ที่ปรึกษาการเงินแทคชี้เล็งกระจายหุ้นภายในปีหน้ากำหนดราคาจองอิงกับราคาที่เทรดในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ชี้การเป็นบริษัทที่ซื้อขายในต่างประเทศได้รับความสนใจไม่มากนักเมื่อเทียบกับกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดของไทย

แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินหุ้นบริษัทโทเทิ่ลแอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TAC เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าจดทะเบียน แต่จากการที่ทางการได้กำหนดขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจึงทำให้สามารถที่จะกระจายหุ้นได้ภายในปีหน้า

ทั้งนี้ การที่แทคเป็นบริษัทจดทะเบียนทั้ง 2 ตลาด คือ ไทย และสิงคโปร์จะทำให้ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของทั้ง 2 ตลาดซึ่งถือว่าลำบากกว่าบริษัทจดทะเบียนทั่วไปในส่วนของราคาที่จะเสนอ ขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปนั้นคาดว่าจะต้องอิงกับราคาหุ้นแทคที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันนี้ราคาหุ้นแทคซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ 3.20 เหรียญสิงคโปร์ ซึ่งมีค่าพี/อี เรโชประมาณ 15-16 เท่า

“ขณะนี้บล.ไทยพาณิชย์อยู่ระหว่างจัดเตรียม ข้อมูลที่จะยื่นแบบรายการแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. จะใช้ระยะเวลาพิจารณา โดยหลังจากที่ให้ความเห็นชอบก็จะมีเวลาเสนอขายหุ้นได้อีก 6 เดือน และหากถึงระยะเวลานั้น สภาพตลาดหุ้นยัง ไม่เอื้ออำนวย ก็สามารถที่จะขยายระยะเวลา ได้อีก 6 เดือน” แหล่ง ข่าวจากบล.ไทยพาณิชย์ กล่าว

แทคต้องการเข้ามาจดทะเบียนในไทย เนื่องจากการเป็นบริษัทของไทยในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดังนั้นความสนใจในตลาดหุ้นต่างประเทศ อาจจะน้อยกว่าเมื่อเข้ามาจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ไทย และการเป็นบริษัทจดทะเบียนก็ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี รวมถึงบริษัทสามารถนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยาย กิจการเพิ่มขึ้นได้

แหล่งข่าว กล่าวต่อว่า จำนวนหุ้นที่จะเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปในครั้งนี้จะต้องรอผลการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) จากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เสียก่อน หลังจากที่บริษัทยูไนเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UCOM ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ รวมถึงจะต้องพิจารณาในแง่ของฟรีโฟลตของหุ้นอีกด้วย

อนึ่ง วานนี้ (2 พ.ย.) คณะกรรมการของ บริษัท UCOMได้มีการประชุม ซึ่งมีวาระพิจารณาจะนำบริษัทฯยังจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ฯต่อไปหรือไม่ รวมถึงทิศทางการดำเนินงานต่อไปรวมถึงการตัดสินใจที่จะนำบริษัทแทคเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย