กลุ่มนักค้าอะไหล่รถมือสองย่านปทุมวัน ลงขันผุดโครงการเมืองใหม่ เซียงกง วังน้อย บนพื้นที่กว่า 70 ไร่ ใหญ่ที่สุดในประเภทธุรกิจเซียงกงตั้งแต่มีมาในไทย มูลค่าโครงการสูงกว่าพันล้านบาท เพื่อรองรับธุรกิจเซียงกงที่กำลังเติบโตตามปริมาณรถยนต์ในเมืองไทย และแก้ปัญหาการคมนาคมของลูกค้าที่มาจากภาคเหนือ-อีสาน และความไม่แน่นอนของเซียงกงปทุมวัน จากการถูกจุฬาฯ ไล่ที่ยึดพื้นที่คืน เผยอนาคตเล็งทำเลย่านนครปฐม ผุดเมืองเซียงกงรองรับลูกค้าฝั่งตะวันตกและภาคใต้

นายสมชัย นวสิริธนโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองใหม่ เซียงกง วังน้อย จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องบริษัทฯ มีประสบการณ์ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มากว่า 15 ปี และผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมดเป็นผู้ที่อยู่ในธุรกิจค้าอะไหล่รถยนต์มือสอง หรือเซียงกงย่านปทุมวัน ซึ่งเป็นศูนย์เซียงกงขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุด ทำให้มองเห็นข้อจำกัดของธุรกิจเซียงกงแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งที่แคบ และความไม่สะดวกต่อการคมนาคม

"ที่สำคัญรถยนต์ในเมืองไทยได้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ธุรกิจเซียงกงเติบโตตามไปด้วย ส่งผลให้มีผู้ประกอบการรายใหม่ที่สนใจดำเนินธุรกิจเซียงกงมากขึ้นเช่นกัน แต่ติดปัญหาไม่มีพื้นที่เหลือให้จับจอง ประกอบกับธุรกิจเซียงกงที่ปทุมวันได้เช่าที่ดินของจุฬาฯ แบบปีต่อปี จึงเกิดความไม่แน่นอนในการทำธุรกิจ และทางจุฬาฯ เองก็มีแนวคิดที่จะยกเลิกสัญญาเช่าที่บริเวณดังกล่าวด้วย เหตุนี้บริษัทฯ จึงได้สร้างโครงการเมืองใหม่ เซียงกง วังน้อย ขึ้นมารองรับบนพื้นที่กว่า 70 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่มีพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดของประเภทธุรกิจเซียงกงตั้งแต่มีมา"

ทั้งนี้โครงการเมืองใหม่ เซียงกง วังน้อย ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน กม.ที่ 70.7 บนพื้นที่กว่า 70 ไร่ ใช้เงินลงทุนรวมประมาณกว่า 300 ล้านบาท ก่อสร้างเป็นอาคารพาณิชย์จำนวน 312 ยูนิต มีราคาเริ่มต้นที่ 1.95 ล้านบาท โดยมี 2 ระดับ คือ อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น พร้อมที่ดินเนื้อที่ 17 ตารางวาและอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น พร้อมที่ดินเนื้อที่ 20 ตารางวา และภายในโครงการยังมี มินิแฟกเตอรี(โกดัง) เก็บสินค้าจำนวน 59 ยูนิต เนื้อที่สุทธิ 160 ตารางวา

นายสมชัยกล่าวว่า จุดเด่นของโครงการเมืองใหม่ เซียงกง วังน้อย นับว่ามีรูปแบบที่ทันสมัยที่สุด จากการออกแบบดีไซน์ผังเมืองอย่างทันสมัย โดยมีถนนเมนกว้าง 19 เมตร และถนนซอยกว้าง 16 เมตร เพื่อความสะดวกในการสัญจรภายในโครงการ พร้อมด้วยโทรศัพท์ใยแก้วนำแสงอีก 800 คู่สาย และมีป้ายโครงการขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจนจากถนน ขณะเดียวกันก็มีระบบสิ่งแวดล้อมที่ดี จากการมีระบบบ่อดักน้ำมันเครื่อง พร้อมจัดสร้างสวนหย่อมภายในโครงการฯ ด้วย "

ขณะนี้อาคารพาณิชย์ด้านหน้าโครงการฯ ก่อสร้างเสร็จไปแล้ว 100% ขณะที่ด้านหลังเสร็จประมาณ 50% และคาดว่าโครงการฯ จะเสร็จสมบูรณ์ต้นปี 2550 รวมทั้งโกดังเก็บสินค้า โดยปัจจุบันขายไปได้แล้วประมาณ 50% ได้มีผู้ประกอบการบางรายได้เข้าไปเปิดขายบ้างแล้ว ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ 30 ล้านบาท และในปีหน้าจะรับรู้รายได้มากที่สุด จากมูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท"

สำหรับกลุ่มลูกค้าจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเซียงกง ทั้งจากย่านปทุมวัน บางนา และหลักสี่ ซึ่งกำลังมองหาทำเลร้านแห่งใหม่ เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ที่สำคัญจุดที่ตั้งของโครงการฯ เป็นทำเลที่มีความเหมาะสม ที่ผู้ประกอบการสามารถย่นระยะเข้าไปหาลูกค้ารายย่อย ที่ส่วนใหญ่จะมาจากทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออก นอกจากนี้ยังสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าเครื่องกลการ เกษตรในแถบนั้นได้ด้วย

"หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ ยังมีที่ดินว่างบริเวณข้างๆ อีกประมาณ 70 ไร่ ซึ่งเป็นของกลุ่มผู้ค้าเซียงกงเช่นกัน ที่สามารถนำไป พัฒนาได้อีก ส่วนลูกค้าเซียงกงที่อยู่ย่านตะวันตกและภาคใต้ โดยเฉพาะแถบนครปฐม-ราชบุรี ที่มีกลุ่มลูกค้ารถบรรทุกอยู่มาก ขณะนี้ก็กำลังมีการพูดคุยกันอยู่ว่า จะมีการพัฒนาที่ดินบริเวณนครปฐมเช่นเดียวกับโครงการเมืองใหม่ เซียงกง วังน้อยหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นทำเลที่น่าสนใจอีกแห่งเช่นกัน" นายสมชัยกล่าว