แคลิฟอร์เนียว้าว เหนือจองท่ามกลางตลาดหุ้นซึม เพิ่มขึ้น 2.5% จากราคาจอง 6 บาท ส่วนภาพรวมนักลงทุนยังไม่มั่นใจต่างชาติหลังค่าเงินบาทอ่อน "ก้องเกียรติ" เชื่อ หุ้นเข้าตลท.ท้ายปีจำนวนมากไม่ส่งผล กระทบ เพราะพฤติกรรมนักลงทุนเปลี่ยนเน้นเล่นระยะสั้น
ภาวการณ์ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯวานนี้ (8 พ.ย.) ดัชนีปิดที่ 695.60 จุด ลดลง 5.15 จุด หรือ 0.73% มูลค่าการซื้อขาย 11,362.37 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 16.54 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 256.86 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 240.33 ล้านบาท

นางสาววิริยา ลาภพรหมรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. เกียรตินาคิน กล่าวว่า การ ปรับลดลงของดัชนีวานนี้ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติในช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง และการลดลงของราคาหุ้น บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) ซึ่งมูลค่าการซื้อขายสูงสุด จาก กรณี บล.เพื่อธุรกิจ หลักทรัพย์ (TSFC) ให้งดการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหุ้น (มาร์จิ้น) ทุกโบรกฯ ตั้งแต่วันนี้ (8 พ.ย.) การซื้อหุ้นต้องใช้เงินสด 100%

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยยังคงต้องรอ ปัจจัยใหม่ในเชิงบวกเข้ามากระตุ้น โดยคาดว่าในช่วงสัปดาห์นี้ดัชนีจะปรับฐานในเชิงลบต่อเนื่อง โดยมองกรอบการลงทุนอยู่ที่ 690-700 จุด โดย ข่าวที่อาจจะหนุนหุ้นเป็นรายตัวคือผล ดำเนินงานไตรมาส3/48 หากผลงานดีกว่าที่โบรกฯประเมินก็จะส่งในเชิงบวกกับราคาหุ้นได้

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ กล่าวว่า ดีใจที่ราคาหุ้นของ CAWOW ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองได้ ซึ่ง ธุรกิจการออกกำลังกายนั้นก็อยู่ในช่วง ของการเติบโตที่ดี และจะมีการขยายสาขาอีก ประมาณ 3 สาขาในปีหน้า โดยจะเป็นการเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯให้หันมาออกกำลังกายมากขึ้น

ส่วนที่เดือนนี้จะมีหุ้นใหม่จำนวน มากเข้า ตลท.คาดว่าจะไม่มีผลกระทบ เรื่องเม็ดเงินซื้อหุ้น เพราะผู้ลงทุนถือเงินสดจำนวนมาก และระยะเวลาจอง กับเข้าซื้อขายก็สั้นลงไม่ถึง 2 อาทิตย์ การลงทุนอยากให้นักลงทุนมองที่ธุรกิจของบริษัท การเติบโตของบริษัท และตัวผู้บริหาร ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญมากกว่า

สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทยอีก 2 เดือนจากนี้ คาดว่าจะมีการปรับตัวเพิ่ม ขึ้นได้ จากราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวลด ลง ส่วนเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นนั้นนักลงทุนก็รับทราบแล้ว ส่วนไข้หวัดนกนักลงทุนมีความกังวลบ้าง แต่ คาดว่าจะควบคุมได้ และ เศรษฐกิจโลกก็ยังแข็งแรงดีสามารถทนแรงเสียดทานจาก ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ ได้

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJORในฐานะผู้ถือหุ้น CAWOW เปิดเผยว่า พอใจราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่ม ขึ้นสูงกว่าราคาจองได้ และปริมาณการซื้อขายวันนี้ก็หนาแน่น แสดงว่านักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อจำนวน มาก ซึ่งนักลงทุนควรที่จะมีการลงทุน ในระยะกลางถึงยาวจะได้รับผลตอบแทนที่ดีเพราะธุรกิจของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตที่ดี

บริษัทคาดว่า CAWOW จะมีรายได้ปีนี้ 800 ล้านบาทจากการเปิดสาขา คาดว่าปี 49 จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 50% จาก ปี 48 เพราะบริษัทได้มีการเปิดสาขาเพิ่ม เช่น ที่แจ้งวัฒนะ สยามพารากอน รัชดา เอกมัน สีลม ฯลฯ โดยเพียงไตรมาส 3/48 เพียงไตรมาสเดียวก็มีกำไรถึง 20 ล้านบาท และคาดว่าไตรมาสที่ 4 บริษัทน่าจะทำกำไรได้มาก กว่า 10 ล้านบาท โดยในปีนี้ MAJOR จะรับรู้กำไรจาก CAWOW มากกว่า 8 ล้านบาท

ด้านราคาหุ้นปิดที่ 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 2.5% จากราคา จอง 6 บาท มูลค่าการซื้อขาย 763.82 ล้านบาท