พรีมาเวสท์ปลื้มยอดขาย "กองทุนปิดพรีมาเวสท์ อินเตอร์เนชั่นแนล บอนด์ คุ้มครองเงินต้น" กองทุน FIF กองแรก เปิดขายหน่วยลงทุน วันเดียวยอดจองเต็มมูลค่า 400 ล้านบาท เผยเตรียมขออนุมัติ ก.ล.ต. เพิ่มวงเงินอีก 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งเป็นกองทุนใหม่ โดยใช้รูปแบบการลงทุนแบบเดียวกัน แต่อายุกองทุนอาจจะยาวขึ้น "เพิ่มพล" ระบุ พันธบัตรรัฐบาลยังขายได้ เพราะเข้าใจง่าย และใกล้เคียงกับการลงทุนในประเทศอยู่แล้ว

นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (ไอพีโอ) สำหรับกองทุนปิดพรีมาเวสท์ อินเตอร์เนชั่นแนล บอนด์ คุ้มครองเงินต้น (PIB) กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ไปเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม โดยมีนักลงทุนจองหน่วยลงทุนเต็มมูลค่า 400 ล้านบาท ตั้งแต่วันแรกที่เปิดขายหน่วยลงทุน

สำหรับสาเหตุที่กองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม นั้น เนื่องจากเป็นการลงทุนเข้าใจง่ายและรูปแบบกองทุนมีลักษณะใกล้เคียงกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่มีอยู่ในประเทศ ตอนนี้ ซึ่งมีการคุ้มครองเงินต้นให้แก่ผู้ลงทุนเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในปัจจุบันด้วย

อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งมาจากช่วงก่อนการเปิดขายหน่วยลงทุน มีการนำเสนอ ข้อมูลการลงทุนของกองทุนดังกล่าวให้แก่ผู้ลงทุนได้รับทราบก่อน ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจและมีการจองหน่วยลงทุนไว้ล่วงหน้า ส่งผลทำให้การเปิดขายหน่วยลงทุนวันแรกมียอดจองเข้ามาเต็มมูลค่า 400 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งผู้ลงทุนรายสถาบันและรายย่อย

ทั้งนี้ การที่กองทุนปิดพรีมาเวสท์ อินเตอร์เนชั่นแนล บอนด์ คุ้มครองเงินต้น สามารถระดมทุนได้เต็มมูลค่า 400 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเกิน 75% ของมูลค่ากองทุนทั้งหมด ซึ่งตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุญาตให้กองทุนสามารถขออนุมัติเพิ่มวงเงินจาก 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้อีก 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะขอวงเงินดังกล่าวเพิ่ม โดยจะนำมาจัดตั้งเป็นกองทุนใหม่ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันกับกองทุนปิดพรีมาเวสท์ อินเตอร์ เนชั่นแนล บอนด์ คุ้มครองเงินต้น แต่อาจจะมีอายุกองทุนที่ยาวมากกว่า

นายเพิ่มพลกล่าวว่า กองทุนปิดพรีมาเวสท์ อินเตอร์เนชั่นแนล บอนด์ คุ้มครองเงินต้น เป็นกองทุนที่เข้าไปลงทุน โดยตรงในพันธบัตรรัฐบาลเฉพาะภูมิภาคเอเชียเท่านั้น โดยจะมีผู้จัดการกองทุนของพรีมาเวสท์เป็นผู้บริหารจัดการ ซึ่งจะเลือกลงทุนในพันธบัตรที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แล้วแปลงมาเป็นผลตอบแทนในรูปเงินบาท ซึ่งในการป้องกันความเสี่ยงในเรื่อง ของอัตราแลกเปลี่ยนนั้น กองทุนมีการทำสัญญากับธนาคารพาณิชย์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเรื่องดังกล่าวด้วย

"ภาวะการลงทุนในช่วงนี้ การลงทุนในตรา สารหนี้ยังอยู่ในความสนใจของนักลงทุนอยู่ ซึ่งการลงทุนในหุ้นแน่นอนว่าผลตอบแทนอาจจะมากกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงมากเช่นกัน ในขณะที่ การลงทุนในตรา สารหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลนั้นมีความเสี่ยงน้อยกว่า และด้วยตัวของมันเองเป็นการลงทุนที่เข้าใจได้ง่าย ซึ่งกองทุนนี้เรามีสินค้าที่จะเข้าไปลงทุนเรียบร้อยแล้ว" นายเพิ่มพลกล่าว

สำหรับกองทุนปิดพรีมาเวสท์ อินเตอร์เนชั่นแนล บอนด์ คุ้มครองเงินต้น (PIB) เป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (foreign investment fund) ประเภทคุ้มครองเงินต้น โดยกองทุนจะนำเงินที่ได้ จากการจำหน่ายหน่วยลงทุนในประเทศ ไปลงทุนใน พันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลไทยที่เสนอขายในต่างประเทศ และ/หรือพันธบัตรภาครัฐ และ/หรือรัฐวิสาหกิจต่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยมีมูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท อายุโครงการ ประมาณ 1 ปี 5 เดือน

โดยนโยบายการลงทุนของกองทุนดังกล่าว จะเน้นลงทุนในพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลไทยที่เสนอขายในต่างประเทศ และ/หรือพันธบัตรภาครัฐ และ/หรือรัฐวิสาหกิจต่างประเทศที่มีอายุเฉลี่ยใกล้เคียงกับอายุกองทุน ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ กองทุนรวม ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองเงินลงทุนเริ่มแรกตามมูลค่าที่ตราไว้ 10.00 บาทต่อหน่วย ในกรณีที่เป็นการ ลงทุนในพันธบัตรต่างประเทศ กองทุนอาจจะลงทุนในพันธบัตรที่รัฐบาลต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ หรือรัฐวิสาหกิจตาม กฎหมายต่างประเทศ เป็นผู้ออก ซึ่งพันธบัตรดังกล่าวต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) จากสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงาน ก.ล.ต.