นิตยสาร House & Garden ฉบับเดือนกันยายน พูดถึงการปลูกต้นไม้ตามจันทรคติ
(moon planting หรือ lunar planting) ว่า เป็นเทคนิค การทำสวนที่ใช้ระยะต่างๆ
ของ ดวงจันทร์ และราศีตามจักรราศีในการทำให้สวนต้นไม้เจริญงอกงามให้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ
อย่างที่ทราบกันแล้วว่า ดวงจันทร์มีอิทธิพลอย่างสูงต่อปรากฏ การณ์ทางธรรมชาติมากมาย
ตั้งแต่น้ำขึ้นน้ำลงไปจนถึงปริมาณของของ เหลวในร่างกายของคนเรา และยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ด้วย
เมื่อดวงจันทร์อยู่ในระยะข้างขึ้น แสงจันทร์ที่ส่องสว่างเพิ่มขึ้นจะมีอิทธิพลต่อการกระตุ้นให้ใบไม้เจริญ
งอกงาม ขณะที่ดวงจันทร์ข้างแรมซึ่งส่องสว่างอ่อนลงจะกระตุ้นให้รากของต้นไม้เจริญเติบโต
การปลูกต้นไม้ตามจันทรคติ (moon planting) เป็นเทคนิคที่เหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับออสเตรเลีย
เพราะชาวสวนของที่นั่นต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกอยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็นกระแสลมจากฝั่งทะเลที่มีความเค็ม ดินทราย หรืออากาศร้อนแห้งแล้งสำหรับผืนแผ่นดินที่อยู่ลึกเข้าไป
การปลูกต้นไม้ตามจันทรคติจึงช่วยชาวสวนรับมือกับสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกได้เป็นอย่างดี
ดวงจันทร์ในระยะข้างขึ้น จะมีแสงจันทร์สว่างขึ้นและให้พลังในการเคลื่อนขึ้นสู่เบื้องบน
จึงเป็นระยะเวลาเหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกต้นไม้ประเภทผลไม้หรือไม้ดอกที่ให้ผลผลิตเหนือผิวดิน
ขณะที่ดวงจันทร์ระยะข้างแรม จะให้แสงอ่อนลงและให้พลัง ในการเคลื่อนลงสู่เบื้องล่าง
จึงเป็นระยะเวลาเหมาะสมที่สุดในการปลูกพืชที่เจริญเติบโตใต้ผิวดินหรือไม้ยืนต้น
เพราะพลังที่เคลื่อนสู่เบื้องล่างนี้จะไปกระตุ้นให้รากต้นไม้แข็งแรงงอกงามดี
การที่ดวงจันทร์ใช้เวลา 28 วัน ในการโคจรรอบโลกครบหนึ่งรอบ จึงจัดตารางการทำสวนตามระยะต่างๆ
ของดวงจันทร์ ดังนี้
ระยะข้างขึ้นอ่อนๆ และขึ้น 8 ค่ำ (ตรงกับวันที่ 1-7 และ 8-14 ของวงโคจรหนึ่งรอบ)
ให้เพาะเมล็ดหรือปลูกพืชที่เติบโตเหนือผิวดินประเภทไม้ล้มลุก ไม้ยืนต้น และผัก
เช่น หน่อไม้ฝรั่ง กะหล่ำปลี ขึ้นฉ่าย ผักโขม มะเขือเทศ
ระยะวันเพ็ญ 15 ค่ำ (ตรงกับวันที่ 15-21 ของวงโคจรหนึ่งรอบ) ให้เพาะเมล็ดหรือปลูกพืชที่เติบโตใต้ผิวดินหรือจะเติบโต
ให้ผลผลิตในปีต่อไป นอกจากนี้ก็เป็นผักประเภทหัว เช่น มันฝรั่ง หัวบีท (beetroot)
หอมหัวใหญ่ และแครอท
ระยะแรม 14 ค่ำ (ตรงกับวันที่ 22-28 ของวงโคจรหนึ่งรอบ) ให้กำจัดวัชพืช
ลงปุ๋ย คลุมรากต้นไม้ เล็มต้นไม้ และ หยุดพัก
Ute York จึงให้หลักง่ายๆ ในหนังสือ "Living by the Moon" ที่เธอเขียนไว้ว่า
ชาวสวนสมัยโบราณสอนกันต่อๆ มาว่า ในระยะข้างขึ้นของดวงจันทร์ โลกจะหายใจออก
เมื่อน้ำหล่อเลี้ยงต้นไม้พุ่งขึ้นเบื้องบน พลังที่เกิดขึ้นจะเคลื่อนไปก่อให้เกิดการเจริญเติบโตที่บริเวณเหนือพื้นผิวดิน
จึงควรทำกิจกรรมทุกอย่างที่ให้ผลผลิตเหนือผิวดิน
ในระยะข้างแรมของดวงจันทร์ โลกจะหายใจเข้า น้ำหล่อเลี้ยงต้นไม้ก็จะไหลลงไปที่ราก
จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการปลูกพืชให้ผลผลิตประเภทหัว (ราก) การเก็บเกี่ยวผลผลิต
การเล็มต้นไม้ การกำจัดวัชพืช และศัตรูพืช