เห็นรองผู้ว่า กทม. สามารถ ราชพลสิทธิ์ พร้อมทีมข้าราชการสำนักการจราจรและขนส่ง ตำรวจจราจร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ข้าราชการกองประชาสัมพันธ์ รวมถึงคณะสื่อมวลชน เดินทางไปดูงานระบบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะ BRT (Bus Rapid Transit) หรือรถเมล์ด่วนพิเศษที่ประเทศออสเตรเลียแล้วอดไม่ได้ที่จะต้องเขียนถึงในฐานะลูกค้าคนหนึ่งของ Translink
แรกเริ่มเดิมที เมื่อเกือบสามปีก่อนตอนที่ผมเดินทางไปถึงที่เมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียใหม่ๆ นั้น ระบบขนส่งมวลชนหลักๆ ภายในเมืองบริสเบนมีสามระบบด้วยกัน คือ ระบบรถโดยสารประจำทาง หรือรถเมล์, ระบบเรือเฟอร์รี่ และระบบรถไฟ โดยแต่ละระบบต่างดำเนินกิจการของตนเอง หรือเกือบจะแยกกันโดยอิสระ กล่าวคือ เมื่อเราซื้อบัตรโดย สารรถไฟ เราก็ใช้ได้แต่บนรถไฟ ในขณะที่บัตรโดยสารของเรือกับรถโดยสารประจำทางสามารถใช้ทดแทนกันได้ แต่เนื่องจากระบบทั้งสองบริหารจัดการแยกจากกัน การคิดราคาและระยะทางจึงแตกต่างกัน ถ้าเป็น ไปได้ ผมก็เลือกที่จะเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางสำหรับการเดินทางระยะใกล้เลือกเรือ เมื่อต้องการเดินทางชมลำน้ำบริสเบน หรือต้องการเดินทางไกลพอสมควร และเลือกรถไฟถ้าต้องการเดินทางไกลมาก
ระบบรถโดยสารประจำทางจะเป็นระบบที่ให้บริการเหมือนรถเมล์ในบ้านเรา โดยจะวิ่งระยะสั้นๆ ในแต่ละจุดของเมือง ระบบรถโดยสารประจำทางนี้จะแบ่งพื้นที่ให้บริการออกเป็นเขตพื้นที่เดินรถ หรือโซน (Zone) ซึ่งการคิดราคาค่าโดยสารก็จะคิดตามระยะการเดินทางระหว่างเขตพื้นที่ เช่น ถ้าวิ่งในเขตพื้นที่เดียวกันค่าโดยสารจะต่ำที่สุด, ถ้าวิ่งจากเขตหนึ่งไปอีกเขตที่อยู่ติดกัน ค่าโดยสารก็จะขึ้นมาอีกระดับ และถ้าวิ่งข้าม สองเขตขึ้นไปก็จะแพงขึ้นไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม เขตพื้นที่เดินรถมีรวมทั้งหมด 4 ระดับเขตเท่านั้น โดยการแบ่งเขต จะทำเป็นโซนวงกลมขยายออกจากศูนย์กลางเมือง หรือ Central Business District (CBD) ออกไปสู่รอบนอกเมือง
สำหรับเรือ ที่นี่มีทั้งเรือที่เรียกว่า ซิตี้แคท (City Cat) ซึ่งเป็นเรือรูปร่างแบนๆ สวยงาม และเรือเฟอร์รี่ คนที่นี่และนักเดินทางที่มาแวะเที่ยวที่บริสเบนมักจะหาโอกาสเดินทางด้วยซิตี้แคท โดยเดินทางล่องจากต้นสายถึงปลายสาย โดยปลายข้างหนึ่งคือ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐควีนส์แลนด์ (UQ) ที่ผมเรียนอยู่ และอีกปลายหนึ่งเรียกว่า Bretts Wharf ซึ่งเมื่อขึ้นฝั่งปลายนี้จะมีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกชิมหลายร้าน
แต่เดิมการเดินทางด้วยเรือจะแบ่งเป็น 4 ระดับโซนเช่นกัน คือ โซน 1 จะเป็นใจกลางเมือง ก่อนที่จะขยายออกมาเป็นวงกลม จนสุดที่ปลายทางทั้งสอง นั่นคือ ถ้าเราต้อง การเดินทางชมแม่น้ำบริสเบน ก็จะต้องซื้อตั๋วที่ครอบคลุมทุกระดับโซนนั่นเอง
ส่วนระบบรถไฟ ก่อนหน้านี้ผมใช้บริการค่อนข้างน้อย เพราะบ้านพักของผมกับมหาวิทยาลัยอยู่ใกล้กัน การเดินทางจึงใช้เท้าเดินเป็นหลัก สำหรับการเดินทางไปสถานที่อื่นก็มักจะใช้รถโดยสารประจำทางเป็นหลัก เพราะบ้านพักผมอยู่ใกล้ป้ายรถโดยสารประจำทางมากกว่า แต่เมื่อต้องการ เดินทางไกลหน่อย เช่น เดินทางไปโกลด์โคสต์ (Goldcoast) ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลชื่อดังของรัฐควีนส์แลนด์ และอยู่ไม่ห่างจากเมืองบริสเบนมากนัก วิธีการเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชนที่ดีที่สุดคือรถไฟเท่านั้น
ประมาณไม่ถึงหนึ่งปีที่ผ่านมา เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบขนส่งมวลชนของเมืองบริสเบน หรือที่เรียกว่า ระบบ ขนส่งมวลชนแห่งภาคตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์
โดยทางรัฐบาลของรัฐควีนส์แลนด์ได้ตัดสินใจรวมระบบตั๋วเดินทางสำหรับระบบขนส่งมวลชนทั้งสามระบบให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งนี่เป็นแผนการขั้นแรกก่อนเข้าสู่ TransLink Network Plan ซึ่งเป็นแผนขั้นต่อไป
การรวมระบบตั๋วเดินทาง โดยการกำหนดเขตพื้นที่เดินทาง หรือโซน ให้เป็นแบบเดียวกันของทั้งรถโดยสารประจำทาง, เรือ และรถไฟ โดยกำหนดเป็นโซนทั้งสิ้น 5 โซนในเมืองบริสเบน และ 23 โซนสำหรับเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์
ก่อนหน้านี้การกำหนดเขตพื้นที่การเดินทางจะแยกกัน ทำให้การใช้ตั๋วเดินทางไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ หรือใช้ได้แต่การคิดค่าเดินทางจะต่างกันดังกล่าวข้างต้น
แต่เมื่อกำหนดเขตพื้นที่เดินทางเดียวกันแล้ว นั่นหมายความว่า เมื่อต้องการเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชนในเมืองบริสเบนมีทางเลือกสามทาง หรือรถโดยสารประจำทาง, เรือ และรถไฟ ตามแต่ว่าอยู่ใกล้ระบบใด ในขณะที่ค่าเดินทางคิดเท่ากัน
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อผมต้องการเดินทางจากบ้านพักไปยังใจกลางเมืองก่อนหน้านี้ ผมจะต้องเลือกรถโดยสารประจำทางเท่านั้น เพราะบ้านผมอยู่ใกล้ป้ายรถโดยสารประจำทาง และการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางต้นทุนต่ำสุด แต่บางครั้งรถโดยสารประจำทางมีผู้ใช้บริการมาก ผมก็ต้องเลือกทางเรือที่สามารถไปถึงที่หมายได้เช่นกัน แต่ต้องเดินไปยังท่าเรือที่ไกลออกไปอีกนิดหนึ่ง และค่าใช้จ่ายแพงกว่าเกือบสองเท่า เมื่อรวมระบบตั๋วและการแบ่งเขตการเดินทางเข้าด้วยกัน ผมสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้โดยมีทางเลือกมากขึ้น
ผมขออธิบายเรื่องระบบตั๋วเดินทางที่นี่เพิ่มเติม เมื่อเราต้องเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง แต่ไม่มีรถโดยสารประจำทาง, รถไฟ หรือเรือ ที่ไปที่นั่นได้โดยตรงเพียงต่อเดียว เราสามารถต่อรถ, เรือ หรือรถไฟได้อีกหนึ่งครั้ง ภายในระยะเวลาที่กำหนด (คือ 2 ชั่วโมง) ไปสู่ปลายทางได้ ซึ่งเรียกว่า Transfer ซึ่งต่างจากระบบของกรุงเทพมหานคร ที่เราจะต้องจ่ายค่าเดินทางทุกครั้งที่ใช้บริการอะไรก็ตามสักอย่างหนึ่ง
นั่นหมายความว่า เมื่อผมเดินทางเข้าเมือง ผมอาจจะใช้รถโดยสารประจำทางเหมือนเดิม อาจจะใช้เรือ หรืออาจจะนั่งรถโดยสารประจำทาง แล้วไปแวะทานอาหารเล็กน้อยระหว่างทาง (แต่ไม่เกินสองชั่วโมง เพื่อจะยังคงสามารถใช้ตั๋วต่อได้) ก่อนที่จะนั่งรถไฟเข้าสู่ใจกลางเมือง โดยวิธีทั้งหมดนี้ ต้นทุนค่าเดินทางเท่ากันหมด
วิธีนี้ทำให้ผู้ใช้บริการระบบขนส่งมวลชน มีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น ในขณะที่ต้นทุนการเดินทางไม่สูงมากนัก และการที่ผู้ใช้บริการจะเก็บรถยนต์ส่วนตัวของตนไว้ที่บ้านก็ง่ายขึ้น ส่งผลให้จำนวนรถยนต์บนท้องถนนลดลง ปัญหารถติดก็แก้ได้ง่ายขึ้น
สำหรับ BRT ที่ทางทีมรองผู้ว่า กทม.เดินทางไปดูนั้น ที่บริสเบนเรียกว่า Busway Busway เกิดขึ้นจากแผนการรวบรวมระบบการบริหารจัดการการขนส่ง (คนและสินค้า) ในพื้นที่รัฐควีนส์แลนด์ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ หรือ Integrated Regional Transport Plan for South East Queensland (IRTP) ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลรัฐควีนส์แลนด์กับรัฐบาลกลางของออสเตรเลีย โดยโครงการนี้มีเป้าหมายที่จะทำให้เกิดสมดุล ระหว่างผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว, ผู้ใช้รถร่วมกัน, ผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชน, คนเดินถนน, ผู้ขับขี่จักรยาน และผู้ขนส่งสินค้า
สำหรับการพิจารณาระบบขนส่งมวลชน ในพื้นที่ที่รถไฟไปไม่ถึงนั้น ทางทีมงานเมืองบริสเบนได้พิจารณาหาจากหลากหลายรูปแบบของระบบขนส่ง แต่สุดท้ายทีมงานมีความเห็นร่วมกันว่า ความยืดหยุ่นของรถโดยสารประจำทางสามารถตอบสนองการพัฒนาและขยายตัวของพื้นที่นอกเมืองของบริสเบนที่เป็นลักษณะขยายในแนวกว้างได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัญหาการจราจรติดขัด และมุมมองต่อการให้บริการของรถโดยสารประจำทางที่ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เห็นว่าไร้ประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับรถไฟ เป็นปัญหาที่สำคัญที่จะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก
Busway จึงเป็นคำตอบสุดท้ายที่จะแก้ปัญหาเรื่องการจราจรติดขัด โดย Busway เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2000 โดยเป็นเส้นทางเชื่อมจาก CBD ไปยังเขต Woolloongabba ซึ่งใกล้ๆ นั้นมีสนามฟุตบอลของทีมไลออนส์ ซึ่งเป็นทีมออสเตร เลียนฟุตบอลประจำเมือง และห่างออกจากศูนย์กลางเมืองไปไม่มากนัก โดยวันเริ่มใช้งาน เป็นแมตช์แรกของการแข่งขันฟุตบอลในกีฬาโอลิมปิก ปี 2000
โดยให้รถโดยสารประจำทางกระจายไปรับคนจากพื้นที่ที่มีความหนาแน่นต่ำ จากนั้นวิ่งเข้าใช้ช่องทางจราจรพิเศษของ Busway เมื่อต้องเข้าสู่พื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น โดยจะจัดสร้างสถานีจอดรถของ Busway ในพื้นที่ที่เป็นจุดสำคัญหรือเป็นจุดศูนย์กลางของกิจกรรมต่างๆ เช่น ศูนย์กลางที่เป็นจุดปล่อยรถ หรืออู่รถ จะอยู่ใต้ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบริสเบน จุดนี้จะเป็นจุดศูนย์กลางของระบบรถโดยสารประจำทางที่ใหญ่ที่สุดของเมือง
สถานีรถ Busway จะเป็นจุดรวมของรถโดยสารประจำทางจากหลายๆ เส้นทาง ซึ่งทำให้ความถี่ของการให้บริการมีสูง กอปรกับการบริหารจัดการเส้นทางการเดินรถเข้าออกที่ดีพอ ทำให้สามารถขนส่งผู้คนได้เป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน
ช่องทางรถเมล์เฉพาะซึ่งแยกออกจากช่องทางเดินรถปกติของ Busway นี้ จะเป็นเส้นทางที่แยกจากศูนย์กลางเมืองออกไปยังพื้นที่รอบๆ ศูนย์กลางเมือง โดยเฉพาะในจุดที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก มีปริมาณผู้โดยสารเดินทางเข้าและออกจากศูนย์กลางเมืองจำนวนมหาศาล
จริงๆ แล้วช่องทางจราจรที่จัดไว้ให้สำหรับ Busway นี้ เป็นช่องทางเฉพาะบางช่วงเท่านั้น หมายความว่า รถโดยสารประจำทางปกติที่เดินทางเข้าสู่บริเวณที่พิจารณาว่า การจราจรหนาแน่นและทางเมืองจัดช่องทางจราจรเฉพาะให้ รถโดยสารเหล่านั้นก็จะมีช่องทางจราจรพิเศษของตน ไม่ต้องห่วงกับปัญหารถติด แต่เมื่อเดินทางออกจากจุดที่การจราจรหนาแน่นน้อยลง ก็จะไม่ได้กำหนดเป็นช่องทางจราจรเฉพาะรถโดยสารประจำทางเท่านั้น เพียงแต่อาจจะกำหนดช่วงเวลาว่า เวลาใดสำหรับรถประเภทไหนใช้ช่องทางจราจรนี้ได้ แต่เวลาที่การจราจรไม่ติดขัด รถทุกประเภทก็สามารถใช้ช่องทางนี้ได้เหมือนช่องทางจราจรปกติ
ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารจัดการ Busway ยกตัวอย่าง เช่น RAPID (Realtime Advanced Priority and Information Delivery) ซึ่งเป็นระบบที่บริหารจัดการโดยสภาบริหารเมืองบริสเบน โดยจะติดตั้งไว้ที่รถโดยสารประจำทางทุกคัน ระบบสามารถตรวจสอบว่ารถอยู่ ณ จุดใด และสามารถคำนวณว่าจะไปถึงป้ายหน้า และป้ายต่อๆ ไป ในเวลาเท่าไร โดยข้อมูลเหล่านี้จะส่งไปแสดง บนป้ายดิจิตอลซึ่งติดตั้งอยู่ที่ป้ายรถโดยสารประจำทางเกือบทุกป้าย โดยแสดงให้ดูว่ารถโดยสารแต่ละคันจะมาถึงเมื่อไร
นอกจากนี้ข้อมูลที่ได้จะใช้ในการศึกษา ว่ารถคันไหน คนขับคนใด ใช้เวลาเดินทางมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะมีผลต่อการกำหนดตารางการเดินทางสำหรับให้บริการผู้โดยสาร และการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ นอกจากนี้ข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถใช้ในการควบคุมไฟจราจร ที่สามารถเปิดไฟเขียวให้แก่รถโดยสารประจำทางบางคันที่วิ่งสายกว่าตารางเวลาสามารถวิ่งไปสู่จุดหมายได้เร็วยิ่งขึ้น
สิ่งนี้สามารถทำได้ เพราะจุดศูนย์กลาง ที่ใช้ตรวจสอบการเดินทางของรถโดยสารประจำทางกับระบบที่ควบคุมไฟจราจรเป็นจุดเดียวกัน
นั่นหมายความว่า ชาวบริสเบนไม่ต้องรอรถโดยสารประจำทางเหมือนรอคอยหยดน้ำกลางทะเลทรายในฤดูร้อนเหมือนชาวกรุงเทพฯ
มาถึงจุดนี้ ผมจึงอยากจะบอกก่อนที่จะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ว่า BRT มิใช่ของวิเศษที่จะแก้ปัญหารถติดได้ จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่างเหมือนที่เมืองบริสเบนทำมา ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน, บริหารจัดการ, การกำหนดพื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่ธุรกิจ, การใช้เทคโนโลยี, ความร่วมมือของประชาชน และอีกหลายๆ อย่างที่ยังไม่ได้กล่าวถึงไว้ในบทความนี้จึงจะทำสำเร็จได้
ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงมีเสียงบ่นจากชาวบริสเบนอยู่บ้างว่ารถเมล์มาช้า, บริการไม่ดี หรือรถติดมากอยู่
การมาดูงาน BRT แล้วใช้ BRT บ้าง จึงค่อนข้างจะบ้าดีเดือดจนเกินไป
ถึงแม้ว่าที่บริสเบน จะไม่มีรถไฟลอยฟ้า, รถไฟใต้ดิน, รถตู้, รถเมล์เล็ก, รถร่วมบริการ, มอเตอร์ไซค์รับจ้าง, เรือด่วน, เรือหาง ยาว, รถสองแถว, รถตุ๊กตุ๊ก หรืออีกสารพัดนวัตกรรมในการเดินทางขนส่งมวลชนเหมือนที่กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรมีอยู่ แต่ที่นี่ก็แก้ปัญหารถติดได้ชะงัดพอสมควร
ที่สำคัญ ผมวางแผนในการเดินทางได้ โดยไม่ต้องโตในรถ
อ่านเพิ่มเติม
1. Translink, http://www.translink.com.au
2. http://www.transinfo.qld.gov.au
3. Translink-delivering better public transport for you, Draft Translink Network Plan, South East Queensland.
4. บีอาร์ที : ทางเลือกใหม่สำหรับการเดินทาง ในอนาคต, http://203.155.220.217/office/dotat/activity/BRT/detail/brt.htm
5. "ตะลุยเมืองออสซี่ดูต้นแบบรถเมล์ BRT", หนังสือพิมพ์สยามรัฐ, วันที่ 26 กันยายน 2548, http://www.siamrath.co.th/Bkk. asp?ReviewID=117545
6. Busway, ttp://www.transport.qld.gov.au/qt/PubTrans.nsf/index/busways
7. "เจาะลึกระบบ BRT ออสซี่ ไขปริศนารถเมล์ ด่วนพิเศษกทม", ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 19 กันยายน 2548, http://www.manager. co.th/Qol/ViewNews.aspx? NewsID= 9480000127580
8. ทีมไลอ้อนส์, http://lions.com.au/
|