|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ปรีชา" ขีดเส้น 1 เดือน ให้โออิชิพิจารณาปรับลดราคาชาเขียว ขู่ซ้ำ หากลดไม่ได้ไม่เป็นไร แต่อาจเสนอให้เป็นสินค้าควบคุมหากเห็นว่าค้ากำไรเกินจริง เสี่ยตันโอดยอดขายร่วงแล้ว 50% หลังมีข่าวถูกบีบลดราคา ส่วนจะปรับลดราคาได้หรือไม่ขอไปดูก่อน โตเซนฟุ้งลดราคาเหลือ 15 บาทยอดขายเพิ่มขึ้น 4% ขณะที่โมชิเตรียมหั่นราคาเหลือ 15 บาทเช่นกัน
นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เข้าพบเพื่อชี้แจงต้นทุนในการผลิตชาเขียวโออิชิที่ตั้งราคาจำหน่ายขวดละ 20 บาท เมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากทางกระทรวงฯได้ขอความ ร่วมมือให้มีการปรับลดราคาลงมา เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าราคาที่จำหน่ายขวดละ 20 บาทนั้นสูงเกินไป โดยแจ้งว่ามีเวลาให้ 1 เดือนที่จะให้คำตอบกลับมา ซึ่งนายตันได้รับข้อเสนอไปพิจารณาแล้ว
"ผมบอกไปว่า ถ้าลดราคาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพบว่ามีการเอากำไร เกินควรผมจะเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณาให้นำเข้ามาอยู่ในบัญชีควบคุม และเมื่ออยู่ในบัญชีควบคุม แล้วจะมีมาตรการออกมาบังคับใช้ทำ ให้การจะตั้งราคาจำหน่าย การเคลื่อนย้ายสินค้า วัตถุดิบจะต้องแจ้ง และต้องได้รับความเห็นชอบก่อน" นายปรีชากล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในระหว่างการหารือนั้น นายตันได้ยืนยันว่าไม่สามารถลดราคาลงมาได้ เนื่องจากหากลดราคาลง จะขาดทุนทันที ซึ่งนายปรีชาได้โต้แย้งว่า ที่ผ่านมาบริษัทไม่ต้องเสียภาษีต่างๆ เนื่อง จากได้รับการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และระบุอีกว่า ขณะนี้กรมสรรพสามิตกำลัง อยู่ระหว่างปรับปรุงอัตราภาษีสรรพสามิต และชาเชียวเป็นหนึ่งในรายการสินค้าฟุ่มเฟือย จึงเข้าข่ายที่ต้องเสียภาษีสรรพ-สามิตในอัตรา 22% ของยอดขายปลีก ทำให้นายตันมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ขณะเดียวกัน นายปรีชาเสนอว่าหากไม่สามารถ ปรับลดราคาลงทันที 5 บาทได้ก็ให้ทยอย ปรับลดคราวละ 1-2 บาทก็ได้ ซึ่งนายตันก็รับไปพิจารณา
นอกจากนี้ นายตันยังชี้แจงว่า บริษัท ได้ปรับลดราคามาแล้วในช่วงนี้ โดยขาย2 ขวด 30 บาท ในร้านสะดวกซื้อเซเว่น- อีเลฟเว่น และในวันที่ 16 พ.ย.จะจัดกิจกรรมดังกล่าวร่วมกับเทสโก้ โลตัส แต่นายปรีชาระบุว่า เป็นการจัดโปรโมชันชั่วคราว ไม่ใช่การปรับลดราคาเพื่อผู้บริโภค โดยรวม
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการชี้แจงกันเสร็จ นายตันได้กล่าวว่าต้นทุนต่อขวดอยู่ที่ 10-12 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ แล้วมีกำไรสุทธิขวดละ 2 บาท หากปรับโครงสร้างราคาตอนนี้จะขาดทุนทันที โดยเฉพาะในช่วงที่กระทรวงพาณิชย์ ออกมากดดันให้ผู้ประกอบการชาเขียวปรับลดราคาลง ยอดขายของบริษัทฯลดลงทันทีประมาณ 50% โดยมียอดขายประมาณวันละ 5 แสนขวด จากก่อนหน้านี้วันละ 1 ล้านขวด
ทั้งนี้ โออิชิ เป็นผู้นำตลาดใน เครื่องดื่มประเภทชาเขียว โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 50-60% จากมูลค่าตลาดรวมปีละ 6,000 ล้านบา
วันเดียวกันนี้ พล.ร.ต.พิศิษฐ์ กลิ่น-เฟื่อง ประธานที่ปรึกษา บริษัท ยูโรเปี้ยน ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียว "โตเซน" ได้เข้าพบนายปรีชาเพื่อยืนยันว่าบริษัทจะยังคงจำหน่ายชาเขียวขนาดบรรจุ 500 ซีซี ขวดละ 15 บาทต่อไป พร้อมกับระบุว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมายอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 4% มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 5-6% กำลังการผลิตเดือนละ 30 ล้านขวด ต้นทุนอยู่ที่ขวดละ 7-8 บาท
นอกจากนี้ พล.ร.ต.พิศิษฐ์ยังแจ้งอีกว่า ได้รับการยืนยันจากนายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียว "โมชิ" ว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการปรับลดราคาจำหน่ายลงมาอยู่ที่ขวดละ 15 บาท จากที่ขายอยู่ 20บาท สำหรับสินค้าล็อตใหม่ที่จะออกวางจำหน่ายด้วย
|
|
|
|
|