|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ดัชนีความเชื่อมั่นในเดือนต.ค.ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังคนไทยคลายความกังวล เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจพ้นช่วงต่ำสุดแล้ว คาดการบริโภคจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้ และเข้าสู่ภาวะปกติกลางปีหน้า
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจประชาชนทั่วประเทศ 2,239 เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจไทยประจำเดือน ต.ค.2548 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่น ทุกรายการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 81.4 จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 79.6 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำเพิ่มเป็น 80.3 จาก 79.0 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับ รายได้ในอนาคต เพิ่มเป็น 98.9 จาก 97.5
ทั้งนี้ ผลจากดัชนีความเชื่อมั่น ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่น ผู้บริโภคเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 86.8 จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 85.4 แต่ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 100 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงไม่มั่นใจในสถานการณ์ต่างๆ อยู่ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยอยู่ระดับ 81.9 เพิ่มขึ้นจาก 81.0 และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ระดับ 86.1 เพิ่มขึ้นจากระดับ 84.3 แสดงว่า ผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นภาวะเศรษฐกิจอนาคตอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยบวกที่ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2548 จาก 3.5-4.5% มาเป็น 4.25-4.75% และยังคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2549 อยู่ที่ระดับ 4.5-6.0% รวมทั้งการส่งออกในเดือนก.ย. ขยายตัวสูงสุดมีมูลค่า 10,328 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.8% ทำให้ไตรมาส 3 การส่งออกไทยมีมูลค่า 29,793 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือขยายตัว 22.7% ดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนก.ย. เกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม โดยเกินดุลประมาณ 876 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ไตรมาส 3 ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1,152 ล้านเหรียญสหรัฐ ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อย โดยสิ้นเดือนก.ย.อยู่ที่ระดับ 40.77 บาท/เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลงในเดือนต.ค. โดยเบนซิน 95 และ 91 ปรับตัวลดลง 1.20 บาท และดีเซลลดลง 40 สตางค์
ส่วนปัจจัยลบที่ยังคงอยู่ เช่น ดัชนีตลาดหุ้นไทยเดือนต.ค. ลดลง 40.61 จุด คณะกรรมการนโยบายการเงินขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรรัฐบาลระยะ 14 วัน อีก 0.5% จาก 3.25% เป็น 3.75% ต่อปี นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังคงมีความกังวลปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่รายได้ปัจจุบันไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงทรงตัว สูงอยู่ และปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต
"ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นทุกรายการเป็นเดือนที่ 2 และดัชนีที่เกี่ยวกับอนาคตดีขึ้น เป็นเดือนที่ 3 สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณหยุดการทรุดตัวลงของความเชื่อมั่นผู้บริโภค และกลับเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น โดยผู้บริโภคเริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์ต่างๆ ไม่ได้แย่ลงไปกว่านี้ และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในอนาคต หากไม่มีปัจจัยเสี่ยงรุนแรงในอนาคต ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในการบริโภค และในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ การบริโภค จะเข้าสู่ภาวะปกติ และเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ขณะที่การลงทุนจะดีขึ้นตามการบริโภคที่เพิ่มขึ้น" นายธนวรรธน์กล่าว
|
|
|
|
|