แมนูไลฟ์ฯเตรียมรุกธุรกิจประกันชีวิตเต็มสูบ ภายในระยะเวลา 5 ปี เผยอยู่ระหว่างเจรจากลุ่มซิตี้แบงก์ และจีอี ร่วมขายประกันผ่านเครือข่าย พร้อมทั้งเตรียมสร้างตัวแทนหน้าใหม่มืออาชีพอีก 1,000 คน เพื่อเพิ่มยอดขาย ให้กับบริษัท

แหล่งข่าวจากบริษัท แมนูไลฟ์ ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคารพาณิชย์ (แบงก์แอสชัวรันส์ ) ซึ่งปัจจุบันเป็นช่องทางหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทประกันภัย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงิน 2 แห่ง คือ กลุ่มซิตี้ แบงก์ และบริษัท จีอี แคปปิตอล ซึ่งมีทั้งลูกค้าฐานบัตรเครดิตและลูกค้าสินเชื่อบุคคลจำนวนมาก อย่างไรก็ตามคาดว่าจะสามารถสรุปผลดังกล่าวได้ในเร็วๆ นี้

นายปีเตอร์ แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่, CEO บริษัท แมนูไลฟ์ ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สาเหตุที่เข้ามาร่วมงานกับ บริษัท แมนูไลฟ์ ประเทศไทย เพราะมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจประกันชีวิตระยะยาวในประเทศไทย ซึ่งในเครือบริษัทแมนูไลฟ์ได้ดำเนินธุรกิจประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียกว่า 11 ประเทศ มาแล้วกว่า 100 ปี รวมทั้งมีแผนจะระดมทรัพยากรทั้งด้านการเงินและบุคลากร เพื่อให้ขยายธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านบุคลากรจะนำทีมงานจากฮ่องกงเข้ามาช่วยบริหารงานให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น

สำหรับในช่วงปี 2549 บริษัทเตรียมเงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาองค์กรให้ดีขึ้น โดยจะเน้น ด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างทั้งสำนักงานใหญ่และสาขา พร้อมทั้งบริษัทมีแผนจะสร้างตัวแทนที่เป็นมืออาชีพให้ได้ 1,000 คน ภายในระยะเวลา 5 ปี เพื่อให้ตัวแทนดังกล่าวสามารถแนะนำการวางแผนทาง การเงินระยะยาวให้แก่ลูกค้า ขณะที่ช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทจะเน้นการประกันกลุ่มผ่านนายหน้าและตัวแทน รวมทั้งขณะนี้เตรียมเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านแบงก์แอสชัวรันส์

"บริษัทตั้งเป้าจะสร้างตัวแทนที่เป็นมืออาชีพให้ได้ 1,000 คน ภายใน 5 ปี จึงจำเป็นต้องมีการอบรม ทั้งตัวแทนทั้งเก่าและใหม่ให้เข้าสู่ระบบใหม่ ซึ่งในช่วง 5 ปี จะสร้างตัวแทนให้เป็นมืออาชีพและรุกตลาด ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งการฝึกตัวแทนประเทศไทยมีตัวแทนที่ทำงานในลักษณะ Part Time สูง เข้าใจกระบวนการขายดี รวมทั้งมีความขยันในการทำงาน ซึ่งเป็นการสร้างอาชีพและรายได้ที่ดีให้แก่ตัวแทนด้วย"

ส่วนสำนักงานใหญ่และสาขาต่างๆจะมีการปรับปรุงรูปลักษณ์ และลักษณะการทำงานของพนักงานให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยจะเน้นสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพ และยังมีการวางระบบเทคโนโลยี เพื่อรองรับกับระบบของบริษัท แมนูไลฟ์ ทั่วโลก และรองรับการทำงานของทั้งพนักงาน และตัวแทน และในอนาคตจะวางระบบให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วย โดยคาดว่าในช่วงปลายปีหน้าจะสามารถวางระบบดังกล่าวแล้วเสร็จ และหลังจากนั้นจะมีการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะมีการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ประสบความสำเร็จของบริษัทแมนูไลฟ์ เพื่อสนอง ความต้องการลูกค้าที่มีอยู่หลากหลาย

"การขยายตัวของบริษัทขึ้นอยู่ กับการแนะนำสินค้าที่มีคุณภาพและ บริการที่ดีให้แก่ลูกค้าผ่านตัวแทนที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น ปัจจุบันความสามารถของตัวแทนในการขายกรมธรรม์แต่ละประเทศจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเทศนั้นๆ และลักษณะการทำงานของตัวแทนว่าเป็นแบบ Full Time หรือ Part Time ซึ่งในฮ่องกงมีอัตราการขยายตัวของธุรกิจประกันภัยดีที่สุดในประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเฉลี่ยตัวแทนแต่ละคนสามารถขายกรมธรรม์ได้ 30 ฉบับต่อปี”

นอกจากนี้ บริษัทในเครือแมนู ไลฟ์เตรียมจัดประชุมผู้บริหารระดับ ภูมิภาคเอเชียและแคนาดาที่ประเทศ ไทย ซึ่งปกติจะจัดการประชุมนี้ที่ฮ่องกง เพราะเป็นประเทศที่ธุรกิจประกันภัยมีอัตราการขยายตัวที่รวดเร็ว ทั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทแมนูไลฟ์ ไฟแนนเชียล ให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย