Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 พฤศจิกายน 2548
ฮอนด้ายอดวูบ1.5หมื่นคัน             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

   
search resources

ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย), บจก.
Automotive




"ฮอนด้า" ยอดขายวูบ ลดเป้า ปีนี้ 1-1.5 หมื่นคัน เหตุคนหันไปใช้ปิกอัพโทดะ สวนหมัดรัฐมนตรีอุตสาหกรรมโตโยต้า พึ่งพาปิกอัพเพียงอย่างเดียวพาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเสี่ยง! บี้รัฐทบทวนแนวคิดชะลอผลักดันเก๋งขนาดเล็ก เป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนคู่ปิกอัพใหม่ เหตุแนวโน้มตลาดเติบโตสูงมาก เผยเตรียมส่ง "ซีวิค โฉมใหม่" กู้ยอด 15 พ.ย.นี้

นายฮิโรชิ โทดะ ประธานบริษัทฮอนด้าออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ปีนี้น่าจะมียอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 6.9 แสนคัน หรือเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวมาจากตลาดปิกอัพที่มียอดขาย เพิ่มขึ้นกว่า 25% และมีสัดส่วนตลาดมากถึง 62% ขณะที่รถยนต์นั่ง หรือเก๋ง กลับมียอดขายลดลงจากปีก่อน 13% เนื่องจากลูกค้าได้หันมานิยมใช้ปิกอัพมากขึ้น เพราะปัจจุบันปิกอัพได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น โดยเฉพาะคุณภาพห้องโดยสารที่มีความสะดวกสบายเทียบเท่ากับรถเก๋ง

"ส่วนการส่งออกก็มีอัตราเติบโตดีเช่นกัน โดยตลอด 9 เดือนแรกของปีนี้ มียอดส่งออกรถยนต์ 3.12 แสนคัน เพิ่มขึ้น 32% รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์ และชิ้นส่วนมากกว่า 2.13 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 50% แต่ภายใต้ตัวเลขดังกล่าวเกือบ 74% มาจากยอดส่งออกปิกอัพ ซึ่งฮอนด้าเห็นว่า หากพึ่งพาผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งมากเกินไป ค่อนข้าง ที่จะเสี่ยง ไม่ว่าจะในอุตสาหกรรมใดก็ตาม และที่สำคัญตลาดปิกอัพทั่วโลกยกเว้นสหรัฐอเมริกา มีเพียง 1.2 ล้านคันเท่านั้น ดังนั้นประเทศไทยจึงควรจะมองหาโปรดักต์แชมเปี้ยนที่สอง มาสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน และรถเล็กก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด"

เหตุผลของการสนับสนุนรถขนาดเล็ก เป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนที่สอง คู่กับปิกอัพ มาจากการเล็งเห็นจากความนิยมในรถขนาดเล็กของกลุ่มผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีผลมาจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะยังไม่ปรับลดลงไปมากกว่านี้ แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาที่ผู้คนนิยมรถคันใหญ่ ส่วนแบ่งของตลาดรถยนต์ขนาดเล็กยังพุ่งสูงขึ้นเกือบ 35% ขณะเดียวกันประเทศญี่ปุ่น ที่รถเล็กเป็นที่นิยมอยู่แล้วมีแนวโน้มว่าจะนิยมรถที่มีขนาดเล็กลงไปอีก

นายโทดะกล่าวว่า ในส่วนของประเทศไทย อนาคตน่าจะได้เห็นการนำรถขนาดเล็กออกสู่ตลาดมากขึ้น เนื่องจากรถเล็กที่จะออกมามีความแตกต่างจากรถเล็กในอดีตไม่ว่าจะเป็นห้องโดยสารที่กว้างขวาง อุปกรณ์และการตกแต่งครบครันเช่นเดียวกับรถหรู ทำให้ผู้บริโภคหันมาพิจารณาซื้อรถขนาดเล็ก สองคัน จากที่ใช้รถขนาดใหญ่คันเดียวต่อครอบครัว ซึ่งเห็นได้จากแนวโน้มในหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา และคาดว่าแนวโน้มในประเทศก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ส่วนที่รัฐมนตรีอุตสาหกรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เห็นว่ารถเล็กยังไม่มีความจำเป็นต้องผลักดัน นั่นก็เป็นความเห็นอีกอย่างหนึ่ง แต่ในส่วนของฮอนด้า ยังยืนยันว่ารถเล็กมีความเหมาะสมที่จะเป็นโปรดักต์แชมป์เปี้ยนคู่กับปิกอัพ จากเหตุผลที่กล่าวมา ขณะที่มีค่ายรถบางยี่ห้อไม่เห็นด้วยกับการกำหนดสเปกรถ จะเป็นการขัดขวางการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ ฮอนด้ามองว่าหากไม่มีการกำหนด ก็จะทำให้ไม่มีความชัดเจนของรถเล็ก หรือการที่จะผลักดันให้เป็นโปรดักต์แชมป์เปี้ยนได้ ซึ่งกลายเป็นว่ามีความหลากหลายจนแยกไม่ออกŽ

นายโทดะ กล่าวต่อว่า ในส่วนของฮอนด้าขอสนับสนุนรถขนาดเล็ก และเรื่องนี้ไม่ใช่ฮอนด้าเป็นผู้ผลักดันมาแต่ต้น เป็นนโยบายของรัฐมาก่อนแล้ว และฮอนด้าก็พร้อมที่จะดำเนินนโยบาย แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปจากรัฐบาลจึงยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะผลิตรถเล็กหรือไม่ แต่มองเห็นว่าเป็นรถที่มีแนวโน้มที่มีอัตราการเติบโตสูง ไม่ว่าจะตลาดในไทยหรือ ทั่วโลก ซึ่งหากไทยต้องการจะเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 9 ของโลก ภายในปี 2553 ตามที่รัฐบาลได้วางแผนไว้ รถยนต์ขนาดเล็กก็น่าจะมีความ เหมาะสม ที่จะผลักดันให้เป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนคู่กับปิกอัพมากที่สุด

"อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดรถยนต์นั่งของไทยที่ลดลง เป็นผลมาจากผู้บริโภคหันมาใช้ปิกอัพมากขึ้น จากประสิทธิภาพเทียบเท่าเก๋งแล้ว ราคาน้ำมันดีเซลที่ถูกกว่าเบนซินก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง แต่ฮอนด้าที่มุ่งเน้นเฉพาะการผลิตรถเก๋ง ปีนี้จึงนับว่ามีผลกระทบมาก ทำให้คาดว่า เราจะมียอดขายประมาณ 6.0-6.5 หมื่นคัน หรือลดลงจากเป้าที่วางไว้เมื่อต้นปี 1.0-1.5 หมื่นคัน ซึ่งเป็นผลมาจากการถูกแย่งตลาดจากปิกอัพเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่เกิดจากกรณีลูกค้าทุบรถฮอนด้า ซีอาร์วีแต่อย่างใด"

ทั้งนี้ เพื่อผลักดันให้ยอดขายรถฮอนด้ากลับมาเติบโตเช่นเดิม ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ บริษัทฯ จะแนะนำเก๋งขนาดคอมแพกต์ ฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร i-VTEC ใหม่ ที่มีความโดดเด่นในด้านสมรรถนะในการขับเคลื่อนที่ทรงพลัง และความประหยัดน้ำมันในระดับเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรสู่ตลาด

สำหรับการลงทุนของรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยมีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2548 นี้ ฮอนด้า มีการลงทุนในประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 2,842 ล้านบาท การลงทุนนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งในการส่งเสริมและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับประเทศ ไทยในฐานะดีทรอยต์ ออฟเอเชีย ซึ่งปัจจุบันฮอนด้าเป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์นั่งอันดับสองของประเทศไทย โดยปีนี้คาดว่าจะส่งออกรถยนต์ประมาณ 4.7 หมื่นคัน จากไทย และสร้างรายได้จากการส่งออกประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 16%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us