|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บลจ.กรุงไทยคลอด กองทุนรวมกรุงไทยบริหาร เงิน 7 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐอายุ 1 ปี พร้อมเปิดขายหน่ายลงทุน 1-14 พฤศจิกายนนี้
นายศรีภพ สารสาส กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายกองทุนรวมกรุงไทยบริหาร เงิน7 (The Krung Thai Cash Management : KTCM7 ) อายุโครงการ 1 ปี มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ในวันที่ 1-14 พฤศจิกายน 2548 นี้ โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งเน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง และพันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นพร้อมผลตอบแทนเมื่อครบอายุโครงการ นอกจากนี้ ยังได้สิทธพิเศษสามารถนำกองทุนเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประมาณ 90% ของจำนวนเงินที่ลงทุนและสามารถ โอนเปลี่ยนมือให้บุคคลอื่นได้
นายศรีภพกล่าวต่อว่าภาวะตลาดตราสารหนี้ที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งนับว่าเป็นการปรับตัวที่สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยธนาคาร และอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงนับว่าเป็นกองทุนที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยง และได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่าน มา บลจ.กรุงไทยได้เสนอขายกอง ทุนใหม่ถึง 6 กองทุน โดยเป็นกอง ทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประ-เทศไทย และพันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยงสูงและหาโอกาสได้รับผล ตอบแทนสูงกว่าเงินฝากธนาคาร โดยที่ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นและผลตอบแทนคืนเมื่อครบกำหนดอายุโครงการ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ บลจ.กรุงไทยยังมีกอง ทุนในลักษณะดังกล่าวออกมาอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ลงทุนได้ทยอยจัดสรรเงินลงทุน นอกจากนี้ ยังมีกองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 3 ที่เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลังและมีความเสี่ยงในการลงทุนต่ำมาก รวมทั้งยังได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีด้วย
สำหรับแนวโน้มตลาดตราสารหนี้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ คาดว่าอัตราผลตอบแทนของตรา สารหนี้ภาครัฐน่าจะยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามทิศทางของการดำเนินนโยบาย การเงิน โดยเฉพาะการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องการให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นบวกภายในกลางปี 2549 ซึ่งหมายถึงดอกเบี้ยอาร์/พี 14 วัน น่าจะปรับเพิ่มได้อีก 0.50%-0.75% ในช่วงไตรมาส 4 และต่อเนื่องไปถึงครึ่งแรกของปีหน้า
นอกเหนือจากนั้น เชื่อว่ายังคงเป็นปัจจัยเดิมที่จะมีอิทธิพลต่อตลาดตราสารหนี้ ซึ่งได้แก่ ราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์และการเพิ่มอุปทานของตราสารหนี้ในตลาดจากการออกจำหน่ายพันธบัตรกองทุนน้ำมัน และโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะ
|
|
|
|
|