|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
จัดสรรท้องถิ่นโอดผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลาง โดดลงทุนอสังหาฯ ย่านพระราม2 แย่งส่วนแบ่งตลาด 10-15% เหตุรายใหญ่แบรนด์แข็ง-ต้นทุนต่ำ ด้าน"มหาชัยฯ"ชูจุดขายเป็นเจ้าถิ่นรู้จักลูกค้าดี ระบุยอดขายปี 48 ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ ลุยแตกไลน์ธุรกิจใหม่สร้างรายได้ระยะยาว เล็งยึดปราณบุรี ผุดบูติก รีสอร์ท 700 ไร่ มูลค่า 300 ล้านปีหน้า
บริษัท มหาชัยเมืองทอง บ้านและที่ดิน จำกัด เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในย่านพระราม 2 มานานนับสิบปี และถือเป็นเจ้าถิ่นในย่านนี้รายหนึ่ง โดยสุชาติ ปัญญาสาคร กรรมการบริหาร กล่าวว่า ในอดีต บริเวณพระราม 2 มีการลงทุนโครงการบ้านจัดสรรไม่มากนัก ส่วนใหญ่การลงทุนโครงการจะเป็นการลงทุนโดยนักลงทุนท้องถิ่น
แต่ในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางหลายรายโดดเข้ามาลงทุนในย่านพระราม 2 จำนวนมาก เนื่องจากบริเวณพระราม 2 เป็นทำเลที่มีศักยภาพค่อนข้างสูง การเดินทางสะดวกสามารถเดินทางเข้าตัวเมืองและออกต่างจังหวัดได้ง่าย ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาลงทุนในย่านดังกล่าว ส่งผลให้ปัจจุบันการแข่งขันในย่านนี้สูงขึ้น
"นับตั้งแต่มีรายใหญ่เข้ามาลงทุน ทำให้ย่านพระราม2 มีโครงการบ้านจัดสรรเกิดขึ้นมากกว่า 30 แห่ง แบ่งเป็นการลงทุนของรายใหญ่มากกว่า 10 แห่ง หรือคิดเป็นราว 30% และอีกราว 20 แห่ง หรือราว 70% เป็นการลงทุนของท้องถิ่น"
จากการขยายการลงทุนของผู้ประกอบการรายใหญ่สู่พื้นที่ในย่านพระราม 2 ประกอบกับปัจจัยลบที่เกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันและวัสดุก่อสร้าง ส่งผลกระทบให้บริษัท มหาชัยฯสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 10-15% เนื่องจากรายใหญ่มีจุดขายด้านแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และมีต้นทุนการดำเนินงานต่ำ ทำให้สามารถจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายได้ทุกรูปแบบ ทั้งลด แลก แจก แถม โดยให้ส่วนลดและมูลค่าโปรโมชั่นเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ราคาขายอยู่ในระดับคงที่ เพราะไม่สามารถปรับขึ้นได้ เนื่องจากการแข่งขันสูง
ส่วนแบ่งตลาดหด10-15%
นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบให้ยอดขายของบริษัทหดตัวลงประมาณ 10% แต่เชื่อว่าสิ้นปีนี้ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการตลาด และรู้ถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ประกอบกับบริษัทมีต้นทุนที่ดินต่ำ เพราะได้ซื้อที่ดินไว้ตั้งแต่ปี 37 ทำให้สามารถแข่งขันกับรายใหญ่ได้
"โครงการจัดสรรในย่านพระราม2 ที่ลงทุนโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ส่วนมากเจาะตลาดระดับเดียวกับบริษัท ทั้งราคาขายและกลุ่มเป้าหมายที่เน้นลูกค้าในพื้นที่ประมาณ 90% นอกจากนี้บางโครงการเจาะกลุ่มเป้าหมายแตกต่างจากบริษัท โดยเน้นกลุ่มลูกค้าย่านสาทร และฝั่งธนฯเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ในขณะที่บริษัทเน้นลูกค้าในพื้นที่ ทำให้มั่นใจว่ามีศักยภาพเพียงพอในการแข่งขัน ซึ่งคาดว่านักลงทุนกลุ่มใหม่ๆ น่าจะชะลอการลงทุนในปีหน้าหากภาวะเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงชะลอตัว"
ในอนาคตบริษัทมีนโยบายขยายการลงทุนพัฒนาโครงการในทำเลใหม่ย่านพระราม2 และบางนาสุวรรณภูมิ โดยเน้นการลงทุนโครงการประเภทบ้านเดี่ยว ขนาดพื้นที่ลงทุนไม่เกิน 80 ไร่ต่อโครงการ มูลค่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มลงทุนในปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน
สุชาติ กล่าวอีกว่า บริษัทมีที่ดินสะสมในย่านเอกชัย และธนบุรี-ปากท่อ 400-500 ไร่ แต่ยังไม่มีแผนลงทุนในขณะนี้ โดยปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างเปิดการขาย 3 แห่ง ในย่านพระราม2 ประกอบด้วย 1.มหาชัยเมืองทอง เป็นบ้านเดี่ยว ราคา 3-9 ล้านบาท จำนวน 890 ยูนิต บนพื้นที่ 403 ไร่ มียอดขายแล้ว 95% 2.มหาชัยเมืองทอง ดิ อีเดน บ้านเดี่ยว ราคา 4-9 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 80 ไร่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท มียอดขาย 35% และ 3.รินรดา ซึ่งพัฒนาภายใต้บริษัทในเครือ เป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ราคา 1.8-2 ล้านบาท บนเนื้อที่ 40 ไร่ มียอดขายแล้ว 20-30%
|
|
|
|
|