|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แบงก์ทหารไทย เปิดเกมรุกธุรกิจครบวงจรหลังรีแบรนดิ้ง เปลี่ยนโลโก้ ปรับรูปโฉมที่โดดเด่น วางจุดแข็งอยู่ที่ฐานลูกค้า สอดคล้องกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การเงินรูปแบบใหม่ ประกาศปีหน้าพร้อมขยายฐานธุรกิจก้าวกระโดด เพิ่มมาร์เกตแชร์ สินเชื่อเป็น 11-12% วางกลยุทธ์เพิ่มทุนอีก 3 ปีข้างหน้า
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB กล่าวถึง การปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กร (รีแบรนดิ้ง) หลังจากการรวมกับสถาบันการเงินอีก 2 แห่ง คือ ธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ จำกัด (มหาชน) และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ว่า ทำให้เกิดความพร้อมในการที่จะให้บริการทางการเงินที่ครบวงจรกับลูกค้าในทุกรูปแบบ ธนาคารจึงได้ดึงเอาจุดเด่นของแต่ละสถาบันมารวมกำหนดเป็นภาพลักษณ์ใหม่ที่เหมาะสมกับธนาคาร
"ธนาคารกำหนดวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งสู่ความเป็นเลิศ ในฐานะผู้บริการทางการเงินที่เป็นที่ยกย่องชื่นชมของภาครัฐ เอกชน กลุ่มธุรกิจขนาดต่างๆ รวมถึงลูกค้ารายย่อย รวมทั้ง ได้กำหนดจุดยืนที่จะเป็นผู้ให้บริการทางการเงิน ที่มั่นคงและฉับไว พร้อมเคียงข้างประชาชนเป็น ผู้ช่วยและสนับสนุนเสมือนผู้ร่วมคิดร่วมทำ"
พร้อมกันนี้ ธนาคารได้กำหนดแผนในระยะยาว 3 ปี ธนาคารจะมีการระดมทุนด้วยการเพิ่มทุน และการปรับตำแหน่งของธนาคาร โดยธนาคารจะอาศัยจุดแข็งหลังจากที่มีการควบ รวมกิจการคือ ฐานลูกค้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ถึง 4 ล้านบัญชี และผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง ซึ่งใน ปีหน้าธนาคารจะปรับปรุงในส่วนของสาขาให้มากขึ้น
"การรีแบรนดิ้งในครั้งนี้ เราพร้อมที่จะปรับตัว โดยเป็นตัวกลางในการบริการลูกค้า สร้างคุณค่าให้ลูกค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น ความหมายคือต้องไปด้วยกัน ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพิ่งเริ่ม แต่เป็นการตอกย้ำ เพราะยังมีอะไรที่ต้องทำอีกมาก โดยปีหน้าธนาคารตั้งเป้าให้ธนาคารมีส่วนแบ่งการตลาดด้านสินเชื่อทั่วไปที่ 11-12%" นายสุภัค กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2548 นั้น นายสุภัค กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าอัตราการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 6% หรือมูลค่ารวมประมาณ 30,000 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 6-7% หรือประมาณ 40,000 ล้านบาทในปี 2549 ซึ่งคาดว่าธุรกิจสินเชื่อที่จะโตมาก ในปี 2549 ที่จะเป็นปีแห่งการขยายฐานลูกค้า คือ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเคหะฯ และเอสเอ็มอี ทั้งนี้ ภายในปี 2549 ธนาคารยังมีการเพิ่มจำนวนตู้เอทีเอ็ม อีก 500 ตู้
นอกจากนี้ ธนาคารได้เปลี่ยนโลโกใหม่ที่เกิดจากแนวคิดหลักที่สะท้อนถึงการผสมผสานเป็นหนึ่ง เดียวกัน อันเกิดจากการรวมกิจการของธนาคาร โดย สัญลักษณ์ใหม่ได้สะท้อนถึงความเป็น Universal Bank ในระดับสากล โดยอักษร T มาจากคำว่า Team คือ ร่วมคิดร่วมทำ M คือ Mutual หมายถึง การร่วมมือร่วมก้าวไปด้วยกัน และ B คือ Benefit ผลประโยชน์สูงสุด
"ความหมายรวมคือ TMB เป็นสถาบันการเงินที่มีพลังในการทำงานร่วมกัน พร้อมสโลแกนใหม่ TMB ร่วมคิด เพื่อทุกก้าวของชีวิต โดยจุดที่เกิดขึ้นใหม่ 2 จุดนั้นแสดงถึงลักษณะคนจับมือกัน จูงมือก้าวไปด้วยกัน คือประชาชนก้าวไปพร้อมๆกับธนาคาร"
ทั้งนี้ ยังได้มีการปรับปรุงรูปแบบสาขาใหม่ทั้งหมด ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ รวมถึงพนักงาน ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และมีอิเล็กทรอนิกส์แบงกิ้ง โดยภายในสิ้นปีคาดว่าธนาคารมีการปรับปรุงเสร็จสิ้นทั้งหมด 45 สาขา จากจำนวนทั้งหมด 435 สาขาทั่วประเทศ โดยการปรับปรุงสาขาดังกล่าวใช้งบในการลงทุน 1,400 ล้านบาท จากบัญชีรับรู้รายจ่าย 10 ปี
|
|
|
|
|