ค่ายชาเขียวละเลงศึกชิงแชร์ช่วง 9 เดือน อัดงบสื่อโฆษณาแหลก 845 ล้านบาท โออิชิเจ้าบุญทุ่มเท งบสูงสุดรักษาบัลลังก์ "ยูนิฟ" ชี้ตลาดชาเขียวอย่างเก่งสิ้นปีนี้มูลค่าแตะ 6,000 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตลาดวูบโตเพียง 20% เล็งคลอดชาเขียวผสมโสมขยายฐานกลุ่มผู้ใหญ่ พร้อมเบนเข็มผลิตน้ำผลไม้ขวดเพ็ท

นายวิริทธิ์พล รันตพรศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่ม ยูนิฟ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน ปีนี้ ค่ายชาเขียวพร้อมดื่ม ใช้งบผ่านสื่อโฆษณา 845 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102% เมื่อเทียบกับปี 2547 โดยแบ่งเป็น โออิชิ 28% ยูนิฟ 20% และ 17% เป็นของเพียวริคุ

โดยเฉพาะในเดือนกันยายนนี้ ใช้ไปถึง 109 ล้านบาท แบ่งเป็น ยูนิฟ 33 ล้านบาท โมชิ 18 ล้านบาท เซนชะ 16.7 ล้านบาท และโออิชิ 15.6 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงตลาดชาเขียว พร้อมดื่มมีการแข่งขันรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งในรอบ เดือนมกราคม-กันยายน ทั้งนี้ ส่วน แบ่งรอบล่าสุดคือ โออิชิมีส่วน แบ่ง 58.7% ยูนิฟ 21.7% เซนชะ 5.8% ลิปตัน 4.1% จากมูลค่าตลาดรวมชาพร้อมดื่ม 5,200 ล้านบาท

"ภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมานี้ มีมูลค่าเพียง 5,200 ล้านบาท และคาดว่าใน สิ้นปีนี้มูลค่าแตะอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท โดยจะไม่ถึง 8,000 ล้านบาทหรือ 10,000 ล้านบาทอย่างที่คาดการณ์ไว้ ตั้งแต่ต้นปีอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เป็นเพราะที่ผ่านมาคนที่บริโภคชาเขียวไม่ได้เกิดจากความต้องการดื่มที่แท้จริง แต่เกิดจากการดื่มเพื่อต้องการของรางวัล อีกทั้งในช่วงนี้ภาครัฐยังเข้มงวดในการทำโปรโมชันของผู้ประกอบการมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถทำโปรโมชัน ได้มากนัก"

นายวิริทธิ์พลกล่าวว่า แนวโน้ม ปีหน้าผู้ประกอบการจะงัดกลยุทธ์ โปรโมชันขึ้นมาแข่งขันน้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเกิดการซื้อซ้ำน้อยลง โดยคาดว่าตลาดจะโต 10-20% ทำให้ในปีหน้าค่ายชาเขียวจะหันมาเน้นการสร้างแบรนด์ ผ่านการสื่อสารในรูปแบบอีโมชันนัล เพื่อสร้างความผูกพัน ความรู้สึกทางจิตใจ หรือแฟนพันธุ์แท้ กับแบรนด์ รวมทั้งมีความเชื่อมั่นใน ตัวแบรนด์ ในขณะที่การสื่อสารในรูปแบบฟังก์ชันนัลหรือประโยชน์ ของชาเขียวจะไม่เน้นมากนัก เพราะ สื่อสารได้ถึงระดับหนึ่งแล้ว

ปีหน้าค่ายชาเขียวพร้อมดื่ม จะมีผู้ที่สนใจลงมาเล่นชาขาวมากขึ้น เพราะเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโต 30% เมื่อเทียบกับชาเขียว โดยปัจจุบัน มีผู้เล่นในตลาด อาทิ เพียวริคุ ยูนิฟเท่านั้น นอกจากนี้ ปีหน้าจะเห็น รสชาติใหม่ๆ และนวัตกรรมใหม่ขึ้น มาแข่งขันกันมากขึ้น รวมทั้งมี แนว โน้มว่าผู้ประกอบการจะเพิ่มบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ทจาก 70% ในปัจจุบันเป็น 80% ในปีหน้า ส่วนบรรจุภัณฑ์ กล่องจาก 30% เหลือ 20%Ž

สำหรับแผนการทำตลาดเพื่อฝ่าวิกฤตชาเขียวพร้อมดื่ม ในปีหน้านี้ยูนิฟเตรียมเปิดตัวรสชาติใหม่ "ชาเขียวผสมโสม" เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายในกลุ่มผู้มีอายุมากหรือในกลุ่มผู้ใหญ่เป็นหลัก และเตรียมเปิดตัวอย่างน้อย 5 รสชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มชาขาวของยูนิฟ พร้อมกันนี้บริษัทฯจะเน้นการสร้างแบรนด์มากขึ้น โดยการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์จะเน้นให้มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งปีหน้าบริษัทฯจะนำ "หนอน" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของยูนิฟกลับมาลงในภาพยนตร์โฆษณาอีกครั้ง

"กลยุทธ์ในการทำตลาดชาเขียว ยังทำได้อีกมาก โดยสามารถทำควบคู่กับในเรื่องของแฟชั่น การจัดคอนเสิร์ต และอื่นๆ แต่ขั้นตอนของ การทำในขณะนี้ ยังคงเป็นเรื่องของการรีมายแบรนด์เป็นหลักมากกว่า"

นายวิริทธิ์พลกล่าวว่า ปีหน้าบริษัทฯจะเปิดตัวน้ำผลไม้ 40% ในบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ทลงสู่ตลาด จากปัจจุบันน้ำผลไม้ยูนิฟมีแต่เฉพาะบรรจุภัณฑ์ชนิดกล่อง ทั้งนี้เนื่อง จากขวดเพ็ทเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโต สูง