่างเดียว แต่ไม่แนะนำวิธีที่ควรปฏิบัติ

นายพินิจกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ทางบริษัท ซีพี ได้ติดต่อขอหารือเรื่องนี้ ตนจึงประสานงานกลับไปว่าให้มาพูดหารือในวันที่ 11 พ.ย. หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นแล้ว ก็คงจะเป็นการขอความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่าย โดยใน 2 วันนี้ จะชะลอการจับกุมไว้เพื่อหาความชัดเจนร่วมกันก่อน ส่วนร้านค้าที่มีการจับกุมไปแล้วก็คงต้อง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแต่จะทำอย่างไรให้แนวการปฏิบัติตามกฎหมายไม่สับสน ที่ผ่านมายอมรับว่ามีความสับสนพอสมควร เพราะการตีความทางกฎหมายมีทั้งเข้าข่าย และไม่เข้าข่าย สำหรับเรื่องที่ทางร้านค้าอาจจะมีสัญญากับทางบริษัทบุหรี่นั้นไม่ทราบ แต่หากมีการพูดคุยชัดเจนก็คิดว่าน่าจะให้ความร่วมมือ"

ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการ สคบ. ได้ทำหนังสือถึงนายพินิจ แจ้งว่ากฎหมายของ สธ.ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉ.2) พ.ศ. 2541 โดย พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติบังคับให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่จำหน่ายสินค้า ต้องแสดงให้เห็นตัวสินค้าหรือภาชนะบรรจุหรือหีบห่อบรรจุสินค้าแต่อย่างใด เพียงแต่ควบคุมเรื่องฉลากของสินค้า ให้แสดงข้อความเกี่ยวกับสินค้าที่ตัวสินค้าและ/หรือภาชนะบรรจุหรือหีบห่อบรรจุสินค้าตามที่กฎหมาย และประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลากกำหนดเท่านั้น

"ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าต้องนำตัวสินค้า คือ บุหรี่ มาแสดงไว้ในตู้โชว์สินค้าภายในร้าน เพราะถ้าไม่นำตัวสินค้ามาแสดงไว้จะผิดกฎหมาย คุ้มครองผู้บริโภค ข้อนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ผู้ประกอบการธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าสามารถจำหน่ายสินค้าของตนโดยไม่ต้องแสดงตัวสินค้า เพียงแต่ติดประกาศหรือแจ้งว่าร้านค้าของตนมีสินค้าชนิดนั้นๆ จำหน่าย และต้องแสดงราคาจำหน่ายของสินค้าดังกล่าวให้ผู้บริโภคทราบด้วย ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยราคาของสินค้าและบริการ" นพ.ณรงค์ กล่าว

นพ.ณรงค์ กล่าวยืนยันว่า สธ.ไม่ได้มีนโยบายห้ามขายบุหรี่ แต่มีนโยบายห้ามขายบุหรี่แก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และไม่ให้โฆษณาบุหรี่ไม่ว่ารูปแบบใด เพื่อลดหรือป้องกันการกระตุ้นให้ประชาชน โดยเฉพาะวัยรุ่นอยากลอง อยากสูบบุหรี่ ซึ่งขณะนี้เยาวชนไทยติดบุหรี่ถึง 18% หากไม่แก้ไขป้องกันด้วยมาตรการที่ดี จะทำให้ประเทศไทยขาดหรือสูญเสียทรัพยากรที่มีคุณภาพไปเรื่อยๆ และมาตรการเหล่านี้ทั่วโลกได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

แหล่งข่าวจากบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวว่า แม้ว่าจะมีร้านเซเว่นอีเลฟเว่นจำนวนหนึ่งถูกจับตามที่เป็นข่าวในเรื่องการวางโชว์บุหรี่ก็ตาม แต่บริษัทฯ ยังยืนยันและให้ทุกสาขาโชว์บุหรี่เช่นเดิม 1 ซอง ต่อ 1 ผลิตภัณฑ์ เนื่องจากมั่นใจในกระบวนการที่ดำเนินมาถูกต้อง แม้แต่ล่าสุดนี้นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังสั่งชะลอการจับกุมร้านเซเว่นฯไว้ก่อนเลย

ทั้งนี้ ในวันนี้ (11 พ.ย.) ทางกระทรวงสาธารณสุขโดยนายพินิจ ได้ทำหนังสือเชิญผู้บริหารของเซเว่นฯไปพบเพื่อประชุมร่วมกันเพื่อหาทางออกของปัญหาดังกล่าว ซึ่งทางเซเว่นฯ จะนำทีมบริหารระดับสูงนำโดยนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานบริษัท ไปประชุมร่วมด้วย คาดว่าคงจะมีผลสรุปออกมาในทางบวก ซึ่งตั้งแต่ที่กฤษฎีกาตีความออกมาถึงกรณีการวางโชว์บุหรี่เป็นการโฆษณาหรือไม่นั้น ก็ยังมีความเห็นที่ต่างกันอีก บริษัทฯก็เรียกร้องต่อกระทรวงสาธารณสุขมาตลอดว่า ให้ระบุมาชัดเจนเลยว่าจะให้เซเว่นฯวางบุหรี่อย่างไร วางตรงไหน ลักษณะใด ที่ถูกต้องจะได้ไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขเองจะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก่อนในช่วงเช้าวันนี้กับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กระทรวงการคลัง เพื่อหาแนวทางและข้อยุติในการดำเนินการ