Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 พฤศจิกายน 2548
30 หุ้นใหม่เทรดดิ้งโค้สุดท้ย"กิตติรัตน์"ชะลอย้ายทีพีไอพ้นกลุ่มรีแฮบฯ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Stock Exchange




ตลาดหลักทรัพย์ฯเผย 2 เดือนสุดท้าย ปี 49 หุ้นใหม่จะเข้าซื้อขาย 30 บริษัท เดือนพ.ย. 9 บริษัท ธ.ค. 21 บริษัท มั่นใจเพิ่มนักลงทุนหน้าใหม่ 5 หมื่นราย ไม่รวมรายย่อยที่จะจองหุ้น กฟผ. ยันไร้ปัญหาเม็ดเงิน เหตุ สถาบันทั้งในประเทศ-ต่างประเทศมีเงิน "กิตติรัตน์" ชะลอย้ายหุ้นทีพีไอออกจากรีแฮบฯถึงแม้มีกำไรตามเกณฑ์ เหตุยังมีความขัดแย้งในแผนฟื้นฟูฯ เป็นปัจจัยเสี่ยงได้ พร้อมจะเสนอบอร์ดไม่ยกเลิกหมวดรีแฮบโก

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าจากขณะนี้ถึงสิ้นปี 2548 จะมีบริษัทเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) จำนวน 30 บริษัท แบ่งเป็น 9 บริษัทที่เข้าซื้อขายในเดือนพ.ย. และอีก 21 บริษัทเข้าซื้อขายในเดือน ธ.ค. แต่มีอีกประมาณ 10 บริษัทซึ่งเตรียมตัวเสร็จแล้วแต่ขายไม่ทัน

ทั้งนี้ การที่มีหุ้นเข้ามาจดทะเบียนจำนวนมากนั้นจะทำให้เพิ่มนักลงทุนรายใหม่ที่ยังไม่มีการออมในตลาดหุ้นจำนวน 50,000 ราย ซึ่งไม่รวมนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนใน หุ้น กฟผ. เพราะหุ้นทั้ง 30 บริษัทนั้นอยู่ในหลายธุรกิจและมีบุคคลที่คุ้นเคยกับบริษัทและมั่นใจการบริหารเข้ามาลงทุนรวมถึงพนักงาน ของบริษัทต่างๆ สำหรับช่วงดังกล่าว มีหุ้นเข้ามากระจุกตัวมากหน่อย อาจมีบางวันที่จะต้องรับหุ้นใหม่ 2 บริษัทแต่นักลงทุนสถาบันก็ทราบข้อมูลดังกล่าวแล้วและก็เตรียมเงินสดที่จะซื้อหุ้นแล้วโดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งก็เป็นคำอธิบายว่าในช่วงเดือนตุลาคมที่ราคาหุ้น มีการปรับตัวลดลงมา เพราะนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า "ในวันนี้จะมีการหารือกับเจ้าหน้าที่ ฝ่ายกำกับบริษัทจดทะเบียนกรณีของบริษัทอุตสาหกรรม ปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPI ว่าจะยังไม่มีการย้ายกลับมาซื้อขายหุ้นในหมวด ปกติ เนื่องจาก TPI ยังมีความขัดแย้งภายในเกี่ยวกับ การ บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ เพราะการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะการย้ายบริษัทที่อยู่ในหมวดรีแฮบโกนั้นไม่ได้พิจารณาจากกำไรเท่านั้น แต่ยังพิจารณาเกี่ยวกับความมั่นคงถาวรการบริหารจัดการดังนั้นจึงถือว่า เป็นความเสี่ยงอาจเป็นผลดีในอนาคต "

TPI นั้นยังมีความขัดแย้ง ระหว่าง ผู้บริหารแผน ลูกหนี้ และเจ้าหนี้ ดังนั้นหากย้ายกลับสู่หมวด ปกติก็จะทำให้มีความเสี่ยงต่อนักลงทุนได้ ดังนั้น ตลท.จึงขอความร่วมมือให้อยู่ในหมวดรีแฮบต่อไป แต่ก็จะมีการซื้อขายตามปกติ หาก TPI ออกจากแผน ได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีหรือจะต้องมีความชัดเจนว่าไม่มีความขัดแย้งในแผนฟื้นฟูกิจการก็สามารถที่จะย้ายออกจากหมวดรีแฮบโกได้โดยบริษัท TPI ถือว่าเป็นกิจการที่มีอัตราการเติบโตกำไร ที่มั่นคงต่อเนื่องซึ่งบริษัทที่จะออกจากรีแฮบโกในข้อบังคับของตลท.ก็จะพิจารณาด้านความมั่นคงด้วยเช่นกัน

สำหรับในการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์(บอร์ด)ครั้งต่อไปภายในปีนี้จะมีการเสนอ เรื่องผ่อนปรนที่จะยังไม่มีการยุบหมวดรีแฮบโก เนื่องจากมีบริษัทที่รอเรื่องผลประกอบการประเด็นเดียวจึงจะสามารถกลับมาซื้อขายหมวดปกติได้จึงมองว่าเป็นเหตุผลที่ดีที่จะมีการผ่อนปรน เพราะความ คิดที่จะมีการยกเลิกหมวดรีแฮบโก ในเดือนมี.ค. 2549 นั้นมีมาตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจดีมากโดยที่ไม่มีบริษัทไหนที่จะรอเรื่องผลประกอบการ

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กิมเอ็ง จำกัด(มหาชน) หรือ KEST กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนของ บมจ. กฟผ.น่าจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ตลาดหุ้นไทยเนื่องจาก กฟผ.เป็นหุ้นที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ประมาณ 5% ของมาร์เกตแคปรวมโดยการกระจายหุ้นครั้งนี้น่าจะดึงกองทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้อีกมาก โดยราคาหุ้น กฟผ. จะมีความเคลื่อนไหวไม่หวือหวาหรือผันผวนมาก แต่จะมี เสถียรภาพและให้ผลตอบแทนที่มั่นคง เพราะรายได้ ของ กฟผ.จะมีการเติบโตที่มั่นคงไม่ค่อยผันผวน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us