Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 พฤศจิกายน 2548
sc เจอพิษน้ำมันยอดขายวูบ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด
โฮมเพจ ศุภาลัย
โฮมเพจ เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น

   
search resources

ศุภาลัย, บมจ.
เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
ควอลิตี้เฮาส์, บมจ.
Real Estate




จับตาพิษน้ำมัน-ดอกเบี้ยขึ้น ส่งสัญญาณร้ายต่อกลุ่มอสังหาฯ ที่พัฒนาที่อยู่อาศัย หลังยอดขายในช่วง 9 เดือน เข้าสู่ภาวะขาลง ด้าน SC ธุรกิจอสังหาฯ ตระกูลชินวัตรกำไรตกวูบเกือบ 21% ค่ายยักษ์ใหญ่แบรนด์บ้านหรูอย่าง "คิวเฮ้าส์" แม้ยอดรายได้สะสมยังเติบโตกว่า 5,000 ล้านบาท แต่กำไรลดลง ผลจากยอดรายได้จากธุรกิจขายบ้านพร้อมที่ดินลดลง รวมถึงจ่ายเบี้ยปรับแก่กรมสรรพากร ด้าน "ศุภาลัย" สวนกระแสไตรมาส 3 กำไรพุ่งกว่า 200% ฟุ้งหนี้สินต่อทุนต่ำกว่า 1% สวนทางการโหมเปิดโครงการใหม่หลายทำเล

จากการปรับตัวของราคาน้ำมัน ซึ่งได้ส่งผลให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับปัจจัยทางด้านอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มอยู่ในทิศทางขาขึ้น ได้เป็นแรงกดดันที่สร้างภาระการผ่อนชำระที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ซึ่งการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย 1% จะมีผลอย่างมากต่อค่าใช้จ่ายในการจ่ายดอกเบี้ยถึงระดับ 8%

ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจแม้ยังเติบโต แต่เป็นอัตราที่ลดลง นอกจากนี้ รายได้ของประชาชนยังคงไม่เพิ่มขึ้น สวนทางกับค่าครองชีพ ที่จะสูงอย่างต่อเนื่อง และจากปัจจัยลบดังกล่าว ได้เริ่มก่อปัญหาและสร้างผลกระทบต่อยอดขายและกำไรของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจากการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่ทยอยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า รายได้จากการขายและกำไรในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 ลดลง ได้แก่ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจพัฒนาที่ดินตระกูลชินวัตร บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 205.76 ล้านบาท ลดลง 54.38 ล้านบาท หรือมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านกำไรลดลง 20.90% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่งวดไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.48 มีกำไรสุทธิ 25.28 ล้านบาท ลดลง 81.63 ล้านบาท หรือ 76.35% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 47 ส่วนรายได้จากการขาย ขณะที่รายได้จากการขายสำหรับไตรมาส 3 และสำหรับงวด 9 เดือนลดลงจำนวน 178.44 ล้านบาทและ 98.56 ล้านบาท หรือคิดเป็น 83.38% และ 19.34% ตามลำดับ

ส่วนรายได้ค่าเช่าและบริการ เพิ่มขึ้นจำนวน 9.80 ล้านบาท และ 49.92 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.77% และ 10.29% ตามลำดับ เนื่องจากมีผู้เช่าพื้นที่อาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3 เพิ่มขึ้นโดยมีอัตราการเช่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2548 เท่ากับ 91.67% นอกจากนี้กำไรขั้นต้นไตรมาส 3 เท่ากับ 110.62 ล้านบาท ลดลง 66.16 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37.42% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับงวด 9 เดือน เท่ากับ 467.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่ากับ 17.30 ล้าน บาท หรือคิดเป็น 3.85% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนบริษัทปรีชา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 120.33 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 47 มีกำไรสุทธิ 51.12 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้ บริษัทมีกำไรจากการกลับบัญชีรายการขาดทุนจากการลดมูลค่าที่ดินเป็นจำนวน 52.01 ล้านบาท และบริษัทฯ มีกำไรจากการโอนทรัพย์ชำระหนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 28.33 ล้านบาท

ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายลดลงเท่ากับ 3.88 ล้านบาท, บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ในงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิเท่ากับ 148.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 173.03% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของ ปี 47 เท่ากับ 54.26 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้รับรู้จากโครงการใหม่ 2 โครงการ คือ โครงการสิริทาวารา และโครงการปริญญดา วงแหวนสาทร และโครงการเก่าที่เปิดขายและมาทยอยรับรู้ รายได้ส่วนใหญ่ในปี 2548 จำนวน 3 โครงการ อัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดรายได้ปีนี้ เท่ากับ31.65% (ปี 47 อยู่ที่ 30.45%)เพิ่มขึ้น 1.20% เนื่องจากสามารถบริหารต้นทุนขายได้ลดลงจากปีก่อน ขณะที่บริษัทไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิไตรมาส 3 อยู่ที่ 64.736 ล้านบาท เทียบ กับปี 47 อยู่ที่ 24.805 ล้านบาท และงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 107.286 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 47 ที่มีกำไรสุทธิ 237.815 ล้านบาท

นางสุวรรณา พุทธประสาท รองกรรมการผู้จัด บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นเจ้าตลาดในโครงการบ้านหรูระดับพรีเมียม เครือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวยอมรับว่า สำหรับไตรมาส 3 มีผลการดำเนินงานของธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง และยอดสะสม 9 เดือน สิ้นสุดงวดเดียวกันของปี 48 มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น รวมถึงธุรกิจอาคารสำนักงานยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยรายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดินไตรมาส 3 ปีนี้ มีจำนวน 1,483.4 ล้านบาท ลดลง 200.8 ล้านบาท หรือลดลง 11.9% รายได้จากการขายห้องชุดพักอาศัยไม่มีรายได้ รวมบริษัทมีรายได้รวม 1,784.3 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปี 47 อยู่ที่ 1,976 ล้านบาท ลดลง 9.7% ขณะที่งวด 9 เดือน รายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดินเพิ่มขึ้น 14.2% โดยมีจำนวน 4,555.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 567.8 ล้านบาท และมีรายได้รวมทั้ง 9 เดือน อยู่ที่ 5,451.6 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 47 อยู่ที่ 4,788.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 663.1 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลงขึ้น 13.9% เนื่องจากบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการเปิดการขายโครงการใหม่อีก 6 โครงการ

ประกอบด้วย โครงการลัดดารมย์ Elegance เชียงใหม่ ถนนวงแหวน หน้ามหาวิทยาลัยพายัพ ในไตรมาส 2 ของปี 2547, โครงการพฤกษ์ภิรมย์ Regent สุขุมวิท, โครงการพฤกษ์ภิรมย์ สาทร-ธนบุรีตัดใหม่ และโครงการลัดดารมย์เอกมัย-รามอินทรา ในไตรมาส 3 ของปี 2547, โครงการ ลัดดารมย์ วัชรพล ในไตรมาส 2 ของปี 2548 และโครงการลัดดารมย์ Elegance รามคำแหง ในไตรมาส 3 ของที่ผ่านมา ขณะที่กำไรสุทธิช่วง ไตรมาส 3 และยอดสะสม 9 เดือน ลดลงเป็นจำนวนเงิน 112.7 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 33.5% และลดลงเป็นจำนวนเงิน 120.6 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 16.1% ตามลำดับ เนื่องจากยอดรายได้จากธุรกิจขายบ้านพร้อมที่ดินลดลง รวมทั้งบริษัทฯ ได้มีการชำระเบี้ยปรับทางภาษีมูลค่าเพิ่มแก่กรมสรรพากรเป็นจำนวนเงิน 26.4 ล้านบาท และได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากคดีฟ้องร้องในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ของปี 48 เป็นจำนวนเงิน 16.3 ล้านบาท และ 19.4 ล้านบาท ตามลำดับ รวมเป็นเงิน 35.7 ล้านบาท "

รายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดินที่ลดลง จำนวน 200.8 ล้านบาท เนื่องจากภาวการณ์แข่งขันเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ซื้อบ้านพร้อมที่ดินชะลอการซื้อ ขณะที่รายได้จากการขายห้องชุดพักอาศัยที่ลดลง 8.6 ล้านบาท เป็นเพราะบริษัทได้จำหน่ายห้องชุดพัก อาศัยหมดแล้วในปีที่ผ่านมา" นางสุวรรณากล่าว

"ศุภาลัย" สวนกระแสโตยอดขาย-กำไรพุ่ง

นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสนี้เท่ากับ 1,084.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน668.23 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 160.69 % สาเหตุหลักมาจากยอดขายไตรมาส 3 ปีนี้ ไม่รวมโครงการซิตี้โฮม (รัชดาภิเษก) ดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และนอกจากนี้บริษัทฯรับรู้รายได้จากการขายอาคารชุดใหม่ 2 โครงการ ที่ยังสร้างไม่เสร็จตามเกณฑ์การรับรู้รายได้ตามอัตราส่วนของงานที่สำเร็จ

"แม้ว่าราคาวัสดุก่อสร้างจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดปีที่ผ่านมา แต่บริษัทฯ และบริษัทย่อยยังคงนโยบายไม่ปรับราคาบ้านเพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อยลดลง อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นยังคงสูงกว่า 40% อยู่ที่ระดับ 44% ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นางวารุณี กล่าว

สำหรับกำไรสุทธิไตรมาส 3 เท่ากับ 268.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 88.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 203.12% ทำให้มีอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมอยู่ที่ 23.89% และจากผลประกอบการที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่ยืนยันให้เห็นถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่สามารถคงอัตรากำไรขั้นต้น ต่อรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เกิน 40% ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันกับไตรมาสก่อน อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.97 เท่า เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ซึ่งอยู่ที่ 0.88 เท่า ทั้งที่ในปีนี้บริษัทฯ ใช้เงินลงทุนมากขึ้นจากการขึ้นโครงการใหม่หลายโครงการ แต่ภาระหนี้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยสะท้อนให้เห็นถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us